BTS FC MAGAZINE แปลบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจากหนุ่มๆ BTS ปี 2020
BTS FC MAGAZINE แปลบทสัมภาษณ์หนุ่มๆ บังทันบนนิตยสารญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง JAPAN FC MAGAZINE VOL.8 ในปี 2020 กับบทสัมภาษณ์กับหนุ่มทั้ง 7 คนและได้มีโอกาสได้เปิดความในใจในบทสัมภาษณ์ต่างๆ ที่หาอ่านได้ยาก และเรื่องต่างๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน
BTS FC MAGAZINE – SPECIAL INTERVIEW RM
Q: RM ผู้เขียนเนื้อเพลงในแบบที่ออกมาเพราะเค้านั้นคิดเกี่ยวกับโลกอย่างลึกซึ้ง ช่วงเวลาไหนที่ทำให้คุณอยากเขียนเนื้อเพลง?
ทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี และมีทั้งแสงสว่างและความมืด โลกมีหลายชั้นและมันเป็นสามมิติ หลังจากผมได้เริ่มคิดในแบบนั้น ผมได้มายอมรับสิ่งต่างๆอย่างตรงไปตรงมา ผมได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คนที่สามารถหาเหตุผลในสิ่งต่างๆและปรากฏการณ์ที่ใครหลายคนมักไม่สังเกตุเห็น ตัวอย่างเช่น ถ้ามีดอกไม้ที่ผลิบานมากมาย น้อยคนนักที่จะลองนับจำนวนกลีบดอกไม้ในแต่ละดอก ไม่นานมานี้ผมได้เรียนรู้ว่าดอกแคนารี (ดอกระฆังทอง) ในแต่ละดอกนั้นมีสี่กลีบ ผมพยายามให้คุณค่าไม่เพียงแค่ความจริง/ข้อเท็จจริงซึ่งสามารถเข้าใจได้แบบนั้น แต่ยังรวมถึง “การตระหนักรู้” พวกนี้ด้วยเช่นกันครับ
Q: ยามที่ใช้เวลาไปกันเมมเบอร์ซึ่งเหมือนราวกับครอบครัว ช่วงเวลาไหนที่ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย/โล่งใจ?
ในทุกเวลาครับ เพราะผมเชื่อใจเมมเบอร์ พวกเราจึงสามารถดำเนินมาเป็นเวลา 7 ปีแบบนี้ได้ ผมคิดว่าเวลาที่พวกเราใช้ไปจนกระทั่งตอนนี้ในการเชื่อซึ่งกันและกันนั้นได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วไม่มีเพื่อน/คู่หู/คู่ใจคนไหนอื่นที่ผมสามารถเชื่อใจและมีสายสัมพันธ์อันล้ำค่าเป็นเวลา 7 ปีได้มากเท่าพวกเค้าครับ
Q: ตอนไหนที่คุณรู้สึกได้ถึงความของอาร์มี่?
พวกเราอ่านคอมเมนต์จากทุกคนแบบเรียลไทม์ในระหว่าง Bang Bang Con คอมเมนต์เช่น “จีมินที่กำลังยกมือของเค้าน่ารักจัง” นั้นมันน่ารักมาครับ มันยากมากที่จะทำให้บรรยากาศมันสดใสมีชีวิตชีวา แต่ด้วยจากอาร์มี่ผู้ที่ส่งคอมเมนต์มากมายให้กับเรา ผมรู้สึกได้ถึงความรักครับ
Q: RM แสนซนที่บ้างครั้งได้แสดงด้านที่เงอะงะของเค้าให้พวกเราเห็น ตอนไหนที่คุณรู้สึกว่าคุณเฟอะฟะ/ไม่ระมัดระวัง?
คุณเรียกคุณที่ทำสิ่งต่างๆตกบ่อยว่า “Butterfingers” ในภาษาอังกฤษ และผมเป็นแบบนั้นเลยครับ ผมมักทำน้ำและกาแฟหกบ่อย และตอนมันเกิดขึ้นผมยังลืมตกใจด้วยซ้ำ ในขณะที่คิดว่า ผมทำแบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นผมจึงเช็ดมันแบบเงียบๆ ผมพยายามที่จะระมัดระวังให้มากขึ้นครับช่วงนี้
Q: 7 เป็นเลขที่สำคัญมากสำหรับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้? ถ้าพวกคุณทั้ง 7 เปิดร้าน ร้านนั้นจะเป็นแบบไหน?
พวกเราเคยพูดกันตลกๆเกี่ยวกับว่า เราควรสร้างตึก 7 ชั้นในที่ดีๆและแต่ละคนใช้หนึ่งชั้น ชื่อของตึกจะเป็น “ฤดูกาลทั้ง 7”
SPECIAL INTERVIEW JIN
Q: จิน (เมมเบอร์) คนโตสุด การมีอยู่แบบไหนที่คุณอยากเป็นสำหรับ BTS?
ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นมากนักครับ แต่ผมมองดูเหล่าทงแซง(น้องๆ)ที่น่ารักของผมอย่างใกล้ชิด ดังนั้นผมคิดว่าผมเข้าใจบุคลิกของพวกเค้าแต่ละคน พวกเค้าแต่ละคนมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไปที่ทำให้พวกเค้ามีความสุข (หัวเราะ) ผมไม่รู้ว่าเหล่าทงแซงของผมคิดยังไงกับผม แต่ผมอยากเป็นฮยองที่ใจดีสำหรับพวกเค้าครับ
Q: คุณทำอะไรในช่วงวันหยุดของคุณ? อะไรที่คุณชอบในช่วงนี้?
มันเป็น “วันหยุด” แต่ผมแค่ทำความสะอาดบ้าน, ซักเสื้อผ้า และล้างจานครับ ผมทำอาหารเองและกินมัน, เล่นเกม และนอนหลับตอนที่ผมง่วง… อะไรประมาณนั้นครับ (หัวเราะ)
Q: อะไรที่ทำให้คุณเริ่มทำเซอร์ไพรส์ให้กับอาร์มี่?
ทั้งหมดมันเริ่มจากตอนที่มีไม้แขวนเสื้อมาให้เห็นก่อนที่ผมจะขึ้นเวที และผมหยิบมันขึ้นมาคิดว่า “ผมควรลองอะไรกับสิ่งนี้ดีมั้ย?” แต่เมื่อเร็วๆนี้สตาฟถามว่าพวกเค้าสามารถถ่ายผมเตรียมเซอร์ไพรซ์ได้มั้ย… ผมกำลังคิดไอเดียมากมายครับ
Q: ถ้าคุณจะทำอาหารให้กับอาร์มี่ญี่ปุ่น คุณจะทำอาหารอะไร?
มีอาหารที่เรียกว่า จาจังเมียน ในเกาหลีครับและมันอร่อยมาก! ผมจะพยายามอย่างหนักเพื่อที่ผมจะได้เรียนรู้สูตรอาหารอร่อยๆมากมายและสามารถโชว์ให้อาร์มี่มากมายดูว่าจาจังเมียนนั้นมันอร่อยมากแค่ไหนในสักวันครับ
Q: เลข 7 นั้นสำคัญกับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้ กิจวัตร/ธรรมเนียมอะไรที่เมมเบอร์ทั้ง 7 มีเหมือนกัน?
พวกเราเช็คดูตารางงานของเรา คิดว่าเราจะทำทุกอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดยังไงและทำงานอย่างหนักในการทำให้มันสำเร็จ/เสร็จในเวลา แน่นอนว่าพวกเราไม่ละความพยายาม ในช่วงเวลาเหล่านั้น ทุกคนแสดงความตั้งใจจดจ่อมากอย่างไม่น่าเชื่อครับ
SPECIAL INTERVIEW – SUGA
Q: ชูก้าผู้ที่ทำเพลงสุดยอดอยู่เสมอ คุณได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของคุณจากไหน?
เมื่อไม่นานมานี้ ผมศึกษาจิตวิทยาและจิตวิเคราะห์ “การตีความฝัน (The Interpretation of Dreams) ของฟรอยด์และ “Map of the Soul” ของจุง เป็นหนังสือจากร้อยปีก่อน แต่มันมีหลายจุดที่ผมเข้าถึงมันได้แม้ในตอนนี้ ผมได้พูดเกี่ยวกับชีวิตและความฝัน และความสุขจนถึงตอนนี้ แต่ตอนนี้ผมอยากพูดถึงคุณค่าของเวลาที่ผมใช้ในการสะท้อนไตร่ตรองตัวผมเอง
Q: ตอนไหนที่คุณคิดว่าคุณได้รับช่วยเหลือเหล่าเมมเบอร์นอกเหนือจากเรื่องงาน?
พวกเค้ารับฟังเวลาผมมีบางอย่างในใจและพวกเค้ายังให้ฟีดแบคทางดนตรีแก่ผม แม้ว่ามันไม่ใช่เพลงที่พวกเราร้องด้วยกัน พวกเค้าคิดเรื่องมันราวกับมันเป็น(เพลง)ของพวกเค้าเอง เมมเบอร์ยังเป็นคนที่ออกไปไหนกับผมและเป็นเพื่อนผมในการทำสิ่งต่างๆที่คนอายุ 27 ทั่วไปทำกัน
Q: เลข 7 สำคัญกับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้ อาหารอะไรที่คุณทั้ง 7 ชอบ?
อาหารเกาหลีครับ พวกเราทุกคนต่างมีความชอบที่แตกต่างกัน แต่อาหารเกาหลีมีตัวเลือกที่หลากหลายมาก และคุณไม่รู้สึกเบื่อในการกินมัน พวกเราพึ่งกินกิมจิจีเกและเครื่องเคียง กิมจิจีเกเป็นอาหารที่เมมเบอร์ทั้ง 7 คนต่างชอบครับ
Q: ช่วงเวลาไหนที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าอาร์มี่นั้นคือครอบครัว?
ตอนพวกเราแสดงคอนเสิร์ตครับ มันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายในการยืนต่อหน้าคนหลายหมื่น บางคนอาจกระทั่งมือสั่น แต่ไม่มีใครรู้สึกประหม่าเมื่อเจอครอบครับขอพวกเค้า การมีอาร์มี่หลายหมื่นคนตรงหน้าคุณนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติเช่นเดียวกันการพบครอบครัวของคุณ เมื่อผมคุ้นชินกับมัน ผมรู้สึกว่าเรากลายเป็นการมีอยู่ที่แสนพิเศษซึ่งกันและกัน
Q: สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นที่สุดในระหว่างช่วงเวลาที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน?
ช่วงเวลาที่สนุกทำให้ผมตื่นเต้นมากครับ ผมยังตื่นเต้นมากเป็นพิเศษเวลาผมพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ผมชอบ ช่วงเวลาที่สนุกที่สุดตอนล่าสุดคือตอนถ่าย Run BTS! ของพวกเราครับ ผมขำหนักมากจนน้ำตาไหลไม่หยุด! ผมคิดว่าคุณจะเข้าใจตอนที่คุณดูมันครับ (หัวเราะ)
SPECIAL INTERVIEW J-HOPE
Q: เจโฮปผู้มีชื่อเสียงในเรื่องของเซนส์ด้านแฟชั่นของเค้า อะไรที่ทำให้คุณสนใจในแฟชั่น?
ผมเต้นมาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ดังนั้นผมคิดว่าผมได้เริ่มสนใจตั้งแต่ช่วงนั้นมา เสื้อผ้าเป็นสิ่งสำคัญในการเต้น สิ่งที่คุณสวมใส่เปลี่ยนกรูฟที่คุณจะแสดงได้ นอกจากนั้นแล้วความรู้สึกของความพึงพอใจในตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญในแฟชั่น! ผมจำใส่ใจไว้เสมอว่าอย่าลืมที่จะมีใจเสาะค้นหาอยู่เสมอ
Q: เลข 7 นั้นสำคัญกับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้ ถ้าคุณจะเล่นกีฬากับเมมเบอร์ทั้ง 7 คน กีฬาอะไรที่คุณจะเล่น?
เมื่อลองคิดเรื่องนี้ดูแล้ว ไม่มีกีฬาอะไรเลยที่คุณสามารถเล่นได้ 7 คน อืม.. (คิดอยู่สักพัก) เทนนิสคู่? มันน่าจะสนุกถ้าพวกเราทุกคนเล่นด้วยกัน แต่ก็เราทำตามกฏก็จะมีหนึ่งคนเหลือเสมอ
Q: ช่วงเวลาแบบไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีใจที่เมมเบอร์นั้นสนิทกัน?
ผมคิดเป็นพิเศษว่าคือตอนที่พวกเราอยู่บนเวทีหรือทำกิจกรรมต่างๆ พวกเราสนิทกันมากดังนั้นมันง่ายในการสร้างความร่วมมือระหว่างเมมเบอร์ และผมดีใจที่พวกเค้าคือเมมเบอร์ของผมครับ
Q: อะไรที่คุณจำไว้ในใจมากที่สุดตอนฝึกซ้อมท่าเต้นของ BTS?
ผมเคยสอนเต้นให้กับเมมเบอร์ แต่พวกเค้าทุกคนได้พัฒนา ดังนั้นจึงไม่มีอะไรมากสำหรับที่จะสอน เช่นนั้นแล้วบทบาทของผมจึงกลายเป็นการ “สร้างภาพรวม” ผมฝึกซ้อมการแสดงอยู่เสมอควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ค
Q: อะไรที่คุณจำไว้ในใจเพื่อให้กำลังใจอาร์มี่?
ดังเช่นเดียวกับ “Hope” ในชื่อของผม ผมอยากมีตัวตนที่สามารถมอบพลังบวกให้กับอาร์มี่ได้ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ผมได้มีพลังมากขึ้นหลังจากเริ่มทำกิจกรรมต่างๆในฐานะBTS ผมอยากที่จะทำงานต่อไปในขณะที่สร้างความร่วมมืออันดีกับอาร์มี่ไปพร้อมกัน
SPECIAL INTERVIEW – JIMIN
Q: ถ้าคุณสามารถเต้นอะไรสักอย่างกับอาร์มี่ได้ การเต้นไหนของ BTSที่คุณจะเลือก?
Boy With Luv มันมีกลิ่นอายที่สดใสและท่าเต้นมันเรียบง่าย ดังนั้นผมคิดว่าพวกเค้าน่าจะจำมันได้ง่าย เพลงอื่นๆมันมีท่าเต้นที่หนักอยู่เยอะ และมันอันตรายถ้าพวกเค้าเกิดบาดเจ็บ ดังนั้นผมจึงเลือกเพลงนี้ ถ้าคุณสามารถเต้นอะไรสักอย่างกับอาร์มี่ได้ การเต้นไหนของ BTS
Q: จีมินผู้ที่รักในการเต้น ทำไมคุณถึงรักมัน?
มันเพราะผมเหมือนได้ตัดความกังวลในชีวิตประจำวันออกไป และรู้สึกเหมือนผมได้อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง เมื่อเวลาที่ผมแสดงบนเวทีผมได้ปลดปล่อยความว้าวุ่นใจและหลงเหลือไว้เพียงความรู้สึกอันบริสุทธิ์ที่ว่า “ผมรักเวที” ดังนั้นผมจึงสามารถยึดมั่นกับความคิดนั้นได้
Q: จีมินผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปิน ศิลปินแบบไหนที่คุณอยากเป็น?
ผมอยากเป็นนักแสดงที่สามารถทำให้ใครก็ตามที่ได้ชมคิดว่า “คนนี้มีความสามารถมากจริงๆ” การมีตัวตนอยู่แบบที่ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเค้าคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน ผมอยากให้ผู้คนพูดว่า
“สิ่งแรกที่นึกถึงเกี่ยวกับประเทศเกาหลีใต้ คือ BTS” ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม (ในโลก)
Q: จีมินผู้ทำงานหนัก แรงผลักดันใดที่ทำให้คุณยังคงทำงานอย่างหนักได้ต่อไป?
ในตอนแรกผมเผชิญความลำบากอย่างมากในการทำงานหนัก แต่ผมยังคงทำงานหนักต่อไปเพราะตัวต้องการจะทำมัน ผมชอบมัน และผมต้องการที่จะดียิ่งขึ้น การแสดงของผมอาจะไม่ได้มาจากทักษะโดยกำเนิด แต่ผมเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวของผมเอง ผมรับผิดชอบในงานของผม และผมต้องการที่จะอยู่กับเสียงเชียร์ของอาร์มี่ ดังนั้นผมจึงทำงานหนัก
Q: เลข 7 นั้นสำคัญกีบอาร์มี่และ BTS ในปีนี้ กล่าวกันว่า 7 คือเลขแห่งความโชคดี สิ่งใดที่คุณคิดว่าเป็นโชคดีในช่วงนี้?
7… (ครุ่นคิด) ผมนึกถึงอะไรที่ผมโชคดีไม่ออก แต่สภาวะปัจจุบันและสภาพแวดล้อมตอนนี้ด้วยตัวมันแล้วนั้นอาจคือ “สิ่งที่โชคดี”
SPECIAL INTERVIEW – V
Q: ด้านที่มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่รู้ และอาร์มี่ไม่รู้?
ผมไม่เคยสังเกตมันมาก่อนจนกระทั่งมีบางคนพูดว่า ผมเคยวิ่งไปทั่วและเล่นสนุกอย่างมากเมื่อตอนผมยังเด็ก ตอนนี้ผมชอบออกไปเดินเล่นแทน นั่นหมายความว่าผมโตขึ้นมั้ยครับ? ผมชอบตัวผมในตอนนี้ ผมอยากรู้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นเมื่อผมอายุมากขึ้นกว่านี้?
Q: เลข 7 นั้นสำคัญกับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้ ช่วงเวลาที่เมมเบอร์ทั้ง 7คน หัวเราะอย่างเต็มที่ด้วยกัน?
คือเมื่อตอนเราถ่ายทำ RUN BTS มันมีเรื่องตลกๆหลายอย่างเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่ามันจะถูกออกอากาศก่อนนิตยสารนี้ออกหรือไม่ แต่ผมนั้นสนุกมาก ผมมีความสุขที่สามารถสร้างความทรงจำในขณะที่ถ่ายทำได้ ผมนั้นสนุกมากจริงๆ!
Q: BTS ที่คุณใกล้ชิดด้วยดังครอบครัว อะไรคือความลับของมิตรภาพของคุณ?
พวกเรามาได้เข้าใจซึ่งกันและกันในขณะที่เราทะเลาะกันบ่อยในเมื่อก่อน ผมคิดว่าพวกเราสามารถเข้าใจกันและกันได้อย่างลึกซึ้งเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน พวกเค้าคือคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผมอย่างมาก มันเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่พวกเราจะไม่รู้เกี่ยวกับกันและกัน เป็นเหมือนดังครอบครับที่แท้จริง
Q: ถ้าคุณจะให้ของขวัญบางอย่างกับการทำงานหนักของอาร์มี่?
ผมคงมอบของขวัญซึ่งคือ “เวลา” ให้กับพวกเค้า เพราะผมคิดว่าเวลานั้นคือสิ่งที่ผู้คนต้องการสำหรับทุกสิ่ง หากคุณมีเวลาในการไตร่ตรองสะท้อนดูตัวคุณเอง คุณก็จะสามารถคิดเกี่ยวกับอนาคตของคุณได้อย่างใจเย็น และถ้ามีสิ่งใดที่คุณไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวคุณเอง คุณก็สามารถที่จะหยุดพักได้
Q: ถ้าคุณสามารถเลือกการแสดงหรือ MV ที่คุณคิดว่าคุณเปล่งประกายมากที่สุด?
ผมคิดว่าผมสามารถแสดงหลายๆด้านของตัวผมให้ได้เห็นในเพลงเดี่ยวของผม เช่น Singularity และ Inner Child มันเป็นเพลงที่ผมต้องดึงดูด(ผู้ชม)ด้วยตัวเองดังนั้นผมจึงต้องเผชิญหน้าจัดการกับมัน ผมทำงานหนักและคิดว่าผมจะสามารถแสดงสเตจใหม่ของผมให้ได้เห็นอย่างไร ผมคิดว่าทุกคนนั้นรับรู้ได้ถึงทัศนคติของผมที่มี (ต่อเพลง)
JAPAN FC MAGAZINE VOL.8 – JUNGKOOK
<มาถึงตอนสุดท้ายของ ‘ประวัติของฉัน’ คือ มักเน่ทองคำของ BTS จองกุก! ต่อจาก RM ในตอนก่อนหน้า เค้าเล่าให้เราฟังทุกสิ่ง ตั้งแต่ช่วงเวลาในวัยเด็กจนถึงช่วงที่เวลาที่เป็นเทรนนี ยันกระทั่งจองกุกในทุกวันนี้>
Q: ช่วงเวลาวัยเด็กที่แสนดื้อซน เด็กชายที่ชอบเล่นสนุก
ความทรงจำที่เก่าที่สุดที่ผมจำได้คือ ตอนที่ผมเป็นเด็กแล้วไปเล่นกับน้องหมา มันคือตอนที่ผมออกไปข้างนอกสักที่นึง ผมชอบเล่นกับหมาตัวใหญ่ที่ขนาดเท่าตัวผมในเมื่อสมับก่อนนั้น เมื่อตอนที่ผมอายุประมาณ 3-4 ขวบโดยประมาณ มันกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม (หัวเราะ) มาคิดถึงมันดูในตอนนี้ แม้ว่าขนาดตัวเราจะแตกต่างกันมาก(?) แต่ผมไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด บางทีอาจเพราะน้องหมาอ่อนโยนกับผม ช่างเป็นหมาที่ใจดีจริงๆ
ในตอนเด็กนั้นผมดื้อซนเอามากๆ เป็นเด็กที่ชอบออกไปเล่นด้านนอก ในทางกลับกันเกลียดการเรียนหนังสือมาก ผมมักถูกคุณแม่ดุ วิ่งไปตามทางเดินระเบียงของโรงเรียน, ทานข้าวเที่ยงให้เสร็จแบบไวๆ ผมเป็นเด็กประมาณนั้นครับ (หัวเราะ) ผมเคยมีส่วนร่วมในการแข่งขัน B-BOY ของโรงเรียน แม้ว่าผมจะไม่ได้เก่งมากนัก ตอนปีแรกของโรงเรียนมัธยมต้น ผมร้องเพลง “This Song” ของ 2AM ในค่ายฤดูร้อนด้วย
Q: คว้าความฝันของการเป็นนักร้องในการออดิชั่นครั้งแรก
บางทีคุณอาจคิดว่าผมฝันถึงการเป็นนักร้องตั้งแต่ในช่วงเวลาในวัยเด็กหลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้ แต่จริงๆแล้ว แม้กระทั่งตอนที่ผมไปรายการออดิชั่น ผมไม่ได้ตระหนักอย่างเต็มที่ว่าผมนั้นอยากจะเป็นนักร้อง ผมคิดว่า “อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด” และผมได้ร่วมออดิชั่นส่วนหนี่งเพื่อความสนุก
แต่เมื่อผมได้ไปถึงสถานที่จัด ผมประหลาดใจมากที่คนจำนวนมากมายมารวมตัวกันที่นั่น ผมเริ่มรู้สึกประหม่า… การถูกรายล้อมด้วยผู้คนจำนวนมากและรู้สึกหมดหวังกำลังใจ บางทีผมอาจเริ่มอายที่จะถูกรายล้อมด้วยคนแปลกหน้าตั้งแต่วันนั้น
ย้อนกลับไปในตอนนั้น ผมเข้าร่วมออดิชั่นโดยไม่ได้มีความที่จริงจังมากนัก แต่โชคดีที่บริษัทของผมได้เจอผมเข้า และให้ผมได้เทรนเป็นเทรนนีของพวกเขา ดังนั้นในตอนนี้ผมเลยได้บรรลุความฝันการเป็นนักร้องของผม
จริงๆแล้วในวันนั้น ผมได้รับคำเชิญจากบริษัทหลายบริษัท แต่สาเหตุที่ผมเลือกบริษัทในปัจจุบันนี้คือเพราะนัมจุนฮยองอยู่ที่นั่น และเพราะผมรู้โดยสัญชาตญาณว่าผมสามารถไว้ใจบริษัทนี้ได้ แม้ว้่าผมจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม แต่ในความเป็นจริงนัมจุนฮยองเป็นคนประเภทที่สามารถประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่เค้าทำ บางทีผมอาจมีความมั่นใจซึ่งไร้เหตุผล? ประมาณเช่น “ผมสามารถทำมันได้ และแน่นอนต้องประสบความสำเร็จ!”
Q: การเต้นและร้อง ผมรักมันมากขึ้นๆในขณะที่ผมฝึกซ้อม
ในตอนที่ผมเป็นเทรนนีผมขี้อายมากๆกับผู้คนรอบข้าง เป็นเด็กชายที่ดูไม่มีความเป็นมิตรน่ารักน่าพูดคุยเลยสักนิด แต่มันพัฒนาขึ้นมากหลังจากวีฮยองเข้ามา วีฮยองและผม บุคลิกของเราคล้ายกันในหลายอย่าง ขอบคุณวีฮยอง ความขี้อายของผมดีขึ้นเยอะ และเมื่อผมเข้าขากันกับวีฮยองได้ดี ผมก็ยิ่งชอบเค้ามากขึ้น
พูดตามตรงแล้วในช่วงเวลาก่อนเดบิ้วต์ ผมไม่ได้ชอบฮิปฮอปมากขนาดนั้น ผมได้ดูเหล่าฮยองแรป แต่รสนิยมของผมคือเพลงที่สงบผ่อนคลาย เช่นเดียวกันกับในเรื่องการเต้นผมได้เริ่มเรียนรู้หลังจากมาอยู่ที่บริษัท ผมมาได้เข้าใจความสำคัญของการเต้นบางทีอาจตอนหลังจากได้เดบิ้วต์ ได้เดบิ้วต์และเริ่มคิดว่าผมอยากเต้นให้ดีกว่านี้ ดังนั้นผมจึงเริ่มฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เหมือนกันในเรื่องดนตรีผมได้คิดว่าทำยังไงที่ผมจะพัฒนาได้ดีกว่านี้ ได้มาสัมผัสกับดนตรีหลายๆประเภท และผลลัพธ์ก็คือผมชอบดนตรีมากขึ้นและมากขึ้น
Q: เวทีคือทุกสิ่งของผม ผมอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป นับจากนี้ไป…
ผมยังจำได้อย่างชัดเจนเมื่อตอนที่ผมพบกับเมมเบอร์ครั้งแรก และในหมู่พวกเค้า ความประทับใจแรกเกี่ยวกับนัมจุนฮยองมันสุดมาก (หัวเราะ) ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวและมีนัมจุนฮยองอยู่ในชั้นในของเค้า ผมตกใจมากตอนนั้น (หัวเราะ)
ผมบอกไว้ว่าผมเลือกบริษัทนี้เพราะนัมจุนฮยองอยู่ที่นี่ แต่ไม่ว่าในช่วงเวลาไหนก็ตาม ผมไม่เคยลืมว่าผมนั้นโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของ BTS โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วเวลาที่ผมยืนบนเวที พวกเรา 7 คน ยืนบนเวที่ที่ยิ่งใหญ่และร้องเพลงต่อหน้าอาร์มี่ผู้ซึ่งคอยสนับสนุนเราเรื่องมาก ผมรักช่วงเวลาเหล่านั้นมากๆ
สิ่งที่ผมคาดหวังในอนาคต คือ การได้ก้าวเดินต่อไปพร้อมกันกับทุกคนนับแต่นี้ เหมือนเดิมดังที่พวกเราทำมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครที่ขาดหายไป พวกเราทุกคนยืนอยู่บนเวทีเดียวกันและแสดงคอนเสิร์ต นั่นคือความปรารถนาของผม ผมอยากอยู่ด้วยกันกับเมมเบอร์ตลอดไปนับแต่นี้ ถ้าเพียงสิ่งดีๆนี้สามารถดำเนินต่อไปจนตลอดกาล มันคงวิเศษมากจริงๆ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าที่เป็นตอนนี้ สำหรับผมเวทีคือทุกสิ่ง กิจกรรมต่างๆ, รายการทีวี, นิตยสาร, MV และอื่นๆ แน่นอนว่าผมอยากทำสิ่งพวกนี้ด้วยเช่นกัน เพราะอาร์มี่มีความสุขกับมัน และถ้าคุณมีความสุขผมก็มีความสุขเช่นกัน แต่เวทีคือสถานที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับผม เมื่อผมยืนบนเวที ผมสัมผัสถึงอารมณ์ที่ไม่มีใครสามารถรู้สึกได้ เดือดพล่านอยู่ในตัวผม ผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ดังนั้นผมไม่รู้จะอธิบายมันยังไง… เหมือนกันความตื่นเต้นมันเพิ่มขึ้นมาในอกของผม หรืออะไรบางอย่างที่มากไปยิ่งกว่านั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวทีจึงเป็นที่สำคัญมากๆสำหรับผม นับตั้งแต่นี้ไป ผมต้องการที่จะยังคงยืนบนเวทีในฐานะสมาชิกของ BTS ด้วยกันกับเมมเบอร์ทุกคน
ประวัติของจองกุก
- 01/09/1997 เกิดที่ปูซาน เกาหลีใต้
- มันมีเค้กอยู่ผมคิดว่ามันน่าจะคือวันเกิดของผม แต่มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่าเราฉลองกันมากมายขนาดนี้ แน่นอนผมได้รับความรักความใส่ใจมากมาย ได้ถูกเลี้ยงและเติบโตมาด้วยความรักอันมากมา
- คุณแม่หรือคุณพ่อของผมให้ผมใส่ชุดนี้ แต่ผมคิดว่ามันเหมาะกับผมมากๆ ผมสั้นนั้นก็น่ารักจัง (หัวเราะ) ผมเป็นเด็กที่ไม่กลัวนกพิราบ ดังนั้นผมจึงวิ่งไล่มันไปทั่ว ตอนนี้ผมก็ยังคงชอบสัตว์มากๆ
- ผมจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับรูปนี้ (หัวเราะ) แต่เมื่อผมได้ดูรูปนี้ ผมคิดว่าคุณแม่และคุณพ่อของผมนั้นได้เล่นกับผมอยู่ตลอดเวลา บางทีอาจะเพราะแบบนี้ผมเลยหัวเราะได้มากขนาดนี้
- ใบไม้ผลิ 2004: เข้าเรียนประถม
- มีใครสักคนถ่ายรูปนี้ให้ผมที่โรงเรียนหรอ? วันงานกีฬาที่โรงเรียนผม? ผมจำได้แค่ว่าผมชอบใส่รองเท้าแตะมากช่วงนี้ ในช่วงวัยเด็กของผม ผมชอบนอนลงบนพื้นหญ้าแบบนี้ เป็นเด็กที่ไม่กลัวอะไรเลย
- ใบไม้ผลิ 2010: เข้าเรียนมัธยมต้น
- 2011ได้รับคำเชิญจากหลายบริษัทหลังจากออดิชั่น เลือกมาอยู่ BigHit Entertainment
- ใบไม้ผลิ 2013: เข้าเรียนมัธยมปลาย
- 13/06/13: BTS เดบิ้วต์!
——————————————————————————————-
Q: ความทรงจำที่เมมเบอร์ให้กำลังใจคุณ?
ตอนที่ผมรู้สึกแย่ เมมเบอร์มาหาผมทีละคน พวกเค้าปลอบผมและร้องไห้ไปกับผม ตอนนั้นผมรู้สึกขอบคุณอย่างมากจริงๆ พวกเค้ามอบพลังให้ผมก้าวเดินต่อไปข้างหน้า มันเป็นความทรงจำที่เปี่ยมล้น ที่บางทีผมก็ยังคิดถึงมัน แม้กระทั่งในตอนนี้
Q: หัวใจของจองกุกผู้ร้องว่า “ผมคิดว่าผมกลายเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าใครๆ” นั้นเป็นผู้ใหญ่รึยัง?
ผมเป็นผู้ใหญ่ตามวัย แต่ผมยังไม่คิดว่าทางด้านจิตใจผมเป็นผู้ใหญ่ เพราะว่ายังคงไม่มีสิ่งที่ทำให้ผมสามารถพูดได้ว่า “ผมโตแล้ว” มันอาจจะเป็นเรื่องความพึงพอใจในตัวเอง แค้ผมคิดว่า คุณจะสามารถบอกได้ว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่ เมื่อคุณภูมิใจว่าคุณนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่มากขนาดไหน ผมไม่มีอะไรใกล้เคียงเลยกับการเป็น “คนเท่ๆ” แต่ผมอยากเป็นอย่างนั้นได้ในสักวัน
Q: เลข 7 นั้นสำคัญกับอาร์มี่และ BTS ในปีนี้? ถ้าคุณสามารถทานอาหารได้แค่อย่างเดียวใน 7วัน คุณจะทานอะไร?
ผมจะเลือกคิมบับ คิมบับเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เนื้อสัตว์ และผัก ผมรักมันมากๆ หรือผมอาจเลือกสลัดไก่กับมันหวาน การทานอาหารอะไรอย่างเดียวนั้นมันไม่สมดุล ดังนั้นผมจะเลือกอย่างนึงจากทั้งสอง
Q: ตอนที่คุณได้รับความช่วยเหลือจากอาร์มี่?
ผมได้รับความช่วยเหลือจากอาร์มี่เสมอ มีผู้คนที่ให้คำแนะนำผม พูดคุยกับผมอย่างจริงจัง และสนับสนุนผม ทั้งหมดนี้มันมอบพลังให้แก่ผม มันหมายความว่าพวกเค้าเอาใส่ใจผม และผมมีความสุข ตอนนี้ผมพยายามอย่างหนักในเรื่องการแต่งเพลงเพื่อที่จะส่งมอบมันให้กับอาร์มี่
Q: ถ้าคุณสามารถให้คำแนะนำกับอาร์มี่ที่กำลังพบความลำบาก เพื่อให้เค้ามองบวกมากขึ้น?
ถ้าคุณมีความฝันและอย่าทำอะไรบางอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง แน่นอน คุณนั้นไม่ควรทำสิ่งที่คุณไม่ควรจะทำ แต่อย่าล้มเลิกความฝันของคุณเพราะว่าคุณกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไง มันสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึงสิ่งที่คุณนั้นปรารถนาอย่างแท้จริง และอะไรที่ทำให้คุณนั้นเป็นตัวคุณอย่างแท้จริง
บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Q&A ARMY Official
เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> ดูบอล
>>>>> UFABACCARAT