เรื่องประทับใจของ Jimin

เรื่องประทับใจของ Jimin นางฟ้าแห่งวงบังทัน พ่อหนุ่มรอยยิ้มหวานสะท้านใจอาร์มี่

เรื่องประทับใจของ Jimin เจ้าของฉายานางฟ้าแห่งบังทัน พ่อหนุ่มจากปูซานที่มาพร้อมเสน่ห์อันสดใส

เรื่องประทับใจของ Jimin ปาร์ค จีมิน (Park Ji Min) หรือที่แฟนๆ รู้จักกันในนาม จีมิน (Jimin) เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ปี 1995 เป็นนักร้อง, นักแต่งเพลง และนักเต้นชาวเกาหลีใต้ และเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์ชื่อดัง BTS สังกัดค่าย Big Hit Entertainment

พัคจีมิน ( 박 지 민 ) เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1995 ใน Geumjeong เขตปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ครอบครัวของเขาประกอบด้วย แม่พ่อ และน้องชาย สมัยมัธยมต้นเขาเคยเรียนเต้น และเรียนรู้ทักษะการเต้นประเภทป๊อปปิ้ง (popping) และล็อกแดนซ์ (Locking dance) หลังนั้นคุณครูของเขาจึงแนะนำให้เขาออดิชั่นกับ Big Hit Entertainment เมื่อผ่านการออดิชั่นในปี 2012 เขาจึงย้ายไปเรียนที่ Korean Arts High School และจบการศึกษาในปี 2014

จีมิน ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของ BTS ในวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2013 ด้วยการปล่อยซิงเกิ้ล “No More Dream” โดยในวง BTS นั้นทาง จีมิน อยู่ในตำแหน่งของนักร้องและนักเต้น ซึ่งเขาได้ปล่อยเพลงเดี่ยวออกมา 3 เพลงกับวง BTS

คือเพลง “Lie” จากอัลบั้ม Wings (2016), “Serendipity” จากอัลบั้ม LOVE YOURSELF 承 ‘Her’ (2017) และ “Filter” จากอัลบั้ม Map of the Soul: 7 (2020) และในเดือนพฤษภาคม ปี 2019 มิวสิควิดีโอเพลง “Serendipity” นี้ก็ได้ทำให้ จีมิน กลายเป็นสมาชิกวง BTS คนแรกที่มีมิวสิควิดีโอเพลงเดี่ยวที่ทำยอดวิวบน YouTube สูงถึง 100 ล้านวิว

4 เรื่องราวของ จีมิน ที่จะทำให้คุณเสียน้ำตาได้ เรื่องประทับใจของ Jimin

1. การไดเอทที่เข้มงวดมากเกินไปของจีมิน

จีมินเปิดเผยในรายการ Please Take Care of My Refrigerator ว่าเขาไดเอทในช่วงโปรโมท เพลง Blood, Sweat and Tears หนักมาก เพราะอยากจะดูดี ทำให้เขาตัดสินใจกินอาหารแค่มื้อเดียวตลอดเวลา 10 วัน

“พอส่องกระจกช่วงโปรโมท Blood, Sweat and Tears ผมก็อยากหล่อบ้าง ผมเลยไดเอทโดยการกินอาหารแค่มื้อเดียวตลอดเวลา 10 วัน” – จีมิน

เรื่องประทับใจของ Jimin

2. เกือบไม่ได้เดบิวต์กับบีทีเอส

จีมินเคยเกือบไม่ได้เดบิวต์กับบีทีเอสเพราะทักษะการเต้นของเขา ที่เป็นแบบร่วมสมัย ซึ่งไม่เข้ากับการเต้นของวง ทำให้เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัด

“ผมถนัดการเต้นแบบร่วมสมัยครับ แต่ว่าท่าเต้นของวงแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ทำให้ตอนนั้นเป็นเรื่องท้าทายความสามารถผมมาก” – จีมิน

อีกทั้งยังมีคนในบริษัท Big Hit Entertainment ไม่อยากให้จีมินเดบิวต์กับวง

“(ผมพูดชื่อพวกเขาไม่ได้) แต่มีคนหลายคนเลยที่ไม่เห็นด้วย (กับการที่ผมจะเดบิวต์กับวง)” – จีมิน

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ เขาพยายามอย่างหนักจนในที่สุดเขาก็ได้เดบิวต์กับวงบีทีเอสในปี 2013

เรื่องประทับใจของ Jimin

3. ช่วงเวลาที่ไม่สามารถจัดการความเครียดของตัวเองได้

เมื่อปี 2017 จีมินเล่าว่าเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนและดูแลตัวเองในยามเวลาว่าง

“ตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยขึ้น ก่อนหน้านี้ ผมเคยคิดว่า ‘ผมจะอยู่แต่ในห้องซ้อม ผมจะพักในห้องซ้อมและจะนอนในห้องซ้อม'” – จีมิน

และจีมินเองยังเล่าว่าเมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่าจะจัดการความเครียดของตัวเองอย่างไร แต่พอได้ออกไปเจอผู้คนมันกลับทำให้เขารู้วิธีการบรรเทาความเครียดขึ้นมาได้

“ผมใช้ชีวิตแบบนั้นพักหนึ่ง แล้วคิดขึ้นว่า ‘ผมทำอะไรได้อีกบ้างนะ ยกเว้นการแสดงบนเวที?’ ผมนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยผ่อนคลายความเครียดเลย และพอได้ออกไปเจอผู้คนที่ผมอยากเจอ มันทำให้ผมพบวิธีจัดการความเครียด” – จีมิน

เขายังบอกอีกว่า นอกจากเพื่อนๆจะช่วยให้เขาหายเครียดแล้ว ยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

“หลังจากได้ออกไปกับเพื่อน ผมโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น ผมน่าจะทำได้ดีขึ้นเวลาตัวเองรู้สึกสนุก” – จีมิน

เรื่องประทับใจของ Jimin

4. ความผิดพลาดบนเวที

ตอนหนึ่งของรายการ Burn The Stage จีมินดูผิดหวังหลังจากผิดพลาดในการแสดงเดี่ยวของเขา จีมินบอกว่าเวลาเขาแสดง เขาอยากให้โชว์ออกมาสมบูรณ์แบบเพื่อแฟนคลับ เพราะฉะนั้นการทำผิดพลาดถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา

หลังจากได้เห็นภาพนี้ ทำให้อาร์มี่รู้ว่าจีมินตั้งใจมากเพียงใด เขารู้สึกผิดพลาดทั้งที่หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดพลาดตรงไหน

9 highlights from BTS "Burn The Stage" episodes 1 & 2 | SBS PopAsia

จีมินแห่งบังทัน ผู้ทำลายกรอบเรื่องเพศ สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ และโลกใบนี้

จีมินนั้นถูกพูดถึงในบทความของนิตยสาร Harper’s Bazaar ประเทศญี่ปุ่น “ยุคที่ผู้ชายก้าวข้ามขอบเขตและสวมใส่ต่างหู”

บทความดังกล่าวพูดถึงปีที่ผ่านๆ มา เรื่องค่านิยมของความเป็นชายที่ผ่อนลง แบรนด์ดังอย่าง Chanel ก็ขายเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายแล้ว ในขณะที่ Gucci และ Balenciaga ได้แนะนำเครื่องประดับอัญมณีให้กับลุคการแต่งตัวของผู้ชาย หลายๆ แบรนด์ก็เริ่มที่จะทำลายกรอบของเพศชายเช่นกัน

จีมินถูกพูดถึงร่วมกับคนดังที่เป็นที่รู้จักคนอื่น เช่น Harry Styles และ Nick Jonas ในเรื่องการสวมใส่ต่างหู

บทความกล่าวถึงจีมินว่า:

“จีมิน BTS ได้แสดงให้เห็นสไตล์ของเขาโดยไม่เพียงการแต่งหน้าและชุดแนวย้อนยุคเท่านั้น แต่ยังมีต่างหูหลากหลายแบบตั้งแต่ต่างหูห่วงไปจนถึงต่างหูที่เป็นพู่”

ความรู้สึกไม่เข้ากันของสิ่งต่างๆ ได้เริ่มจางหายไป ทุกวันนี้ ผู้ชายสามารถสวมใส่ต่างหูได้แล้วถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่คนดังหรือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม LGBT ก็ตาม

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีมินทำลายค่านิยมเรื่องเพศ

ในตอนนึงของซีซันที่ 1 ในรายการ Bon Voyage เรียลลิตี้โชว์ของ BTS เกี่ยวกับการเดินทาง จีมินหลบเลี่ยงคำพูดที่บ่งชี้กรอบเดิมๆ ของเมมเบอร์ในวง จองกุก (Jungkook) และวี (V) ที่พูดว่าผู้ชายไม่ควรเช็ครูปเซลฟี่ของตัวเองซึ่งถูกแก้ไขโดยจีมิน ผู้ที่ถามง่ายๆ ว่า “นายเอาอีกแล้ว…อะไรคือผู้ชายล่ะ?”

จีมิน: ขอฉันดูหน่อยว่ามันออกมาเป็นยังไง

จองกุก: ผู้ชายไม่ควรเช็คเซลฟี่นะ

จีมิน: ประเด็นของการพูดแบบนั้นคืออะไร?

วี: ผู้ชายถ่ายเซลฟี่แต่ไม่ควรเช็ครูปเซลฟี่

เจโฮป: ผู้ชายไม่ทำแบบนั้น

จีมิน: นายเอาอีกแล้ว…อะไรคือ “ผู้ชาย” กันล่ะ?

จีมินกำลังพูดว่าช่างกรอบเรื่องเพศสิ

จากการพูดแสดงความรักถึงแม่ของเขาอย่างอิสระไปจนถึงเรื่องอยากแต่งหน้าให้พ่อ จีมินไม่เคยห่วงเรื่องสายตาที่ตัดสินของคนทั่วไปเลย

จีมินเป็นเมมเบอร์ที่เริ่มธรรมเนียมการฉลองวันเกิดและให้ของขวัญกันระหว่างเมมเบอร์ BTS และอาร์เอ็ม (RM) ก็เคยเล่าถึงสิ่งที่พวกเขามองว่าไม่สมกับความเป็นผู้ชายของพวกเขา

จีมินคือผู้ชายที่ไม่กังวลว่าเสื้อผ้าเซ็ทนี้เป็นของเพศไหน เขาใส่เสื้อผ้าจากความชอบของเขาและจากเรื่องที่เขาใส่ออกมาดูดีไหม

เหตุการณ์ที่น่าสนใจที่สุดคือในการแสดงของ BTS ในงาน Melon Music Awards ปี 2018 จีมินแสดงเพลง Buchaechum ซึ่งเป็นเพลงดั้งเดิมของการเต้นสไตล์เกาหลีหรือเรียกได้ว่าการรำพัด ซึ่งปกติแล้วจะถูกแสดงโดยกลุ่มนักเต้นรำผู้หญิง

จีมินไม่เคยกังวลเลยว่าสังคมหรือโลกนี้จะพูดอะไรกับสิ่งที่เขาเลือกในฐานะผู้ชาย ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ ของเขาไปทั่วโลก

จีมิน เผยถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับวงถ้าพวกเขาไม่ได้ต่อสัญญา

ในโอกาสครบรอบ 7 ปีของ BTS พวกเขาได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ชื่อ “Bang Bang Con: The Live” จากนั้นก็มีการเปิดเผยในคอนเสิร์ตโดยจินว่าถ้าพวกเขาไม่ได้ต่อสัญญา วงก็จะยุบลงในวันที่ 13 มิถุนายน 2020

ในเดือนตุลาคม 2018 BTS ประกาศว่าพวกเขาจะต่อสัญญากับ Big Hit Entertainment ซึ่งบางส่วนก็ประหลาดใจกับข่าวนี้เพราะเป็นเรื่องที่พบได้ยากสำหรับวงที่จะมีอายุวงนานเท่าวงของพวกเขาและสมาชิกในวงยังต่อสัญญากับบริษัทและทำกิจกรรมกับวงครบทุกคน แต่บางส่วนก็ไม่ประหลาดใจเลยเนื่องจาก BTS เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มของความรุ่งเรืองในตลาดตะวันตกเท่านั้นในตอนนี้ และพวกเขายังถูกมองว่าเป็นวงที่อยู่แนวหน้าของกระแสความนิยมเกาหลีด้วย

ในงานประกาศรางวัล MAMA awards ในปี 2019 จินได้เปิดเผยในตอนที่ขึ้นไปรับรางวัลและกล่าวขอบคุณรางวัล “ศิลปินแห่งปี” ว่าพวกเขาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากกันมาในช่วงต้นปี 2018 และมีความคิดเกี่ยวกับการยุบวงถึงแม้วงจะประสบความสำเร็จก็ตาม

“เรามีช่วงเวลาที่ยากลำบากในเรื่องจิตใจในช่วงต้นปี ในขณะที่พูดคุยถึงอนาคตกับสมาชิกในวงด้วยกัน เรามีความคิดเกี่ยวกับการยุบวงด้วย” จินบอก

ในวันอังคารที่ 16 มิถุนายน จีมินได้มาไลฟ์ใน Youtube เขาได้พูดถึงความเป็นไปได้เรื่องสัญญาของเขาที่จะจบลงหากพวกเขาไม่ได้ต่อสัญญา เขาบอกว่าถ้าหากสมาชิกในวงไม่ได้เห็นตรงกันว่าจะต่อสัญญา BTS ก็จะยุบวงลงในวันที่ 13 มิถุนายน 2020 และสมาชิกทุกคนก็จะแยกทางกันไป

“เริ่มตั้งแต่ 3 วันก่อน เราก็จะเลิกมาเจอกันถ้าหากพวกเราเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาของเรา” จีมินเล่าต่อถึงวันครบรอบ 7 ปีของพวกเขาว่าพวกเขากอดกันและจับมือกันในขณะที่คุยกันถึงเรื่องที่พวกเขาเกือบยุบวงกัน

ในวันที่ 13 มิถุนายน 2013 BTS เดบิวต์ด้วยอัลบั้ม “2 Cool 4 Skool” อัลบั้มแรกในชุดอัลบั้มเกี่ยวกับโรงเรียน พวกเขาเดบิวต์ด้วยเพลง “No More Dream” ซึ่งติดชาร์ทในอันดับ 124 ในเกาหลีใต้ เพลงดังกล่าวหล่นจากชาร์ทอย่างรวดเร็ว 2 ปีต่อมา BTS ชนะในรายการเพลงเป็นครั้งแรกด้วยเพลง “I NEED U” ในรายการ “The Show” ทางช่อง SBS MTV นับจากนั้นมา พวกเขาก็พุ่งทะยานขึ้นในชาร์ทต่างๆ ทั้งในฝั่งตะวันตกและตะวันออก พวกเขาได้ขึ้นแสดงบนเวทีมากมายทั้งในงาน Grammys และงาน American Music Awards (AMAs)

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> BTS members

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เว็บดูบอลสดฟรี

>>>>> แทงบอลยูโร