รอยสักของจองกุกและจีมิน

รอยสักของจองกุกและจีมิน มารู้ความหมายความหมายของรอยสักหนุ่มๆกัน

รอยสักของจองกุกและจีมิน มารู้ความหมายของรอยสักที่พวกหนุ่มๆสักกันเถอะ

รอยสักของจองกุกและจีมิน รอยสัก (tattoo) เป็นศิลปะของการเสริมความงามอย่างหนึ่ง ซึ่งมีประวัติอันยาวนานนับพันปี ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน อียิปต์ และจีนโบราณ เป็นที่นิยมของชนทุกหมู่เหล่าและทุกเผ่าพันธุ์ในทุกๆ ส่วนของโลก และยังคงเป็นที่นิยมกันโดยไม่มีวันเสื่อมคลาย

คำว่า ‘tattoo’ มาจากภาษาของพวกชาวโพลีนีเซียน คือ ‘Tatau’ หมายถึงการตีหรือการเคาะ ซึ่งหมายถึงเสียงที่เกิดขึ้นจากการสักด้วยเครื่องสัก

ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้คนที่ชื่นชอบและได้ไปสักบนเรือนร่างของตัวเองเพื่อเป็นเครื่องหมายหรือตามความชอบของตน และแม้แต่ไอดอลเองก็เข้าสู่วงการสักเฉกเช่นกับคนอื่นๆ

โดยใน BTS นั้นก็มีสองหนุ่มอย่างจองกุกและจีมินที่ได้สร้างศิลปะบนเรือนร่างของตนเอง ซึ่งรอบสักแต่ละจุดนั้นก็มีความหมายตามฉบับที่พวกเขาอยากจะสื่อหรือเป้นรอยสักที่มีความหมายต่อพวกเขาอย่างมาก โดยในวันนี้เราจะมาดูกันว่า ทั้งจองกุกและจีมินนั้น สักจุดไหนและมีอะไรบ้าง

จีมิน วง BTS มีรอยสักบนร่างกายกี่จุดกันแน่? รอยสักของจองกุกและจีมิน

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้มีการขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย และ บีทีเอส (BTS) ยังมาทักทายแฟนคลับอยู่เสมอผ่านทั้งทาง YouTube และ VLives และเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา อาร์มี่ตาดีก็สังเกตเห็นว่า จีมิน (Jimin) มีรอยสักใหม่!

การสักยังถือเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในสังคมเกาหลี แต่แฟนคลับก็ยังคงชื่นชอบที่ได้เห็นไอดอลเอาชนะกรอบของสังคมและแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขาผ่านทางศิลปินบนร่างกาย

แฟนคลับตั้งข้อสงสัยว่า จีมินอาจจะสักมาได้ซักพักแล้ว แต่วันนี้เพิ่งเห็นกันชัดๆ จีมินมีรอยสักอยู่หลายส่วนบนร่างกาย เริ่มจากคำว่า “Nevermind”

รอยสักของจองกุกและจีมิน

รอยสัก “Nevermind” ของจีมิน ถูกเปิดตัวให้กันชัดครั้งแรกบนเวที MAMA เมื่อเดือนธันวาคม 2014 ซึ่งตอนนั้นหลายคนยังคิดว่าเป็นแค่แทททูชั่วคราว เพราะหลังจากนั้นก็ไม่เห็นรอยสักนี้บนหน้าอกของเขาอีก จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 แฟนคลับเห็นมักอีกครั้ง ตรงตำแหน่งเดิมในงาน MGA 2018

ต่อด้วยรอยสักเลข 13 

รอยสักของจองกุกและจีมิน

รอยสักเลข ‘13’ นี้ แฟนคลับเห็นครั้งแรกตอนที่จีมินไลฟ์ใน VLIVE เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยรอยสักนี้อยู่บริเวณข้อมือของเขา และเห็นซ้ำๆ ทั้งจากบนเวที M Countdown เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ และ ไลฟ์ VLIVE ของ จีมิน เมื่อ 30 มีนาคม

13 เป็นตัวเลขที่จีมินชอบ และวันเดบิวต์ของบีทีเอส คือวันที่ 13 มิถุนายน 2013, วันเกิดของจีมินยังเป็นวันที่ 13 เดือนตุลาคม ตัวเลข 13 บนข้อมือของเขาน่าจะมีความหมายถึงสิ่งเหล่านี้

รอยสักที่ข้อศอก

bts_._officail posted on their Instagram profile: “Do you have a tattoo ?  @bts_.7boy” | Avatar la leyenda de aang, Bts, Jimin de bts

รอยสักของจองกุกและจีมิน

แฟนคลับสังเกตว่า จีมิน ติดพลาสเตอร์ไว้ที่ข้อศอกของเขาตอนแสดงโชว์บนเวที M Countdown เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้แฟนคลับคิดว่าเขาน่าจะมีรอยสักใหม่อยู่บริเวณนั้น และตอนที่เขามาไลฟ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม เขาก็ยังติดพลาสเตอร์ตรงบริเวณข้อศอกอยู่ เขาน่าจะปิดบังบางสิ่ง  (ซึ่งแฟนคลับคิดว่าน่าจะเป็นรอยสัก) เอาไว้อีกแน่ๆ

เจาะลึกความหมายดี ๆ จากรอยสัก crossword ของหนุ่ม จองกุก BTS

Jungkook ASIA⟬𝄞⟭⁷ Rest on Twitter: "Jungkook finally exposed his tattooed sleeve, revealing new pieces of ink underneath. On the new episode of Run BTS, Jungkook rolled his sleeves and surprisingly, his tattoos

จอนจองกุก เป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดของวง BTS เขาเป็นที่รักของทั้ง ๆ บรรดาแฟน ๆ และเหล่าพี่ชายร่วมวงเอง จองกุกเป็นอีกหนึ่งคนที่มีวิถีการดำเนินชีวิตอันน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง การกระทำและคำพูดของเขาที่ถ่ายทอดออกมาก็มักจะกินใจเสมอ รวมไปถึงรอยสักตรงหน้าแขนที่ได้อวดโฉมให้แฟน ๆ ได้เห็นกันเมื่อปีก่อน ยิ่งใน Music video ของเพลง ON แล้ว เรียกได้ว่าเหมาะสมกับเขาเป็นอย่างมาก

รอยสักของจองกุกมีอยู่ด้วยกันหลายที่ แต่ละที่ล้วนแล้วแต่มีความหมายแบบฉบับพิเศษที่ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเกี่ยวกับความเป็นเกาหลีที่เข้มข้นในสายเลือด อาร์มมี่ที่คือแฟน ๆ ที่น่ารักของเขา หรือจะเป็นตัวตนของเขาเอง หนึ่งในรอยสักที่โดดเด่นเตะตาแฟน ๆ เป็นอย่างมากคือรอยสักที่เป็น crossword ของสองประโยคที่ไขว้กันอยู่ตรงแขนของเขา

ARMYs Figured Out Meaning Behind Jungkook's Crossword Tattoo - Koreaboo

จองกุกทำให้ถ้อยคำเหล่านั้นมีเลือดเนื้อและชีวิต มันขยับและร่ายรำทุกครั้งที่เขายกแขนขึ้นและเต้นไปพร้อม ๆ กัน ประโยคสองประโยคนั้นคือ Make hay while the sun shines ที่แปลว่า จงทำฟางตอนแดดส่อง ก็คือให้รีบคว้าสิ่งดี ๆ ไว้ในตอนที่มีโอกาส เหมือน ๆ กันกับสำนวนไทยของเราก็คือ น้ำขึ้นให้รีบตัก

รอยสักของจองกุกและจีมิน

และ Rather be dead than cool ที่มาจากเพลง Stay Away ของวงในตำนานอย่าง Nirvana ซึ่งจองกุกบอกเอาไว้เองว่าเป็นคติประจำใจของเขาเลยทีเดียว กับความหมายที่หลากหลายแล้วแต่คนจะตีความ ไม่ว่าจะเป็น ขอยอมตายแทนที่จะใช้ชีวิตอย่างไร้ความพยายาม การใช้ชีวิตอย่างหมดไฟแย่เสียยิ่งกว่าการไร้ชีวิต หรือแบบที่แฟนเพลงได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันคือ อยู่อย่างให้คนอื่นคิดว่าเท่ก็ตายไปเสียดีกว่า

อาร์มี่ค้นพบความหมายของรอยสักรูปดอกไม้ของจองกุก BTS

แฟนๆ ได้พูดคุยกันถึงความหมายเบื้องหลังรอยสักหนึ่งที่เป็นประโยคคำพูดหนึ่งไปแล้ว และตอนนี้พวกเขามีอีกทฤษฏีหนึ่งที่เป็นความหมายของรอยสักรูปดอกไม้

รอยสักใหม่บนแขนจองกุกนั้นถูกมองเห็นแค่ส่วนหนึ่งจนกระทั่งมิวสิควิดิโอเพลง “ON” ถูกปล่อยออกมา ซึ่งรอยสักรูปดอกไม้และตัวอักษรที่อยู่ข้างๆ กันสามารถเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น อาร์มี่จึงค้นหาความหมายที่อยู่เบื้องหลังรอยสักทันที

แฟนๆ เชื่อว่าดอกไม้ในรอยสักนั้นคือดอกลิลลี่ไทเกอร์ ซึ่งแฟนๆ คิดว่าเป็นตัวแทนของวันเกิดของเขา 1 กันยายน เพราะดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ประจำเดือนเกิดกันยายน และอาร์มี่ยังสังเกตเห็นว่าคำที่อยู่ใกล้กับดอกไม้คือ “Please love me” ซึ่งเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับดอกลิลลี่ไทเกอร์อีกด้วย

รอยสักของจองกุกและจีมิน

หลักฐานอีกอย่างนึงก็คือจองกุกเคยวาดดอกลิลลี่ไทเกอร์ไว้บนหน้ากากที่จัดแสดงในงานนิทรรศการ 24/7=Serendipity ของ BTS ในปี 2019 อีกด้วย

ไม่ว่าความหมายที่แท้จริงของรอยสักจะคืออะไร ทฤษฎีของแฟนคลับก็ดูจะสมเหตุสมผลดี! มีข่าวลือว่าจองกุกมีรอยสักมากกว่า 15 รอยสัก และดูเหมือนว่าอาร์มี่จะค่อยๆ ค้นพบความหมายของรอยสักไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่อาชีพนักร้องของเขาก้าวหน้าไปเรื่อยๆ

อัพเดท 5 รอยสักล่าสุดของ จองกุก BTS พร้อมความหมาย

A Jungkook tattoo is for you, find out in this test

จองกุก BTS มีรอยสักมากกว่าโหลตั้งแต่ไหล่ขวาจนถึงนิ้วภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล่าสุด แฟนๆ ได้รวบรวมภาพถ่ายของรอยสักเหล่านี้และศึกษาความหมายรอยสัก 5 ลายล่าสุดของเขา จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

  1. เสือ
    จองกุกเพิ่มรอยสักรูปเสือที่ปลายแขน ใต้ข้อพับข้อศอกของเขา เสือโคร่งตัวนี้มีความผูกพันเป็นพิเศษกับวัฒนธรรมเกาหลี
รอยสักของจองกุกและจีมิน

รอยสักของจองกุกจำลองมาจากเสือที่มีรูปร่างเหมือนคาบสมุทรเกาหลี เกาหลีเคยเป็นบ้านของประชากรเสือโคร่งจำนวนมากและเป็นที่รู้จักในนาม “ดินแดนแห่งเสือ” เสือเป็นสัตว์ที่เคารพนับถือ และมีบทบาทสำคัญในตำนานและศิลปะของเกาหลี

2.กุญแจซอล

จองกุกเพิ่มโน๊ตกุญแจซอล ถัดจากรอยสักที่เขียนเป็นข้อความว่า “rather be dead than cool” และ “may hay while the sun shines” รอยสักรูปกุญแจซอลนี้เป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีที่มองเห็นได้บนเสาดนตรีและมักปรากฎในงานศิลปะ

ตัวอย่างเช่น บนเปียโน กุญแจซอลเป็นเครื่องหมายประจำหลักที่ใช้กันมากสำหรับบันทึกระดับเสียงของเครื่องดนตรีหรือเสียงร้องที่มีระดับกลางถึงสูง ซึ่งถึงแม้ว่าจองกุกจะมีช่วงเสียงที่ยืดหยุ่น แต่เขามักจะร้องโน้ตที่สูงกว่าสำหรับเพลงของ BTS

กุญแจซอลของจองกุกปรากฏขึ้นตรงข้ามกับรอยสักที่ใหม่กว่าของเขา ซึ่งได้แก่รูปไมโครโฟน ทั้งสองเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักร้องที่มีชื่อเสียงระดับโลก!

3.เมฆพายุ

จองกุกไม่อายที่จะถมหมึกดำในรอยสักของเขา! รอยสักรูปเมฆพายุสีดำที่มีสายฟ้าฟาดสามารถแสดงสิ่งต่างๆ ได้หลายอย่าง รวมถึงความทุกข์ยาก การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด หรือความแข็งแกร่ง

จองกุกพูดถึงความสนใจในก้อนเมฆระหว่างการถ่ายทอดสด…

และเขาได้วาดภาพนี้ไว้ในงานศิลปะของเขา

รอยสักของจองกุกและจีมิน

4.นาฬิกา

เชื่อกันว่าจองกุกได้เพิ่มรอยสักนาฬิกาที่ปลายแขนของเขาหลังจากที่เพลงโซโล่ของเขา “My Time” ถูกปล่อยในปี 2020 นาฬิกาอาจเป็นตัวแทนของเพลงและธีมของเขา ใน “My Time” จองกุกร้องเพลงเกี่ยวกับการเติบโตมาในสปอตไลท์และความพยายามในการตามหาช่วงเวลาต่างๆในชีวิต

รอยสักของจองกุกและจีมิน

5.XCVII

ในช่วง 2021 Muster Sowoozoo แฟนๆ ได้ดูรอยสักที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของจองกุก รวมถึงรูปวัวที่มีคำว่า “XCVII”

รอยสักของจองกุกและจีมิน

วัวเป็นตัวแทนของปีเกิดของจองกุก “ปีแห่งวัว” ในขณะที่ “XCVII” คือปี 1997 ในตัวเลขโรมัน ในขณะที่ 97 line แบมแบม GOT7 มี “XCVII” และยูคยอมมีทั้งวัวและ “XCVII” เหมือนจองกุก

รอยสักของจองกุกและจีมิน

ซ้ายไปขวา แบมแบม ยูคยอม และจองกุก

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> เจโฮป ลีดเดอร์ที่สองของ BTS

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> แทงบอล