ความสำเร็จของ BTS

ความสำเร็จของ BTS กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ความสำเร็จของ BTS กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการสัมมนาระดับนานาชาติ

ความสำเร็จของ BTS บรรดานักวิชาการทั้งในประเทศและทั่วโลกต่างวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ BTS ถูกเรียกว่า “The Beatles แห่งศตวรรษที่ 21” ด้วยข้อมูลของพวกเขา

ในวันที่ 11 ธันวาคม บรรดานักวิชาการได้มารวมตัวกันที่ Baekkyang Nuri Hall, มหาวิทยาลัย Yonsei และค้นพบ 3 ปัจจัยหลักเบื้องหลัง “กระแส BTS ซินโดรม” นั่นก็คือข้อความ, กลุ่มแฟนคลับและสื่อดิจิตอล พวกเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องในงานสัมมนาระดับนานาชาติด้วยหัวข้อ “K-Pop Beyond BTS : เทคโนโลยีสื่อ, อุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์และวัฒนธรรมกลุ่มแฟนคลับ”

ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยวัฒนธรรมและเพศภายใต้สมาคมการศึกษาวารสารศาสตร์และสื่อสารเกาหลี งานดังกล่าวจัดขึ้นในเวลา 10.00 น. – 18.00 น. โดยมีนักวิชาการทั้งในประเทศและนักวิชาการที่เป็นที่รู้จักจากต่างประเทศ 50 คน, สมาชิกของสมาคมเกี่ยวกับการศึกษา, และคนทั่วไปจำนวน 200 คนเข้าร่วมงาน

คำกล่าวปราศรัยเปิดงานของศาสตราจารย์ฮงซุกคยอง (Hong Suk Kyung) (จากคณะวารสารศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยโซล) ร่วมกับบทความ 12 บทความและคำปราศรัยนั้นก็เพียงพอ

ที่จะเรียนรู้และยืนยันถึงเหตุผลในการสร้าง “The Beatles ในศตวรรษที่ 21” เป็นกระแสวัฒนธรรม BTS ซินโดรมแล้ว นอกจากเกาหลีแล้ว นักวิชาการจากประเทศอื่นๆ เช่น อเมริกา, แคนาดา, จีน, ฯลฯ ก็ต่างให้ความเห็นและมีบทวิเคราะห์ที่หลากหลายเกี่ยวกับ “กระแส BTS ซินโดรม”

กระแส BTS ซินโดรม กระแสที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับวงไหน ยกเว้นบังทัน ความสำเร็จของ BTS

1. กระแส BTS ซินโดรม

ความสำเร็จของ BTS

เหตุผลแรกของ “กระแส BTS ซินโดรม” ที่ถูกเลือกโดยบรรดานักวิชาการคือเรื่องข้อความ ศาสตราจารย์จินดัลยง (Jin Dal Yong) จากมหาวิทยาลัย Simon Fraser บอกว่า “ข้อความที่มาซึ่งความหวัง” คือความลับของ BTS ในการสร้างกลุ่มแฟนคลับที่ยิ่งใหญ่ จากการสำรวจผ่านแฟนคลับ BTS 200 คนทั่วโลกศาสตราจารย์จินวิเคราะห์ว่า

“แฟนคลับหลายคนได้รับความสบายใจจากข้อความที่จริงใจที่ BTS สื่อในชีวิตประจำวันและจากเพลงของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น ‘Love yourself’ ความสัมพันธ์ของการให้กำลังใจร่วมกัน, ความเข้าใจ, และความรักเพื่อโลกที่ดีขึ้นที่มีอยู่ระหว่างพวกเขา” เขาอธิบายว่า “BTS และแฟนคลับได้สร้างอิทธิพลที่แข็งแกร่งต่อเวทีโลกในช่วงเวลาสั้นๆ นี่จึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงสถานะปัจจุบันของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ไม่จำกัดในยุคแห่งสื่อใหม่นี้”

2. กลุ่มแฟนคลับในรูปแบบใหม่

ความสำเร็จของ BTS

เหตุผลที่สองที่ถูกเสนอจากโลกฝั่งวิชาการคือกลุ่มแฟนคลับในรูปแบบใหม่ สังคมแฟนคลับของ BTS อาร์มี่เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ ซึ่งพวกเขาสนับสนุนศิลปินอยู่เสมอและมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันเองอยู่ตลอด และยังแสดงออกแตกต่างกันไปอีกด้วย ศาสตราจารย์จองอารึม (Jung Ah Reum) จากมหาวิทยาลัยเสฉวน ประเทศจีน และนักวิจัยปริญญาเอก ลู เทียน (Lu Tian) จากมหาวิทยาลัย Baptist ประเทศฮ่องกง

แสดงความคิดเห็นว่ากลุ่มแฟนคลับ K-Pop ในทุกวันนี้มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดและเป็นระบบที่เป็นวัฒนธรรมอันเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและโดยเฉพาะความโดดเด่นที่เปลี่ยนไปหลังจากการปรากฏตัวของ BTS นอกไปจากนี้ นักวิชาการหลายคนยังพูดถึงเรื่องที่ BTS ได้เพิ่มความกระตือรือร้นจากแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นอีกด้วย

3. สื่อดิจิตอล

ความสำเร็จของ BTS

ปัจจัยสุดท้ายเบื้องหลัง “กระแส BTS ซินโดรม” ถูกระบุว่าคือ “สื่อดิจิตอล” สื่อดิจิตอลสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นรูปแบบที่พัฒนาขึ้นของเทคโนโลยี ศาสตราจารย์คิมจูอค (Kim Joo Ok) จากมหาวิทยาลัย Texas A&M International สหรัฐอเมริกา เน้นย้ำว่ามันคือ “การพัฒนาของดิจิตอล” ที่สร้าง “ปรากฏการณ์ BTS” ที่ร้อนแรงขึ้นเมื่อ BTS เป็นวงที่ “ยืนอยู่บนขอบ” และมาจากบริษัทเล็ก ศาสตราจารย์คิมวิเคราะห์ว่า

“จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิตอล เราได้พบกับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในแบบใหม่ๆ มากมาย ซึ่งมอบความสำเร็จให้กับ BTS – วงที่เป็นที่รู้จักว่าเป็น ‘The Beatles ในยุค Youtube’ ด้วยเช่นกัน จากสื่อโซเชียลมีเดียและความมั่นคงอย่างมากของกลุ่มแฟนคลับ การขยายตัวระดับโลกของปรากฏการณ์ BTS จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

ประธานคิมชุนซิกจากสมาคมวิจัยการพูดภาษาเกาหลี – ตัวแทนที่เป็นผู้อ่านคำปราศรัยเปิดงาน – กล่าวว่า “เราจัดงานประชุมระดับนานาชาตินี้ขึ้นมาเพราะเรารับรู้ถึงคุณค่าของการศึกษาวัฒนธรรมในปัจจุบันที่หมุนอยู่รอบ BTS – วงที่ยกระดับ K-Pop ไปสู่วัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมระดับโลก งานในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่ให้นักวิชาการมากมายทั้งในประเทศและต่างชาติให้มารวมตัวกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน”

บันทึกประจำวันของเด็กฝึกวัย 14 ปี “จองกุกกี้” และการเรียนเต้นในอเมริกาเมื่อปี 2012 ก่อนที่เขาจะเดบิวต์เป็น “จองกุก BTS”

ในช่วงฤดูร้อนปี 2012 เด็กฝึกวัย 14 ปี ที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ได้ขึ้นเครื่องบินไป LA เพื่อผจญภัยในชีวิต

1 ปีก่อนที่เขาจะเดบิวต์กับ BTS …
จอน จองกุก เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อการเรียนเต้น และเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2013 จองกุกได้แชร์ความทรงจำของเขาในบล็อกโพสต์ของเขาที่ตั้งชื่อมันว่า “การเรียนเต้นของมักเน่ในต่างแดนที่อเมริกา”
นี่คือสิ่งที่จองกุกเขียน

— บันทึกประจำวันของเด็กฝึกและการซ้อมเต้นในอเมริกา —

“สวัสดีครับ ผมจอนจองกุกกี้ ฮิฮิ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเปิดเผยในบล็อค ดังนั้นผมจึงค่อนข้างกังวล
ผมมาโพสต์ที่นี่เพราะอยากจะโชว์ภาพที่ถ่ายเมื่อปีที่แล้วระหว่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมตอนที่ผมไปเรียนเต้นในอเมริกา ตอนนี้เมื่อดูรูปภาพเหล่านี้ ผมจึงรู้ได้ว่าตัวเองยังเด็กขนาดไหน ทุกวันนี้ผมดูดีขึ้นมากกว่าที่คุณเห็นจากภาพด้านล่างนี้นะ ฮิฮิ”

“นี่คือตอนที่ผมขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปอเมริกา”
“두근두근두근” (นี่คือเสียงหัวใจของจองกุกกี้ที่เต้นรัว! ) นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน두근두근두근

ความสำเร็จของ BTS

 

“เพื่อจะเป็นนักเต้นจองกุกกี้ ผมเดินทางไปเรียนเต้นใน LA ประมาณ 1 เดือน นี่คือภาพที่ผมถ่ายหลังลงจากเครื่องบิน ผมดูเหนื่อย มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมขึ้นเครื่องบิน ผมคิดว่าเครื่องบินใช้เวลาเดินทางประมาณ 12-13 ชั่วโมง (^~^)”

ความสำเร็จของ BTS

 

“ระหว่างทางไปหอพักเห็นวิวสวยมากเกินไปจริงๆ ดังนั้นเราจึงหยุดรถถ่ายรูปกัน อ่าาา~~~~~~”

ความสำเร็จของ BTS

“ในวันแรกผมจำได้ว่าเรียนเต้นไปประมาณ 2 ~ 3 บทเรียน แต่เมื่อเทียบกับที่ผมจินตนาการเอาไว้ การเรียนเต้นมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนี่นา แต่เมื่อบทเรียนที่สองเริ่มขึ้น จิตใจของผมก็เริ่มมีปัญหา ผมไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดว่าอะไรㅜㅜ เทียบกับบทเรียนแรกมันยากกว่าและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!!

 

“ในตอนเช้า ผมไปร้านอาหารเกาหลีใกล้ๆหอพัก
กินอาหารเช้าและออกเดินทางไปเรียนเต้น ขอบคุณอาหารเกาหลีที่ทำให้ผมไม่คิดถึงบ้านเท่าไหร่ – ㅂ – !!”

ความสำเร็จของ BTS

“ผมไม่มีเรียนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นผมจึงไปเล่นที่ชายหาด! ผมหิวเลยไปร้านอาหาร แต่เจ้าของร้านเป็นคนเกาหลี ตอนแรกพวกเขาคิดว่าผมเป็นชาวต่างชาติ เขาจึงใช้ภาษาอังกฤษกับผม แต่ลูกชายของเจ้าของร้านจำได้ว่าผมเป็นคนเกาหลี เขาเลยให้เครื่องดื่มทางด้านซ้ายฟรีๆ ขอบคุณค้าบพี่ – ㅂ –

 

<ย่ำย่ำ วันนั้นร้อนมากผมเกือบตายระหว่างกินฮ่า ๆ>

 

“ผมได้เรียนเต้นเยอะมาก และต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ ผมจึงไปที่ร้านซักผ้าประมาณ 1 ~ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ บอกตามตรงว่ามันน่ารำคาญนิดหน่อย .. ^^;”

 

“ผมไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเพื่อดูนิทรรศการ แต่ไม่มีคนอยู่ที่บันได ดังนั้นผมจึงถ่ายรูปขณะโพสต์ท่าไนกี้เท่ๆ”

 

“นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ผมพูดถึง…นี่เป็นภาพแรกที่ผมถ่ายเมื่อมาถึงที่นี่… .. จะบอกว่านิทรรศการนี้คุ้มค่าแก่การไปชมมากครับ ฮ่าๆ”

 

“ผมกินกุ้งมังกรเป็นครั้งแรกที่ร้านอาหารทะเลใกล้ๆ แต่เพราะผมมาจากปูซาน ผมคิดว่าปูราชาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ฮะฮะ – ㅂ -“

 

“นี่คือท่าเต้นที่ผมเรียนตอนเริ่มเรียนเต้นครั้งแรก ผมทำผิดเยอะมากในช่วงหลัง ผมเลยอายเล็กน้อย ฮ่าๆและจากวีดีโอซ้อมเต้นที่ผมอัปโหลดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมคิดว่าตอนนี้ผมพัฒนาขึ้นมากเลย”

 

“นี่คือไลฟ์สไตล์ในระหว่างที่ผมมาเรียน ~ ผมมาเร็วไปหน่อย จึงยังไม่มีใครมาถึงㅜㅜ”

 

“ผมซื้อสเก็ตบอร์ดที่อเมริกา และได้เริ่มเล่นมันเป็นครั้งแรก !!”

 

“ครูของผมถ่ายภาพนี้ตอนที่ผมเล่นสเก็ตอยู่หน้าห้องซ้อม ผมยังมือใหม่มากกับการเล่นสเก็ตบอร์ด – ㅂ -“

 

“วิธีที่ดีที่สุดในการจบบล็อกก็คือโพสต์ท่า nike 2 !!!!!!”

 

“นี่คือการเรียนเต้นที่ต่างประเทศของจอนจองกุกกี้ในอเมริกา ผมจะกลับมา!! แล้วตอนนั้นผมจะเป็นอย่างไร? – ㅂ – ฮ่าฮ่าฮ่าบาย”

TMI: “ผมไปอเมริกาจู่ๆผมก็ไม่อยากเดบิวต์เป็นสมาชิกวง BTS แต่อยากเป็นนักเต้นแทน ผมแค่อยากจะเต้น ดังนั้นพี่ๆสมาชิกจึงซื้อไอศครีมมาโน้มน้าวใจผม”

“BTS Effect” เก้าอี้นวดไฟฟ้า Bodyfriend มียอดขายเพิ่มขึ้น 46% ถูกสั่งซื้อกว่า 5,000 ตัวในช่วง 6 วัน

Soo Choi 🧈💜 on Twitter: &quot;K media said Bodyfriend, the massage machine  which @BTS_twt endorsed were sold more than 5000pcs during the straight  holidays in Korea (4/30-5/5), the sales increased by 46%

 

เก้าอี้นวดไฟฟ้า Bodyfriend มีออเดอร์การสั่งซื้อเข้ามามากกว่า 5,000 ตัวในช่วงวันหยุด

ตามที่ Bodyfriend ได้รายงานในวันที่ 7 พฤษภาคม ผลกระทบหลังจาก BTS ได้เป็นพรีเซนเตอร์​แบรนด์​เก้าอี้นวดไฟฟ้า Bodyfriend​ มียอดขายเพิ่มขึ้นสูงถึง 46% จากปีที่แล้ว ในช่วงวันหยุดพิเศษ​ 30 เม.ย – 5 พ.ค (6 วัน) ได้มีการสั่งซื้อเก้าอี้นวดไฟฟ้าถึง 5,000 ตัว​ โดยมีพนักงานในทีมจัดส่งกว่า 300 คน และองค์กร​ที่จัดส่งเฉพาะกว่า 200 แห่ง

จากยอดการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและถล่มทะลาย แม้แต่ทางฝ่ายผู้บริหารในทีมจัดส่งของบริษัทก็ต้องออกไปช่วยจัดส่งเก้าอี้นวดไฟฟ้าด้วย

Bodyfriend ได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกโดยการเลือก BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมกับรูปแบบการโฆษณาแบบใหม่ ราคาเก้าอี้นวดไฟฟ้าอยู่ที่ 2,600 – 7,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 84,300 – 227,000 บาทไทย

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Jin วิชวลเบอร์หนึ่งของ BTS

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> UFABET