ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS ชายหนุ่มจากแดกูสู่ไอดอลอันดับหนึ่ง

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS ชายหนุ่มผู้มาจากแดกู สู่เส้นทางสายไอดอลแร็ปเปอร์อันดับหนึ่ง

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS มิน ยุนกิ มีชื่อในวงการว่า ชูก้า (SUGA) และ Agust D เป็นแร็ปเปอร์ นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เพลงชาวเกาหลีใต้ ในปี ค.ศ. 2013 ชูกาเปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์เกาหลีใต้ บีทีเอส ภายใต้สังกัดบิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์

เขาได้ปล่อย mixtape เดี่ยว ครั้งแรกในปี 2016 ภายใต้ชื่อ Agust D และขายทางออนไลน์ในปี 2018 อัลบั้มของเขาติดชาร์ตบน Billboard ในปี 2020 เขาได้ปล่อย mixtape เดี่ยวอีกครั้งในชื่อ D-2 และติดอันดับ 11 บน ‘Billboard 200’

ติดอันดับ 7 บน ‘UK Albums Chart’ และอันดับ 2 ใน ARIA Album Chart ของออสเตรเลีย ‘Korea Music Copyright Association’ ยกย่องชูก้าในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่มีเพลงมากกว่า 100 เพลง

รวมถึงเพลง “Wine” ของ Suran ที่ครองอันดับสองใน Gaon Music Chart และได้รับรางวัลเพลง Soul/R&B ยอดเยี่ยมแห่งปี ในงาน Melon Music Awards 2017

ทำความรู้จัก มินยุนกิ หรือ SUGA แร็ปเปอร์สุดเท่แห่งวง บีทีเอส (BTS) กันให้มากขึ้น ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

ชูก้า (Suga) หรือ มินยุนกิ (Min Yoon Gi) สมาชิกวง บีทีเอส (BTS) เขาคือแร็ปเปอร์หนุ่มวัย 27 ปี ที่มีความสามารถมากมาย และในปีนี้ก็เป็นปีที่ 8 ที่เขาเดบิวต์ในฐานะสมาชิกวงบีทีเอส เมื่อปี 2013 ด้วยอัลบั้ม 2 COOL 4 SKOOL

เบื้องหลังสเตจเนม ชูก้า

มีหลายเรื่องราวที่พูดถึงที่มาของสเตจเนม ชูก้า (Suga) บางคนบอกว่า ชื่อนี้ได้มากจากสีผิว ใบหน้าที่หล่อเหลา และรอยยิ้มของเขา เหมือนน้ำตาล (Sugar) ซึ่งเขาได้ตัดตัว R ออกไป เพราะว่าการเป็นฮิปฮอปไม่ควรมีภาพลักษณ์ที่หวานแบบนั้น แต่ Suga ในทางฮิปฮอปหมายถึงการเสพติด ทำให้คำนี้มีความหมายเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งความหวานและการเสพติด ที่เข้ากับบุคลิกของเขา

หน้าตาที่แตกต่างไปจากนิสัย

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

ชูก้ามีหน้าตาที่แตกต่างออกไปจากนิสัย ถึงแม้เขาจะดูน่ารัก แต่ก็เป็นคนมีพลัง เด็ดขาด เสียงแร็ปของเขาที่ทุ้มลึกทำให้เขาสร้างบุคลิกที่แตกต่างไปจากสมาชิกบีทีเอสคนอื่นๆ นอกจากนี้เนื้อร้องที่ตรงไปตรงมา ยังเป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของเขา เนื้อเพลงบางเพลงของชูก้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศทางรายการโทรทัศน์เนื่องจากตรงเกินไป แต่กลับถูกใจแฟนคลับ มีไม่กี่วงที่กล้าหยิบยกประเด็นที่ชูก้ากล้านำมาทำเพลง

เขาคือศิลปินที่มีความพยายาม

ตอนที่เรียนอยู่เกรด 6 มีคนเคยบอกว่า ชูก้า ทำตามฝันของเขาไม่ได้หรอก ตั้งแต่นั้นเขาเลยทุ่มเทฝึกฝน ด้วยความตั้งใจที่ว่า “จะทำให้คนที่พูดกับเขาในวันนั้นเสียใจ” เขาพยายามทุกทางในการฝึกแร็ป และความตั้งใจของเขาก็สำเร็จ เขากลายเป็นแร็ปเปอร์ที่มีชื่อเสียง ขนาดช่วงที่ดัดฟัน เขายังออกเสียงชัดทุกคำที่แร็ปเลย

คนแมนกับบุคลิกไม่สนโลก

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

ชูก้าเป็นคนที่มีบุคลิกภายนอกไม่สนโลก อาจเพราะเขาเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ผู้ชาย ทำให้เขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาและเด็ดขาด เป็นที่กลัวเกรงของรุ่นน้องในวง นอกจากนี้เขายังเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรก็ตาม ถ้าเขาตั้งใจจะทำอะไรเขาก็ต้องทำให้ได้ แต่เขาก็มีด้านอบอุ่นในแบบของตัวเอง ถึงแม้จะดูเย็นชา แต่ก็คอยดูแลน้องๆแบบเงียบๆตลอด

ผมชอบนอนครับ

Yoongi~Bear — Yoongi Sleeping Appreciation.

แฟนคลับจะรู้กันดีว่า เวลาว่างของชูก้าคือการนอน ถึงแม้เขาจะออกมาบอกว่า “ผมไม่ได้นอนเยอะ แต่เพราะต้องทำเพลงจนดึก ก็เลยต้องงีบบ่อยๆ” แต่สมาชิกคนอื่นในวงก็ยืนยันว่า ชูก้าหน่ะมีวิญญาณของคนแก่อายุ 50 ปีอยู่ในตัวเขา

เพื่อนในวงการของเขา

ถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบ ชูก้าจะกระตือรือร้นมาก (ถึงแม้หลายครั้งจะเห็นว่าเขาชอบงีบก็ตาม) เขามีเพื่อนในวงการหลายคน ทั้ง คิมฮีชอล, โจวมี, เจบี, ซูรัน, ทาโบล, คังแดเนียบ และอีกมากมาย

ชูก้าเคยโปรดิวซ์เพลง Wine ให้กับซูรัน ซึ่งเพลงนี้ได้รับรางวัลจากรายการเพลง และรางวัลอื่นๆอีกหลายรางวัล นอกจากนี้ชูก้ายังเคยทำเพลงร่วมกับทาโบลในปี 2019 ชื่อเพลง Song Request ของนักร้อง อีโซรา

เรื่องอื่นๆของชูก้า

ชูก้าดื่มเก่ง และกินเก่งด้วย เขากินอะไรก็ได้ เขามีเสื้อแจ็คเก็ตหนังตัวเก่งที่ใส่บ่อยๆ และชอบไปเล่นบาสเก็ตบอลทุกวันอาทิตย์ช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึกหัด ตอนนี้ความรักที่เขามีให้กับบาสเก็ตบอลยังไม่เปลี่ยนไป เขาเคยทำเพลงที่มีเสียงบาสเก็ตบอลด้วย ตอนเด็กๆเขาอยากเป็นสถาปนิก และเขาไม่ชอบขอเงินพ่อแม่ เลยเคยทำงานพาร์ทไทม์หลายงาน เขาเคยได้รับบาดเจ็บหนักตอนทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร

เรื่องราวของเด็กชายที่ต้องอดอาหารเพื่อประหยัดเงิน สู่สมาชิกวงไอดอลอันดับ 1 ของเกาหลี

ยุนกิ แรปเปอร์สุดฮอตแห่ง BTS

เด็กชายคนหนึ่ง ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ปี 1993 ในครอบครัวฐานะปานกลาง เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ เขาเรียนจบการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนแทจุน และเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนอัพกูจอง

ชื่อของเขาคือ มินยุนกิ (Min Yoon-gi) เขาเริ่มรักในเสียงเพลงหลังจากได้ฟังเพลง Reggae Muffin ของ Stony Skunk และอยากเป็นแร็ปเปอร์หลังจากได้ฟังเพลงของ Epik High เขาเริ่มเขียนเนื้อเพลงตั้งแต่ตอนอายุ 13 จากนั้นเขาเริ่มเรียนการใช้เครื่อง MIDI และตอนอายุ 17 ปี เขาได้งานพาร์ทไทม์ในสตูดิโออัดเพลงแถวบ้าน

การได้ทำงานที่นั่นทำให้เขาได้ฝึกฝนการแต่งเพลงและเรียบเรียงทำนอง เขายังได้พัฒนาทักษะการแร็ปของตัวเองขึ้นมาด้วย และจากนั้นได้เริ่มแร็ปใต้ดิน ในนาม ‘Gloss’ นอกจากนี้เขายังเคยเขียนเพลงเนื่องในโอกาสรำลึกเหตุการณ์จราจลในกวางจู “518-062” ตอนที่เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มฮิปฮอป D-Town เมื่อปี 2010

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของเขาไม่สนับสนุนเรื่องที่เขาอยากเป็นนักดนตรี เมื่อพวกเขาเห็นยุนกิเขียนเนื้อเพลงในสมุด พวกเขาก็จะทิ้งสมุดนั้นและดุด่าเขา เช่นเดียวกับพ่อแม่ส่วนใหญ่ พวกเขาบอกให้ยุนกิตั้งใจเรียน ยุนกิขจัดความเครียดเรื่องนี้ด้วยการเริ่มเล่นบาสเกตบอล จนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน

ถึงแม้จะหันไปเล่นกีฬา แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งเรื่องดนตรี เขาเริ่มขายงานของตัวเอง แต่ก็ถูกหลอกลวงหลายครั้ง เขาเคยไม่มีเงินจนถึงขั้นไม่มีเงินซื้อตั๋วรถบัส เขาต้องเดินกลับบ้านหรือไม่ก็ต้องอดอาหารเพื่อเสียค่ารถ

จนกระทั่งวันที่โชคชะตาเข้าข้างเขา เขาได้ออดิชั่นเข้าเป็นเด็กฝึกหัดค่าย Big Hit Entertainment ด้วยทักษะด้านการแร็ปและความสามารถที่โดดเด่น เขาได้รับอันดับ 2 ในการออดิชั่น บังชีฮยอก ได้เข้ามาหาเขาและบอกเขาว่าจะให้วงของเขาได้ทำเพลงและออกแบบท่าเต้น ถ้าเขายอมเข้าบริษัท มินยุนกิยอมเข้าบริษัทจากข้อเสนอดังกล่าว และได้เจอกับ นัมจุน (Namjoon) หรือ อาร์เอ็ม (RM) ที่เรารู้จัก ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและรูมเมท ระหว่างที่ทั้งคู่ฝึกไปเรื่อยๆ สมาชิกคนอื่นก็ถูกเพิ่มเข้ามาในวง

มินยุนกิ มีชื่อสเตจเนมว่า ชูก้า (Suga) ถึงแม้จะได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดแล้ว แต่ชีวิตของเขาก็ยังไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเงิน ถึงแม้จะได้รับเข้าบริษัท แต่พ่อแม่ยังคงไม่เห็นด้วยกับเส้นทางของเขา พวกเขาไม่เคยสนับสนุนด้านดนตรีของเขาเลย

ชูก้าทำงานพาร์ทไทม์ขณะที่อยู่ในโซล เขาถูกชนแล้วหนีขณะทำงานส่งของ ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกครอบครัว และยังคงไปฝึกซ้อมอยู่ถึงแม้กระดูกจะหัก ส่งผลจนถึงปัจจุบันที่ชูก้าไม่สามารถขยับแขนได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เขายังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต ถึงแม้จะกังวลและซึมเศร้าแต่เขาก็เลือกจะเดินต่อไป เขาสู้เพื่อความฝันในทุกวัน

และในที่สุด เขาก็ได้เดบิวต์ในปี 2013 กับวง บีทีเอส (BTS) วงไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้น พวกเขาเริ่มต้นจากกลุ่มแฟนคลับไม่กี่คน และอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ห้องเดียว 2 ปีหลังจากเดบิวต์ พวกเขาชนะรางวัลในรายการ The Show ด้วยเพลง I NEED U หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับรางวัลมากขึ้นและเริ่มเข้าร่วมเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ

อัลบั้ม “The Most Beautiful Moment in Life: Young Forever” ของวงบีทีเอสชนะรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากเวที Melon Music Award เมื่อปี 2016 และในปีเดียวกันพวกเขาได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีจาก Mnet พวกเขายังเดินหน้าสร้างฐานแฟนคลับไปทั่วโลก และได้รับเชิญไปออกรายการเพลงและเวทีประกาศรางวัลหลายรายการ

ถึงทุกวันนี้ มินยุนกิไม่ต้องเดินกลับบ้านและอดมื้อกินมื้อแล้ว เขาคือแร็ปเปอร์แห่งวงบีทีเอส และเป็นเขียนเพลงให้กับวง ตอนนี้เขาคือโปรดิวเซอร์ในรายชื่อสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี

มินยุนกิเพิ่งจะมีอัลบั้ม Mixtape ในนาม Agust D อัลบั้มใหม่ เนื้อเพลงของชูก้านั้นสามารถเข้าถึงอารมณ์ของคนฟังและถ่ายทอดความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ ครั้งต่อไปหากคุณคิดจะยอมแพ้ ให้คิดถึงเรื่องราวของชูก้าเอาไว้ เขาเคยมีแค่ 2 ทางเลือกคือ เดินกลับบ้าน หรือไม่ก็อดอาหารเพื่อเป็นค่ารถ แต่ตอนนี้เขามีทางเลือกนับไม่ถ้วน หวังว่าเรื่องราวของชูก้าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้

เรื่องราวของยุนกิ ที่เคยเกือบจะยอมแพ้กับการเป็นเทรนนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะคน ๆ หนึ่งช่วยไว้

เส้นทางการเติบโตเป็นคนดังระดับโลกของ ‘BTS’ นั้นเป็นที่ประจักษ์กันดีในสายตาของสาธารณะชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราวความยากลำบากในช่วงระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อเดบิวต์ของพวกเขา และในครั้งนี้ Mnet เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางอันแสนยากลำบากบนเส้นทางเพื่อการเดบิวต์เป็นสมาชิกวง BTS ของ ‘ชูก้า’ ผ่านรายการ TMI News

เมื่อครั้งที่ชูก้ายังเป็นเพียงเด็กประถมชั้น ป.6 เขาได้ฟังเพลง ‘Fly’ ผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง Epik High เป็นครั้งแรก และ ณ วินาทีนั้น เขาได้ตัดสินใจทันทีว่า ‘เขาจะเป็นแร๊ปเปอร์’ ส่งผลให้ ‘ดนตรี’ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขานับตั้งแต่นั้นมา

ด้วยเหตุนั้น ชูก้าตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิด เพื่อไปที่โซลด้วยความฝันที่จะกลายเป็นโปรดิวเซอร์ และกลายเป็นเด็กฝึกหัดภายใต้ค่าย Big Hit Entertainment ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะการใช้ชีวิตในฐานะเด็กฝึกหัด ชูก้าประสบปัญหาด้านการเงิน เขาไม่มีเงินเพียงพอสำหรับทั้งค่าอาหาร และค่าเดินทาง (รถเมล์) บ่อยครั้งที่เขาต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

แม้ว่าในเวลานั้น ชูก้ามีความสามารถมากพอที่จะสร้างสรรค์ผลงานดนตรี และขายเพื่อประทังชีวิตได้ แต่เกือบทุกครั้ง เขากลับถูกหลอก และไม่ได้รับเงินใด ๆ ส่งผลให้ชูก้าต้องทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่ไปกับการฝึกหัด เพื่อหาเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่าเล่าเรียน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการทำงานในฐานะพนักงานส่งของ ชูก้าประสบอุบัติเหตุ และได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งหมอได้แนะนำกับชูก้าว่าเขาไม่ควรทำกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องใช้ไหล่ (อย่างหนัก) อีก ด้วยปัญหาสะสมที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ เรื่องเงิน และเรื่องงานพาร์ทไทม์ ชูก้าตัดสินใจว่าเขาควรเลิกเป็นเด็กฝึกหัด

แต่โชคดีที่ ‘บัง ชีฮยอก’ (Bang Si-hyuk) รั้งชูก้าไว้ พร้อมบอกว่าค่ายยินดีที่จะรอให้ชูก้าพักฟื้น (อาการบาดเจ็บที่ไหล่) ให้หายดีก่อน อีกทั้งยังเสนอว่าจะช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการเรียนให้ทั้งหมด เพื่อช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องเงินให้กับชูก้า

และด้วยความพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างจริงใจนี้ของ ‘บัง ชีฮยอก’ ชูก้าตัดสินใจเป็นเด็กฝึกหัดของค่าย Big Hit Entertainment ต่อไป และเดบิวต์กลายเป็นสมาชิกของบอยกรุ๊ปที่มีชื่อว่า ‘BTS’ ในที่สุด ซึ่งเหตุผลเบื้องหลังของการตัดสินใจเดบิวต์ในฐานะหนึ่งในสมาชิกบอยกรุ๊ป ‘BTS’ แทนที่จะเดบิวต์เป็นโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังของชูก้านี้ ก็เป็นเพราะ ‘บัง ชีฮยอก’ อีกเช่นเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจที่ดีมาก ๆ จากทั้ง ‘บัง ชีฮยอก’ และ ‘ชูก้า’ ทุกคนเห็นด้วยไหม?

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> แทฮยอง วิชวลเบอร์สองของ BTS

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> แทงบอล