BTS Interviews Pt.1 แปลบทสัมภาษณ์ของบังทันใน BUSTLE BTS และ BTS THE BEST FC INTERVIEW
BTS Interviews Pt.1 แปลบทสัมภาษณ์ของบังทันจากนิตยสารชื่อดังอย่าง BUSTLE BTS และ BTS THE BEST FC INTERVIEW โดยเป็นการพูดคุยกับหนุ่มๆ ในเรื่องการทำงาน ทำเพลงของพวกเขา และทัศนคติกับเรื่องบางอย่างที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
BTS Interviews Pt.1 – BUSTLE BTS (CUT)
“บนเวที คุณจะรู้และสัมผัสได้จริงๆเวลาที่เสียงเชียร์มันร้อนแรงขึ้น” จีมินกล่าว “และมันทำให้ผมอยากแสดงให้ดียิ่งขึ้น” เป็นธรรมดาที่การได้เห็นทัวร์ MOTS7 ของพวกเขาถูกยกเลิกท่ามกลางการระบาดใหญ่จะไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าพวกเขาจะปรับตัวได้ แสดงคอนเสิร์ตเสมือนจริงและปรากฏตัวในแบบเสมือนจริง “ มันรู้สึกเหมือนบางอย่างได้ขาดหายไป” RM กล่าว แต่ว่า “ผมได้เรียนรู้ว่าผมชื่นชอบในสิ่งต่างๆมากกว่าที่ผมคิดว่าผมเป็น และผมค่อนข้างทำได้ดีในการใช้เวลาไปคนเดียว” “ผมคิดว่าผมได้ทำความรู้จักว่าจะเป็นเพื่อนของตัวเองยังไง”
ในที่สุด เมมเบอร์แต่ละคนได้ค้นพบวิธีที่จะทำตัวให้ยุ่งในปี 2021 จีมินได้เย้าว่าเขาได้ทำการ “ทดลอง” มากมายในช่วงนี้ ในขณะที่เจโฮปบอกว่าเค้ากำลังโฟกัสกับการ “ทำเพลงที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น” ชูก้าได้ทำโปรเจคต่างๆมากมาย ในขณะที่วีได้มุมานะกับเพลงของเขาและ “ทำทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง”
Q: ตอนที่คุณทำเพลง คุณเริ่มคิดเกี่ยวกับว่ามันจะถูกนำไปแสดงบนเวทีหรือทำมันเป็น MV ยังไง – หรือว่าสิ่งนั้นมาทีหลัง?
SUGA: ผมนึกภาพสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดตอนทำเพลงครับ “Daechwita” เป็นตัวอย่างในการเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายมาเป็นจริงอย่างเต็มศักยภาพของมัน 100%
Q: “Blue & Grey” เดิมแล้วถูกเขียนไว้สำหรับมิกซ์เทปของวี แต่ได้ลงเองใน BE ในฐานะวง คุณตัดสินใจอย่างไรว่าเพลงไหนได้มาอยู่ในอัลบั้ม BTS และเพลงไหนลงเอยที่มิกซ์เทปเดี่ยวของคุณ?
SUGA: ในฐานะวง คุณมักจะนำเสนอเรื่องราวที่หลากหลายมากกว่า เราเขียนเพลงสำหรับอัลบั้มของวงในตอนแรกและด้วยเพลงที่ไม่ได้อยู่ในนั้น (อัลบั้มวง) เราก็มาทำมิกซ์เทปของเราครับ
V: เราไม่ได้มีกฏใดๆเวลาที่เราทำเพลง แต่หลังจากพวกเราทำมันเสร็จ เราดูว่าเพลงมันเหมาะกับความรู้สึกของวงไหม และหลังจากนั้นจึงตัดสินใจครับ
Q: ในบทสัมภาษณ์ BE-hind Story ของคุณ พวกคุณแต่ละคนพูดถึงการเปิดเผยทางด้านอารมณ์ความรู้สึกในเพลงเช่น “Dis-ease” และ “Stay” คุณได้พบว่าคุณสบายใจมากขึ้นกับการมีความรู้สึกอ่อนไหวเปราะบางในเพลงของคุณ หรือมันยาก/ลำบากใจมากขึ้นเมื่อการเข้าถึงของคุณขยายออกไป?
JIN: ผมเข้าใจว่าดนตรีทำให้สิ่งต่างๆที่ยากนั้นเข้าถึงได้ง่ายดายขึ้น ผู้คนรอบตัวเราบอกเราว่าดนตรีเปิดช่องทางในการพูดของเรา
J-HOPE: ผมรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณ แต่เมื่อเป็นเรื่องของดนตรีแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมไม่อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ผมยังคงอยากทำเพลงที่ซื่อตรงและจริงใจต่อไปครับ
JUNGKOOK: ผมทำอย่างเต็มที่สุดเสมอเมื่อเวลาเป็นเรื่องของดนตรี แต่ผมรู้ว่ามีบางส่วนที่ผมยังคงบกพร่อง ผมคิดว่าผู้คนจะมองมันในแบบที่มันเป็น และเพียงสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้คือทุ่มทุกอย่างที่ผมมีและเติมเต็มในส่วนของข้อบกพร่องของผมครับ
Q: คุณเป็นที่รู้จักในนามของวงที่ทำการแสดงด้วยการเต้นที่เฉียบคม คุณรู้สึกอย่างไรกับการเต้นของคุณสื่อถึงดนตรีของคุณ?
J-HOPE: ผมคิดว่ามันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแสดงนั้นยกระดับและส่งเสริมดนตรีของ BTS ดังนั้นเราจึงทำงานอย่างหนักกับมันและทุ่มเทความพยายามของเราลงไปในนั้น นั่นคือเหตุผลที่เราโฟกัสให้มากขึ้นกับท่าเต้นของเราในช่วงนี้
JIMIN: ท่าเต้นคืออีกวิธีในการแสดงอธิบายถึงดนตรี แน่นอนว่าคุณอาจรู้สึกทึ่งประทับใจผ่านประสบการณ์ทางดนตรีได้ แต่ผมคิดว่าการแสดงที่ดีสามารถมอบประสบการณ์ที่น่าทึ่งในแบบที่ต่างออกไปให้คุณได้เช่นกัน การทำงานร่วมกันกับเมมเบอร์ขสำหรับการแสดงของเราได้นำมาซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวอันยอดเยี่ยมแก่วงของเรา และผมยังคิดว่ามันช่วยเราในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของเราไปยังผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BUSTLE BTS (CUT) (2)
Q: คุณยังเป็นที่รู้จักในเรื่อง MV อันสร้างสรรค์ของคุณ มีเพลงไหนของคุณที่คุณหวังอยากทำ MV หรือหวังว่าจะทำมันสักอันในอนาคต?
JIN: เพลงเดี่ยวของวีที่ชื่อว่า “Inner Child” ครับ ผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่เหมาะกับสเตเดียมอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นผมอยากให้มีวีดีโอของเราแสดงบนเวทีพร้อมไปกับเพลงนั้นครับ
Q: เพลงไหนคือ go-to song (~ต้องเพลงนี้แหละ) ในปัจจุบันของคุณที่คุณจะเล่นในทันทีที่มีคนยื่นสาย AUX (สายเชื่อมเครื่องเล่นเพลง) ให้คุณ?
JIMIN: ผมฟังเพลงที่คุณจะฟังตอนที่คุณอยู่คนเดียวในที่เงียบๆครับ
V: “Daddy” ของ Coldplay
Q: อะไรมาก่อน เมโลดี้หรือคำพูด? แนวทางนี้ได้เปลี่ยนไปช่วงหลายปีนี้ไหม?
JIN: ผมแค่เริ่มจากอะไรก็ตามที่ผุดขึ้นมาในใจของผมและทำมันต่อครับ
J-HOPE: ช่วงนี้คำพูดมาก่อนครับ
Q: เนื้อเพลงไหน ที่ไม่ว่าคุณหรือคนอื่นๆจะเข้าถึงกับคุณมากที่สุดในตอนนี้?
JIN: “Life goes on” และ “วันเวลาจะหวนกลับมาอีกครั้ง”
Q: สถานที่โปรดที่คุณเขียนหรือเรียบเรียง(เพลง)ในตอนนี้?
RM: ที่สตูดิโอ, ที่บ้าน และที่แม่น้ำฮันกัง
Q: เป้าหมายในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2021?
RM: กลายเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น
JIN: ผมอยากแสดงครับ!
SUGA: ผมอยากลองโปรเจคภายนอกให้มากขึ้น ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม
J-HOPE: เป้าหมายส่วนตัวของผมสำหรับปีนี้คือทำงานและขัดเกลาสิ่งส่วนตัวของผมบางอย่างและอาจปล่อยบางอย่างออกมา ผมยังอยากกลายเป็นคนที่สามารถจัดเรียบเรียงความคิดได้ในแบบที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ
JIMIN: คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราจะได้เจอกับแฟนๆ ของเราซึ่งหน้าเมื่อไหร่ ดังนั้นผมกำลังเตรียมพร้อมและทำตัวให้ฟิตสำหรับวันนั้น
V: ผมอยากใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีอย่างอิสระ
JUNGKOOK: ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ครับ!
BTS THE BEST FC INTERVIEW (1)
Q1: เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วใช่ไหม? ตอนคุณได้รับข้อเสนอสำหรับอัลบั้มต่างประเทศเป็นครั้งแรก คุณจำความรู้สึกนั้นได้ไหม?
🐥 ผมจำได้ครับ มีรุ่นพี่บางคนที่มีชื่อเสียงในเกาหลีที่ทำกิจกรรมในต่างประเทศอยู่แล้วตอนนั้น และผมจำความรู้สึกใจสั่นรัวและคิดว่า “ว้าว เราสามารถทำกิจกรรมในต่างประเทศได้แล้วตอนนี้”
🐿 ย้อนกลับไปในตอนนั้นพวกเรารู้สึกตื่นเต้นและใจสั่นรัวกับไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราทำครับ
🐱 พวกเราคิดว่าบางทีเราอาจจะไปอยู่ในระดับของซุปเปอร์สตาร์เช่นนั้นก็ได้กันครับ
🐨 ในตอนแรกมันยากมากครับ มีความยากลำบากในการร้องเพลงเป็นภาษาที่พวกเราไม่คุ้นเคยกับมัน
Q2: จนถึงตอนนี้ จองกุกได้มีส่วนร่วมในการทำเพลงออริจินอลญี่ปุ่นสองเพลง Your Eyes Tell และ Film Out มีอะไรที่แตกต่างไปจากปกติเพราะเมมเบอร์คนนึงมีส่วนร่วมใน(การทำ)เพลงไหม?
🐹 อย่างแรกเลยคือแต่ละทีมและนักแต่งเพลงแต่ละคนมีสไตล์สำหรับเพลงเป็นของตัวเอง ดังนั้นเพราะพวกเราเข้ากันได้อย่างดี และกลายเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลง มีบางครั้งที่เมโลดี้เข้ากันกับพวกเราได้ดีกว่านักแต่งเพลงคนอื่น ความอ่อนไหวที่ชาญฉลาด – ผมคิดว่าคุณสามารถเรียกมันว่าสไตล์ BTS ก็ได้ครับ?
🐥 ผมคิดว่ามันง่ายกว่าในการฝึกซ้อมและมันง่ายกว่าที่จะดึงเอาอารมณ์ของพวกเราออกมาในขณะร้องเพลงครับ จองกุกซังทำเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นระหว่างการอัดของเรา มันทำให้ผมคิดว่า(เพลงที่จองกุกทำ)เป็นเหมือนกับ “แบบอย่างคำตอบ” ครับ
Q3: Film Out เป็นยังไงบ้าง เพลงที่คุณร่วมงานกับวงร็อคญี่ปุ่น BACK NUMBER?
🐰 ครั้งแรกที่ผมได้ฟังไกด์เพลงครั้งแรกมันยังไม่มีเนื้อเพลงเลยครับ ตั้งแต่ต้นจนจบมันเป็นแค่การร้องกับ ลาลาลา ผมต้องการค้นหาความรู้สึกของเพลง ดังนั้นผมจึงคิดว่าบางทีผมควรเพิ่มเนื้อเพลงของผมเองให้กับมัน และนั่นก็คือวิธีที่มันได้เริ่มต้นขึ้นครับ มันเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ทำงานร่วมคนเจ๋งๆเช่นนี้และผมดีใจมากครับ ผมหวังว่าจะมีโอกาสเช่นนี้ในอนาคตอีกเช่นกันครับ
Q4: แล้วความคิดของพวกคุณทุกคนกับ Film Out เป็นยังไง?
🐥 มันยากในตอนที่เราร้องครับ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก มันทำให้ผมได้เรียนรู้ในขณะที่ผมร้องมันครับ
🐻 ผมคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ.. นี่เป็นครั้งแรกที่ผมร้องเพลงด้วยอารมณ์ในแบบนี้
🐰 มีแนวเพลงต่างๆมากมายในโลกนี้ครับ มีแนวเพลงที่พวกเราไม่เคยได้ท้าทายและผมเชื่อว่าเพลงนี้เป็นหนึ่งในนั้นครับ มันเป็นเพลงแนวใหม่สำหรับผม เช่นเดียวกันกับเมมเบอร์ ดังนั้นจึงได้เรียนรู้อะไรเยอะมากครับ.. มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่ดีที่เกิดขึ้นมาครับ
🐹 แน่นอนว่ามันเป็นแนวเพลงที่ผมไม่เคยลองมาก่อน แต่มันทิ้งความประทับใจไว้ให้เราอันยิ่งใหญ่ไว้ให้พวกเราครับ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เรามองสบตากัน เราจะร้องว่า “ลาลาลาลาลา~” ด้วยกันครับ
💜 ลาลาลาลาลาลา~
🐰 แล้วตอนที่เราร้องเพลงนี้ เรายังสามารถค้นพบด้านใหม่ของเมมเบอร์แรปไลน์ของเราด้วยครับ
🐨 (แก้ว 2 ใบที่วางเคียงกัน บทบาทของมัน – เนื้อเพลงแรป) เช่นพวกนั้น.. มันเป็นการแรปที่มีเสน่ห์
🐻 ตอนที่ผมเห็นเมมเบอร์แบบนั้นแล้ว ผมรู้สึกทึ่งมากเพราะมันดูเหมือนพวกเค้ามีศักยภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดครับ
Q5: เนื่องจาก BTS เป็นวงดนตรีระดับโลก ตอนนี้แฟนๆทั่วโลกต่างฟังเพลงของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณได้เห็นเพลงของคุณเผยแพร่ออกไปทั่วโลก?
🐨 มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมากครับ พวกเราซาบซึ้งอย่างมากที่ผู้คนมากมายทั่วโลกกำลังฟังเพลงของเรา โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาได้พิสูจน์สิ่งที่พวกเราเชื่อในมันครับ.. นั่นเป็นเหตุผลที่ผลเรารู้สึกขอบคุณอย่างมากครับ
Q6: ช่วงนี้คุณทุ่มเทกับการทำเพลง/เขียนเพลงอย่างมากยิ่งขึ้น แต่กระบวนการทำปกติแล้วเป็นอย่างไร? คุณมีวิธีใดที่ชื่นชอบเป็นพิเศษไหม?
🐱 บางครั้งผมอัดเสียงในโทรศัพท์ของผม แต่ผมก็พกอุปกรณ์ไปด้วยในที่ต่างๆ ดังนั้นผมมักทำเพลงโดยใช้มันครับ ผมกำลังเรียนกีต้าร์อยู่เช่นกันครับ ดังนั้นบางครั้งผมก็ใช้กีต้าร์เช่นกัน – ผมใช้วิธีต่างๆมากมายในการเขียนเพลงครับ
🐿 ผมมักใช้ฟังก์ชั่นอัดเสียงในสมาร์ทโฟนของผมครับ เวลาไหนที่เมโลดี้โผล่ขึ้นมาในหัวของผม ผมก็จะบันทึกมันและใช้สิ่งนั้นในการทำเพลงของผมในภายหลังครับ
🐰 สำหรับผมผมไม่ค่อยใช้โทรศัพท์ครับ ผมสนุกการอัดเมโลดี้และเนื้อเพลง โดยไม่มีแทร็ก และมีอุปกรณ์ทุกอย่างเตรียมไว้ในที่ครบครันครับ
🐥 ผมจะไปลองมันเหมือนกันนะ! ผมคิดว่ามันน่าจะเวิร์คมากสำหรับผม (หัวเราะ)!
🐨 ผมเล่นเครื่องดนตรีใดไม่เป็นเลย ดังนั้นผมรู้สึกเหมือนผมสามารถสร้างเพลงที่ดีกว่ามากจากสิ่งต่างๆที่ผุดขึ้นมาในหัวของผมเวลาที่ผมทำงานกับคนที่มีทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีครับ (หัวเราะ)
🐻 ผมเองก็อัดเมโลดี้ในโทรศัพท์และเริ่มขัดเกลารายละเอียดในภายหลังครับ
Q6: พวกคุณได้ให้กันและกันฟังเพลงที่เสร็จสมบูรณ์ หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไหม?
🐱 ครับ พวกเราแบ่งปันมันกับทุกคนและให้กันและกันฟัง บางครั้งผมก็ขอให้คนอื่นๆฟังสิ่งต่างๆที่ผมสร้างขึ้นครับ
🐥 เราถามกันและกันว่า “ผมทำเพลงนี้ แต่นายคิดว่าไงบ้าง?” และทำ(เพลง)ให้เสร็จสมบูรณ์โดยมอบคำแนะนำและพูดอะไรประมาณ “อ่า นั่นฟังดูดีนะ”
BTS THE BEST FC INTERVIEW (2)
Q7: สิ่งไหนในด้านดนตรีที่คุณอยากท้าทายตัวเองกับมันในอนาคต?
🐱 พร้อมไปกับการเล่นกีต้าร์ ผมกำลังคิดเกี่ยวกับการเรียนเล่นกลองเช่นครับ
🐨 ตั้งตารอมันครับ! สำหรับดนตรีแล้วทุกช่วงเวลาคือความท้าทายครับ ดังนั้นไม่มีอะไรเฉพาะเจาะจงที่ผมอยากลอง แต่ผมอยากร้องเพลงหลายๆเพลงครับ ร้องเยอะๆ แรปเยอะๆ…
🐰 ในกรณีนั้นผมอาจจะลองเรียนคลาสแรปครับ
🐹 ผมจะเริ่มแรปตั้งแต่วันนี้เช่นกันครับ (หัวเราะ)
🐥 ผมเองก็อยากพัฒนาด้านการร้องของผม และในด้านการแรปเช่นกันครับ (หัวเราะ)
🐿 ผมคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับผมที่จะทุ่มเทหัวใจของผมลงในสิ่งต่างๆที่ผมได้ทำจนกระทั่งถึงตอนนี้ สำหรับสิ่งที่ผมอยากทำ การเต้นคือจุดแข็งของผม ดังนั้นผมอยากที่จะขยายมันออกไปและทำสิ่งที่ผสมผสานการเต้นและดนตรีเข้าด้วยกัน
🐰 ไม่มีแนวเพลงที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษในใจผมแต่ผมอยากกลายเป็นศิลปินที่มีความชำนาญและมีความสามารถหลากหลายที่มีเซนส์ด้านจังหวะ (ที่แข็งแกร่ง)
🐿 ผมคิดว่าเซนส์ในด้านจังหวะของนายเยี่ยมมากนะ!
🐻 มันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตปัจจุบันของผม แต่ในชีวิตหลังความตายของผม ผมอยากเป็นนักเปียโนคลาสสิกครับ ผมเรียนคลาส(เปียโน)ตั้งแต่เกรด 6 ถึงเกรด 9 ผมกลัวแป้นเปียโนในตอนนั้น แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมจึงได้ตระหนักว่าผมรักมันอย่างแท้จริงมากเพียงใดครับ
🐥 ทำไมนายคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตปัจจุบันนี้หล่ะ? ถ้านายเริ่มพยายามอย่างหนักในตอนนี้ นายคงจะสามารถทำมันได้แน่! 🐻 ขอบคุณนะ (หัวเราะ)
Q8: ในทุกๆปีมีจำนวนของแฟนๆที่ฟังเพลงของคุณขยายขึ้นอย่างมาก คุณรู้สึกถึงน้ำหนักของเพลงคุณหรือข้อความที่คุณต้องการมอบออกไปได้กลายมาหนักมากยิ่งขึ้นด้วยไหม?
🐨 ครับ มันมีภาระ ถึงอย่างนั้นก็ตามพวกเรายังคงต้องการที่จะมอบถ้อยคำที่เราหรือโลกนี้อาจต้องการต่อไป ดังนั้นเราแค่อยากที่จะทำมันโดยไม่คิดว่ามันเป็นภาระครับ ผมคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ดีสุดครับ
🐥 ผมคิดว่ามันเป็นภาระน้อยลงครับ แน่นอนว่ามันไม่ใช้การเปรียบเทียบความเจ็บปวดหรือน้ำหนักของความเศร้าที่ผู้คนในโลกนี้หรือเราอาจมี แต่ผมคิดว่ามันล้วนเหมือนกันทั้งหมด วิธีคิด, การใช้ชีวิต ล้วนเหมือนกันทั้งหมด เพราะพวกเราต่างเป็นมนุษย์เหมือนกัน
🐿 ใช่ครับ แน่นอนว่าพวกเราไตร่ตรองอะไรเยอะมาก แต่ผมเชื่อว่าข้อความที่เราได้จากดนตรีมันเป็นสิ่งที่เป็นบวก การใส่ข้อความลงไปในเพลงนั้นเป็นสิ่งสวยงามและมันเป็นสิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ ดังนั้นผมอยากบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีครับ เช่นนั้นแล้วแทนที่จะกลัวเกี่ยวกับมัน ผมอยากจะสนุกให้มากเท่าที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ครับ
🐰 ในขณะที่พวกเราได้ทำงานมาจนกระทั่งตอนนี้ ผมอยากทำเพลงที่พวกเราอยากทำและยังคงส่งมอบข้อความที่สามารถเป็นอิทธิพลที่ดีต่อไปได้ เราเป็นศิลปินที่ถูกรักโดยผู้คนมากมาย พวกเรามีพลังที่จะส่งมอบข้อความออกไปในขณะที่มีผลกระทบอย่างมาก ผมอยากที่จะเผยแพร่ข้อความดีๆต่อไป ในขณะที่ผมมีความสุขกับมันมากกว่าคิดว่ามันเป็นภาระครับ
🐹 แม้ว่าสิ่งต่างๆที่พวกเราไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้นั้นสามารถถ่ายทอดผ่านดนตรีได้ ผู้คนได้ยอมรับข้อความของพวกเราในการตีความที่หลากหลาย ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ทำให้ผมมีความสุขมากครับ
🐻 สำหรับผม ผมอยากมอบข้อความที่ผู้คนสามารถเข้าถึงและยังสามารถเยียวยาพวกเค้าได้จริงๆครับ ดังนั้นผมจะไม่รู้สึกถึงภาระ มันดีที่สุดถ้าคุณเผยแพร่ความเห็นอกเห็นใจและการเยียวยา ผมอยากทำสิ่งนั้นกับเรื่องดนตรีครับ
🐱 ในขณะที่ผู้คนมากมายที่ฟังเพลงของเราได้ขยายออกไป ผมอยากทำเพลงด้วยธีมที่คนจำนวนมากสามารถเข้าใจ(/สัมผัสถึงความรู้สึก)ได้ เราจะทำมันด้วยวิธีการในแบบของพวกเราเองและนั่น ผมเชื่อว่ามันเป็นสไตล์ของพวกเราครับ ดังนั้นพวกเราจะทำงานให้หนักในการทำเพลงครับ
บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> BTS Interviews Pt.2
เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> ดูซีรี่ย์
>>> UFABACCARAT