BTS Albums

BTS Albums รวมอัลบั้มน่าจดจำของบังทัน (มีทั้งอัลบั้มเก่า-ใหม่)

BTS Albums รวบรวมอัลบั้มน่าเก็บและน่าจดจำของบังทัน ผลงานอันงดงามที่กลั่นมาจากใจจริง

BTS Albums แน่นอนว่าทุกคนก็คงทราบกันดี ว่าการที่ศิลปินจะออกผลงานออกมาครั้งหนึ่ง พวกเขาจะต้องใช้เวลาและแรงกาย ในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปวาดหรือเพลงก็ตามแต่ สิ่งที่พวกเขาทำออกมา ย่อมออกมาจากความรู้สึก และสิ่งที่พวกเขาจะต้องการสื่อให้ผู้ที่ได้รับรู้ ว่าพวกเขานั้นรู้สึกนึกคิดยังไง โดยไม่ได้พูดตรงๆ แต่ใส่เข้าไปในผลงานของตัวเองแทน

เช่นกันกับ BTS ที่ต่างก็ทุ่มเทให้กับผลงานของตัวเองมากมาย ไม่ว่าจะเพลงหรืออัลบั้มที่มีการพัฒนาการ และการเติบโต ความรู้สึกที่อยากส่งถึงอาร์มี่ และความรู้สึกของพวกเขาที่ต้องการให้แฟนคลับรับรู้ วันนี้เราจึงมาเล่าถึงอัลบั้มต่างๆของบีทีเอสกัน ซึ่งเรายกมาด้วยกันถึง 3 อัลบั้มใหญ่

BTS Albums : WINGS รสชาติสดใหม่ ภายใต้วัตถุดิบเดิม 

BTS Albums

WINGS เป็นอัลบัมที่หลายคนอาจมองว่าแตกต่างจากอัลบัมก่อนหน้าอย่างชัดเจน สำหรับเราแล้ว มองว่าอัลบัมนี้ไม่ได้แหก หรือแหวกความเป็นบังทันมากขนาดนั้น ยังมีลายเซ็นของน้องๆอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า Bighit มีทีมงานคุณภาพอยู่ในมือก็คือรายชื่อคนทำเพลงตั้งแต่อัลบัมแรก จนมาถึงอัลบัมล่าสุด แทบจะใช้ทีมงานเดิมทั้งหมด แต่สามารถสร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ และพัฒนาวัตถุดิบที่ทั้ง Bighit และบังทันมี ให้ดียิ่งขึ้น และกลมกล่อมยิ่งขึ้น

สิ่งที่เห็นได้ชัดในอัลบัมนี้ก็คือแนวเพลงที่ฟังครั้งแรกทั้งอัลบัมก็รู้เลยว่า ครั้งนี้ Bighit คงเอาจริงแล้วที่จะให้น้องๆออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้น กลุ่มคนฟังที่กว้างขึ้น แนวเพลงส่วนใหญ่อาจไม่ได้เอาใจตลาดคนฟังเพลงในบ้านเกิด แต่เอาใจแฟนต่างชาติอย่างเต็มๆ การที่น้องๆมีฐานแฟนคลับเป็นต่างชาติค่อนข้างเยอะอยู่แล้วนั้น ทำให้อัลบัมนี้ประสบความสำเร็จมาก ทั้งยอดขาย และการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆเทียบกับที่ผ่านมา

BTS Albums

ถ้าให้เปรียบเทียบกับอัลบัมก่อนหน้า อย่างฮวายังPt.1 และ Pt.2 (ขอยกมาเทียบแค่2อัลบัมนี้นะคะ เพราะรู้สึกว่าเป็นจุดเปลี่ยนเรื่องความหลากหลายของเพลงที่ค่อนข้างเห็นได้ชัด) เรากลับรู้สึกว่าแต่ละเพลงในฮวายัง ให้ความรู้สึกที่ตื่นเต้น โลดโผน ความสดชื่นที่ได้ฟังแต่ละเพลงในแทร็กลิสต์ไล่ๆกันมา เพลงที่1 ไปเพลงที่2 ไปเรื่อยๆจนหมดอัลบัม ให้ความรู้สึกที่ไม่ซ้ำกันเลย ถ้าพูดถึงความหลากหลายของแนวเพลง เราว่าซีรีย์ฮวายังนี่แหละค่ะ ที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า บังทันทำเพลงได้หลากหลายแนว

กลับมาที่ WINGS กันบ้าง ฟังรวดเดียวแบบเร็วๆไม่ได้เจาะรายละเอียดของแต่ละเพลงครั้งแรก ถึงกับ หืมมม เพลงดูโตขึ้นเยอะเลย ฟังสบายด้วย เป็นอัลบัมที่ให้ความรู้สึกว่าเราสามารถฟังได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ กราฟความแตกต่างของแต่ละเพลงอาจไม่หวือหวามากเท่าฮวายัง แต่เราว่านี่แหละ คือบาลานซ์ของ อัลบัมที่เหมาะกับฟังในระยะยาว เสน่ห์ของการทำเพลงแบบนี้คือ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เราก็สามารถหยิบซีดีออกมาฟังได้เสมอ

บังทันเป็นวงที่ไม่หยุดนิ่ง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดเวลา แต่ภายใต้สิ่งใหม่ๆ พวกเขาก็ยังใช้วัตถุดิบเดิมที่มีอยู่ในตัวถ่ายทอดออกมา มันจึงคงความเป็นตัวของพวกเขาอยู่ การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย บนพื้นฐานความเป็นตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า มีนักร้องใหม่ๆ และแนวเพลงใหม่ๆเข้ามาเยอะขึ้น มีทางเลือกให้คนฟังเยอะขึ้น ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ แต่การจะทำอย่างไรที่จะรักษาแฟนคลับดั้งเดิม และเพิ่มแฟนเพลงใหม่ๆเข้ามา เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับตลาดเพลงตอนนี้ หวังว่าน้องๆจะส่องแสงไปอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และมีพลังที่จะขับเคลื่อนตัวเองไปตลอดอย่างทุกวันนี้

‘Love Yourself : Her’ ไม่ใช่จุดสูงสุด แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

Love Yourself : Her เป็นอีกอัลบัมที่เราตั้งตารอ เพราะระยะเวลา 7 เดือน ระหว่างอัลบัมก่อนหน้ามาถึงอัลบัมนี้ บังทันผ่านเหตุการณ์สำคัญหลายๆอย่างในชีวิต และเราคิดว่าความสำเร็จที่ผ่านมาจากการได้รับรางวัลจาก Billboard จะส่งผลบางอย่าง ในแง่ของความคิด ประสบการณ์ ที่จะสะสมและกลั่นออกมากลายเป็นผลงานคุณภาพชิ้นต่อจากนี้

BTS Albums

ที่เกริ่นไปตอนต้นว่าอัลบัมนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในลำดับถัดไปของบันทัน เพราะสิ่งที่เราสัมผัสได้คือแต่ละเพลงใน Love Yourself เหมือนเป็นการทบทวนสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาได้เดินทางมาตลอด 4 ปี ทำให้เราย้อนกลับไปมองว่า ที่ผ่านมาพวกเขาสร้างสรรค์ดนตรีมาแบบไหน ถ้ามองไปที่จุดเด่นแต่ละเพลง เหมือนเป็นการผสมผสานดนตรี ตั้งแต่อัลบัมแรก มาจนถึงล่าสุด แล้วตกตะกอนออกมาเป็น Love Yourself : Her อัลบัมนี้เหมือนได้เห็นบังทันคุยกับตัวเอง แล้วส่งต่อความรู้สึกต่างๆ มาให้เรา

เราชัดเจนทุกครั้งเวลาเขียนถึงบังทันในเรื่องของอัตลักษณ์ของพวกเขา ไม่ว่าแต่ละอัลบัมบางคนอาจมองว่าแนวเพลงของเขาเปลี่ยนไปอย่างไร แต่สำหรับเราลายเซ็นของบังทันยังคงชัดเจนเสมอ จนมาถึงอัลบัมนี้ สิ่งที่สัมผัสได้คือ แต่ละเพลงมีความสว่างในตัวเอง

ถ้าเทียบกับอัลบัมก่อนๆที่ผ่านมา ที่จะเน้นความหมองหม่น ตัดพ้อ ดนตรีที่ทำให้เราจมดิ่ง (เช่นดนตรีใน Butterfly / Love is not over / Dead leave) แต่พอมาอัลบัมนี้รู้สึกถึงความสว่าง เข้าใจชีวิต มองโลกในแง่จริง และกล้าเผชิญหน้ามากยิ่งขึ้น และบังทันยังพาเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพวกเขากับการใช้บีทหนักๆ แน่นๆ แต่ก็ซับซ้อนไปด้วยดนตรีหลายเลเยอร์ตามแบบฉบับของพวกเขา

ไม่ว่าอย่างไร อัลบัมนี้ยังไม่มีเพลงที่ทำให้เรารู้สึกดิ่ง อิน เท่ากับเพลงในอัลบัมอื่น (เช่น Reflection รู้สึกดิ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟังเลย พ่ายกับเพลงแบบนี้มาก) เพราะที่เราบอกไปแต่ต้นว่าอัลบัมนี้ดนตรีค่อนข้างสว่างและฟังง่าย แต่เราเพิ่งได้ฟัง Hidden track : SEA แล้วเราก็เจอความรู้สึกที่เราได้รับหลังจาก2-3อัลบัมที่ผ่านมาแล้ว ครั้งแรกที่ได้ฟังคือเมื่อคืน ฟังแล้วรู้สึกจมดิ่งมาก บังทันดึงเราเข้าไปกับเพลงของเขาได้ เราชื่นชมที่เอาเพลงที่ฟังแล้วสเกลใหญ่ขนาดนี้มาไว้ใน Hidden track ทั้งที่ถ้าเอาออกมาไว้ข้างนอก ก็น่าจะเป็นที่พูดถึงได้ง่ายๆ ถ้าอยากฟังเพลงนี้แนะนำให้มีซีดีไว้ในครอบครองนะคะ คุ้มค่าแก่การเสียเงิน

LOVE YOURSELF ‘TEAR’ : แสงสว่างจากดนตรีสีเทา

LOVE YOURSELF ‘TEAR’ สีสันของอัลบั้มนี้ต่างจาก HER อย่างเห็นได้ชัด ถ้าเปรียบ HER เป็นด้านที่สว่างสดใสที่แสดงออกมาในแต่ละเพลง ก็อาจพูดได้ว่า TEAR คือคู่ตรงข้ามของความรู้สึกนั้น และจุดเด่นในอัลบัมนี้ ก็คือการถ่ายทอดความรู้สึกออกมาจากเสียงดนตรี จากเมโลดี้ที่ใช้ในแต่ละเพลง แม้เราจะไม่รู้ความหมายในครั้งแรกที่ฟัง แต่บรรยากาศของเพลงโดยรวม ได้แสดงถึงความโหยหา ความกลัว ความเดียวดาย ที่สื่อออกมาจากดนตรีได้ชัดเจน

การฟังเพลงในอัลบั้มนี้ของเรา ทั้งเนื้อเพลง และดนตรี รู้สึกได้เลยว่าบังทันโตขึ้น ความซับซ้อนของอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น ไม่มีสีขาวหรือสีดำสีชัดเจน แต่เห็นเป็นสีเทาๆ ไม่มีความเศร้าหรือความสุขที่สุดโต่ง แล้วความรู้สึกนี้ก็เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงกับคนทั่วไป และบังทันเป็นวงที่ถนัดในการบรรยายความรู้สึกสีเทานี้ผ่านเสียงเพลง การบอกเล่าเรื่องราวใกล้ตัว ความอ้างว้าง ความกลัว ที่หลายคนเคยเผชิญ ก็ไม่ยากนักสำหรับคนที่ผ่านมาฟังแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่พวกเขากำลังสื่อ

LOVE YOURSELF ‘TEAR’  ไม่ได้ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวแบบถูกทอดทิ้ง แต่เพลงในอัลบั้มนี้ ยังมอบความอบอุ่น เพื่อปลอบประโลมให้อีกด้วย เหมือนเรานั่งอยู่กลางสายฝน แล้วมีมือของใครสักคน กางร่มกันฝนให้กับเรา อาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อย แต่บางเพลงในอัลบัมนี้ส่งความรู้สึกนั้นออกมาจริงๆ เหมือนเวลาเราเจอเรื่องทุกข์ใจมา ขอแค่ใครสักคนมาลูบหัวพร้อมบอกว่า ไม่เป็นไร แค่นี้ก็เหมือนเห็นแสงสว่างที่จะเดินต่อไปแล้ว

นอกจากพัฒนาการทางด้านดนตรี สิ่งที่เด่นชัดและไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับอัลบั้มนี้ก็คือ โวคอลไลน์ของวง ทั้ง4คนมีการพัฒนาทางด้านการร้องอย่างเห็นได้ชัด ดีไซน์การร้องให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับแต่ละเพลง แม้ทั้ง4คนจะมีเสียงที่ต่างกันออกไป แต่พอรวมอยู่ในเพลงเดียวกันแล้ว ก็ช่วยเพิ่มมิติและความไหลลื่นของจังหวะ ทำให้แต่ละเพลงฟังดูไม่น่าเบื่อ ที่จะกลับมาฟังซ้ำๆเพื่อแยกเสียงและเทคนิคการใช้เสียงของแต่ละคนออกมาในแต่ละเพลง

TEAR คงใช้คำว่า มาถูกที่ ถูกเวลา ได้อย่างชัดเจนที่สุด ทุกอย่างดูลงตัว และทำให้พวกเขาเดินไปบนเส้นทางสายดนตรีได้อย่างที่เรานึกไม่ออกว่าจะไปได้สูงสุดตรงไหน เราเขียนประโยคนี้มาหลายครั้งแล้วสำหรับการรีวิวอัลบั้มของบังทัน จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปสูงสุดที่ตรงไหนจริงๆ แต่เหนือกว่าสถิติ ยอดขาย ยอดวิวต่างๆที่ประสบความเร็จออกมาในแง่ของตัวเลข สิ่งที่เราเองอดชื่นชมบังทันไม่ได้ก็คือการที่พวกเขาไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ในตัวให้ดีขึ้น สัมผัสได้โดยตรงจากเพลงที่พวกเขาตั้งใจทำมันออกมา และตอนนี้คนทั่วโลกก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่เขาต้องการจะถ่ายทอดออกมาแล้ว

Paradise – BTS ว่าด้วยเรื่องคนไม่มีความฝัน

มาพูดถึงเพลงนี้ดีกว่า เพลงนี้ชื่อว่า ‘낙원’ หรือว่า ‘paradise’ เพลงนี้แต่งโดย มินยุนกิ หรือ ชูก้า แรปเปอร์และโปรดิวเซอร์คนเก่งของ BTS ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม ‘LOVE YOURSELF 轉 Tear’ สำหรับเรา เราชอบเพลงนี้มากๆอาจเป็นเพราะเราเป็นคนนึง ‘ที่ไม่มีความฝัน’ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรในอนาคต ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองชอบอะไรจริงๆกันแน่ เราเลยรู้สึกอินกับเพลงนี้มากๆ

ยุนกิอปป้าบอกว่า

“คนที่ไม่มีความฝันทุกคน
ไม่เป็นไรนะ ถ้าเราไม่มีความฝัน
ก็แค่ต้องมีความสุขเท่านั้นก็พอ”

ท่อนที่เราอยากจะพูดถึงคือท่อนแรปของ คิมนัมจุน หรือ RM

‘มันไม่เป็นไร ถ้าชื่อของความฝันมันแตกต่าง
เดือนหน้า ซื้อแล็ปท็อปสักครั้ง
หรือแค่กินและนอน
ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ก็ยังมีเงินมากมาย
ใครบอกกันว่าความฝันจะต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่
เราสมควรได้รับรู้ถึงชีวิต
แค่เป็นใครสักคน
ไม่ว่ามันจะเล็กหรือใหญ่ คุณก็คือคุณ’

และท่อนแรปของ มินยุนกิ หรือ ชูก้า นั่นเอง

ผมไม่มีความฝัน
การมีความฝัน บางครั้งมันก็น่ากลัว ก็แค่ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้
แค่มีลมหายใจ นี่คือความฝันเล็กๆ ของผม
เพื่อที่จะมีความฝัน เพื่อที่จะคว้าความฝัน เพื่อหายใจ บางครั้งมันก็เหนื่อยเกินไป’

“เพลงนี้เหมือนช่วยเยียวยาจิตใจเราว่า คงไม่เป็นไรหรอก คนเราก็มีความฝันที่แตกต่างกันไป ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใหญ่เล็กไม่เท่ากัน แค่บางคนเจอความฝันของตัวเองเร็วกว่าคนอื่น สักวันเราก็คงเจอความฝันของตัวเองสักวันเหมือนกัน”

เพลงๆนี้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่ได้เจอกับปัญหานี้แค่คนเดียว เรารู้ว่าหลายๆคนพอได้ยินคำว่า K-POP ก็รู้สึกไม่อยากที่จะฟัง จะอ่าน หรือให้ความสนใจใดๆ แต่ถ้าทุกคนลองเปิดใจ เพลงบางเพลงก็ช่วยเยียวยาจิตใจเรา ได้เหมือนเพลงเพื่อชีวิตเหมือนกัน หนึ่งในเหตุผลที่ชอบฟังเพลงวงนี้ คงเป็นเพราะเพลงที่ถูกแต่งและกลั่นกรองออกมาจากจิตใจลึกๆ และความรู้สึกของคนๆนึง เหมือนกับเพลงๆนี้ ‘낙원’ หรือ ‘paradise’ เราขอจบ ‘ว่าด้วยเรื่องคนไม่มีความฝัน’ ไว้แต่เพียงเท่านี้

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Weverse Magazine RM Pt.2

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> แทงบอลออนไลน์