รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3 เรื่องเล่าจากเมมเบอร์ในมุมมองที่คุณไม่เคยรู้

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3 เรื่องเล่าจากเมมเบอร์ในมุมมองที่คุณไม่เคยรู้

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3 วงบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้ อยู่ภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ คิม นัมจุน, คิม ซอกจิน, มิน ยุนกิ, จอง โฮซอก, ปาร์ค จีมิน, คิม แทฮยอง และ จอน จองกุก ซึ่งพวกเขาได้เปิดตัวพร้อมผลงานแรกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 2013 ในซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า “No More Dream”

BTS หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Bangtans Boys (บังทันบอยส์) นั้นเป็นชื่อที่ย่อมาจากภาษาเกาหลี “방탄소년단” (บังทันโซนยอนดัน) มีความหมายว่า Bulletproof Boy Scouts (เด็กผู้ชายในเกราะกันกระสุน) ซึ่งต่อมาในปี 2017 วง BTS ได้มีการปรับเปลี่ยนความหมายของชื่อใหม่ เป็น Beyond the Scene (วัยรุ่นผู้พัฒนาสู่ความใฝ่ฝันอย่างไม่หยุดยั้งและไม่ยึดติดกับสถานภาพปัจจุบัน)

BTS กับมุมมองที่เปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQ+ รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3

คงต้องยอมรับว่า ประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ ยังไม่เป็นที่พูดถึงอย่างเปิดกว้างมากนัก ในสังคมของเกาหลีใต้ แต่ก็เป็นอะไรที่น่ายินดีมากๆ เลยที่มีศิลปินและไอดอลหลายคน เริ่มออกมาแสดงจุดยืนเป็นพันธมิต รกับผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Sunmi, CL, Amber และคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Kim Namjoon หรือ RM หัวหน้าวง BTS นั่นเอง

ถึงแม้จะไม่ได้ออกมาสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ แบบตรงๆ โจ่งแจ้ง แต่เขาก็ได้แสดงออกเล็กๆ น้อยๆ มาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ในปี 2013 RM ก็ได้ทวีตข้อความแนะนำเพลง Same Love ของ Macklemore และ Ryan Lewis ให้แฟนๆได้ไปติดตามฟังกัน

โดยเพลงที่เขาแนะนำนั้นมีเนื้อหาเป็นเพลงรักของคนรักร่วมเพศ โดย RM ยังได้บอกอีกว่า “เพลงนี้มีความไพเราะเมื่อฟังแบบไม่สนใจเนื้อร้อง แต่จะยิ่งไพเราะขึ้นไปอีกถ้าได้อ่านและเข้าใจเนื้อร้องไปด้วย” ซึ่งแม้ในปีนั้นจะเป็นปีที่วง BTS ของเขาเพิ่งจะเดบิวต์ แต่เขาก็ไม่มีความกังวลว่าจะสูญเสียความนิยมเพราะออกมาพูดถึงประเด็นที่อ่อนไหวแบบนี้ เรียกได้ว่ามีจุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น

และล่าสุดเมื่อปี 2018 วง BTS ได้มีโอกาสร่วมงานกับทาง UNICEF ในแคมเปญ LOVE YOURSELF ในงานประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ RM ได้พูดสุนทรพจน์ที่มีความยาวประมาณ 6 นาที มีอยู่ช่วงหนึ่งของสุนทรพจน์เขาได้พูดสนับสนุนให้คนแสดงตัวตนของตัวเองออกมา โดยเขาพูดว่า

No matter who you are, where you’re from, your skin colour, gender identity: speak yourself.

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากที่ไหน ผิวสีอะไร เพศสภาพเป็นแบบไหน แสดงความเป็นตัวคุณออกมาเถอะครับ”

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่การที่ RM พูดสนับสนุนให้คนแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเพศสภาพเนี่ยเป็นอะไรที่ทำให้แฟนคลับที่เป็น LGBTQ+ ปลื้มใจมากนะคะ เพราะมันทำให้เขาได้รับรู้ถึงกำลังใจและแรงสนับสนุนที่ศิลปินที่เขารักส่งมาให้นั่นเอง

และสำหรับ J-HOPE เมื่อปี 2018 ที่งาน Melon Music Awards (MMA) วง BTS กวาดไปหลายรางวัลเลย รวมถึงรางวัล Artist of the Year ด้วย ตอนที่ J-HOPE กล่าวขอบคุณมีตอนหนึ่งเขาได้พูดถึงการที่วง BTS มีโอกาสได้เดินทางไปทั่วโลก

BTS J-Hope's 2018 MMA Fancam Is Finally Here, And It's Lit

พวกเขาจึงได้เรียนรู้และรู้สึกถึงสิ่งต่างๆ มากมาย มันเป็นปีของการเรียนรู้ รู้สึก และทำความเข้าใจว่าผู้คนมีความหลากหลาย มีการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ กัน และมีผู้คนที่รู้สึกถึงความรักในแบบที่แตกต่างกันไป หนุ่ม J-HOPE ของเรายังได้พิสูจน์ให้เห็นอีกนะคะว่าการเดินทางเนี่ยทำให้เราได้เห็นโลกมากขึ้น ส่งผลให้เรามีมุมมองที่กว้างไกลขึ้นจริง ๆ

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3

RM อธิบายว่าทําไม BTS ถึงไม่ใช่วง BTS หากสมาชิกไม่ครบทั้ง 7 คน

ในระหว่างปี ค.ศ. 2010 และ ค.ศ. 2013 วงบีทีเอสได้เปลี่ยนแปลงรายชื่อสมาชิกหลายต่อหลายครั้ง บิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์รวมเด็กฝึกไว้ด้วยกันเพื่อให้พวกเขาโชว์ศักยภาพและเคมีในการทำงานร่วมกันก่อนตัดสินใจเลือกเจ็ดคนสุดท้าย

แม้ว่าครั้งหนึ่งรายชื่อจะถูกเลือกแล้วก็จริง แต่อุปสรรคของแต่ละคนก็เกือบจะทำให้พวกเขาไม่ได้เดบิวต์ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งอาร์เอ็ม (สมาชิกคนแรกของวงบีทีเอสหนีออกจากค่ายไป แต่พ่อของเขาก็ขอให้เขากลับไปยังบิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3

ไม่นานมานี้ อาร์เอ็มถูกถามว่ามีครั้งไหนบ้างที่เขารู้สึกสงสัยว่าหากวงบีทีเอสปราศจากสมาชิกทั้งเจ็ด

เขาตอบว่า “จริงๆ แล้วผมรู้สึกอย่างนั้นตลอด เหมือนที่เวลาเราถ่ายรูปและทุกคนไม่ได้อยู่ในภาพด้วย มันดูว่างเปล่า…ผมรู้สึกว่าส่วนใดส่วนหนึ่งขาดหายไป มันไม่สมบูรณ์จนกว่าพวกเราทั้ง 7 คนจะมายืนรวมกลุ่มกัน ผมว่าผมต้องเป็นโรคหมกมุ่นในความเป็นพวกเรา 7 คนมากแน่ๆ”

สมาชิกวงบีทีเอสทั้งเจ็ดคนต่างต้องการกันและกัน แต่พวกเขาจะเป็นบีทีเอสที่สมบูรณ์ไม่ได้หากขาดสมาชิกคนที่แปดอย่าง อาร์มี่ แฟนคลับที่คอยสนับสนุนวงบีทีเอสมาตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ ช่วยให้ความฝันของพวกเขากลายเป็นจริง พวกเรามีกันแค่เจ็ดคน แต่ตอนนี้พวกเรามีคุณอยู่ด้วยแล้ว

รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.3

Suga BTS เผยวิธีเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาในการสื่อสารกับแฟน ๆ ต่างชาติ!

ในฐานะไอดอลเกาหลีใต้ที่มีฐานแฟนคลับอยู่ทั่วโลก แฟน ๆ อินเตอร์ของ BTS มักจะอาศัยการแปลเนื้อเพลงและคำอธิบายต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจความหมายที่ไอดอลต้องการสื่อออกมาได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ซึ่งชูก้าได้พูดคุยกับนิตยสาร Rolling Stone เกี่ยวกับอุปสรรคด้านภาษาเหล่านี้ในการสื่อสารกับแฟน ๆ และตัวเขาเองก็พยายามจะลดช่องว่างที่ว่านี้ให้น้อยลงที่สุด

ชูก้าเผยว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่จะต้องรับมือกับกำแพงด้านภาษาของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่ตัวเขาเองก็เป็นแฟนเพลงฝั่งตะวันตกมาตั้งแต่เด็ก และต้องอาศัยความพยายามในการแปลเนื้อเพลงอย่างมากเพื่อทำความเข้าใจบริบทของเพลง

The Metaphysical Dream of BTS' SUGA aka Min Yoon-gi

“ตอนที่ผมโตขึ้น แน่นอนครับ ผมก็ฟังพวกเพลงฮิปฮอปและเพลงป๊อปแบบอเมริกัน ซึ่งภาษาอังกฤษของตัวผมก็ไม่ได้ดีมากนัก ดังนั้นผมก็เลยอ่านเนื้อเพลงและแปลมันเองครับ” – ชูก้ากล่าว

กำแพงภาษาเหล่านี้จะไม่มีทางขัดขวางแฟน ๆ ที่รักในเสียงดนตรี แต่อย่างไรก็ตาม ตัวชูก้าเองก็ยอมรับว่าบ่อยครั้งมักจะมีการเล่นคำในระดับที่มีเพียงเจ้าของภาษาเท่านั้นที่จะเข้าใจความหมายมันได้ในทันที

“ทุกคนจะเห็นได้ว่า สิ่งที่คนถนัดในภาษาอังกฤษอาจรู้สึกว่ามันเป็น Key lines, Key verses และ Punchline นั้น เอาจริง ๆ ผมเองก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมดเพราะความซับซ้อนทางภาษาน่ะครับ และผมก็คิดว่านั่นเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งทางภาษาที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้”- ชูก้ากล่าว

แล้วเขามีวิธีแก้ปัญหาพวกนี้ยังไง? ในฐานะที่ชูก้าเป็นคนที่เข้าใจความสมดุลทั้งสองอย่างนี้ เขาจึงพยายามเขียนเนื้อเพลงให้อยู่ตรงกลางที่ดึงดูดให้ทุกคนเข้าใจได้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพูดภาษาอื่น

200528 On Vlive | Suga, Min yoongi, Min suga

“ผมคิดว่า สิ่งสำคัญคือต้องพยายามหาสื่อความสุขตรงกลางที่ผู้คนทั้งจากภาษา วัฒนธรรม หรือภาษาอื่น ๆ เข้าใจได้ตรงกัน ดังนั้นพวกเราจึงพยายามเขียนเนื้อเพลงให้อยู่ในระดับกลาง ๆ เข้าไว้ แต่นั่นก็ต้องทำให้ผู้คนที่พูดภาษาอื่นสามารถเข้าใจได้เช่นเดียวกัน” – ชูก้ากล่าว

นอกจากนี้ ตัวชูก้าเองก็พยายามเรียนภาษาอังกฤษให้มากขึ้น เพื่อจะได้ลดช่องว่างในการสื่อสารกับเหล่าแฟน ๆ อีกด้วย

“ตอนนี้ตัวผมเองก็กำลังเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นเรื่อย ๆ พยายามทำความคุ้นเคยกับมันให้มากขึ้นครับ ดังนั้น หากเราทำให้ทั้งคนที่พูดภาษาเกาหลีและพูดภาษาอังกฤษสามารถเข้าใจเนื้อเพลงได้มันคงจะเยี่ยมไปเลย แต่ก็นั่นแหละครับ นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องเผชิญเหมือนกัน” – ชูก้ากล่าว

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> รวมเรื่องน่าสนใจของ BTS Pt.4

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> แทงบอลยูโร