BTS School Trilogy หนทางการเติบโตของวัยรุ่นด้วยดนตรีและเสรีภาพที่ไม่ได้หอมหวาน
BTS School Trilogy สำหรับวงการเคป๊อบแล้ว ในส่วนมากเราต่างก็รู้จักกันผ่านๆ หรือได้เห็นจากกระแสในอินเตอร์เน็ต ทั้งการเต้น และการร้อง และในนั้นก็มี BTS แต่พวกเขามีหนทางที่ไม่ได้เหมือนใคร ไม่ได้ต้องการทำเพลงให้เหมือนใคร คอนเซปเพลงของพวกเขามักมีอะไรซ้อนเร้นมาด้วยเสมอ ในวันนี้เราจึงจะมาพูดถึงอัลบั้มเก่าๆของพวกเขากัน
โดยเราจะย้อนไปเมื่อปี 2013 ถือเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางดนตรีของสมาชิก 7 คนแห่งวงบังทันโซยอนดัน ประกอบด้วย คิมนัมจุน คิมซอกจิน มินยุนกิ จองโฮซอก ปาร์คจีมิน คิมแทฮยอง และจอนจองกุก กับการปล่อยอัลบั้มซีรีย์ชุดแรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “School Trilogy” ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตในช่วงวัยเรียนของหนุ่มสาว รวมทั้งตีแผ่มุมมองด้านสังคม โรงเรียน ความฝัน และความรัก อัลบั้มซีรีย์ “School Trilogy” ประกอบด้วย 3 มินิอัลบั้ม
- มินิอัลบั้มชุดที่ 1 : 2Cool 4Skool
(13 มิถุนายน 2013)
- มินิอัลบั้มชุดที่ 2 : O!RUL8,2?
(11 กันยายน 2013)
- มินิอัลบั้มชุดที่ 3 : Skool Luv Affair
(12 กุมภาพันธ์ 2014)
Music ดนตรีที่นำมาหยิบใช้และที่มาของแนวดนตรีต่างๆ
ในอัลบั้มทั้งสามแบบนี้ BTS ได้นำแนวดนตรี Hip Hop มาใช้เป็นจำนวนมาก โดน Hip Hop เป็นแนวดนตรีประเภทหนึ่ง ที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกันและทั่วโลก มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกันที่มาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในช่วง ยุค 1970s เนื่องจากในยุค 1960s เป็นยุคที่อิ่มตัวของแนวเพลง ผู้คนจึงเริ่มหาแนวเพลงใหม่ๆที่ฉีกออกไป
และมีการนำเครื่องดนตรีมา Mix ทำให้เกิดแนวดนตรีที่หลากหลาย ปี 1970 เป็นปีบุกเบิกของวัฒนธรรม Hip-Hop โดยมีรากฐานมาจากแนวดนตรี Disco Rap ที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเชื้อสาย African-American โดยวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้ๆกัน มักจะชอบมารวมตัวกันเพื่อจัดงานปาร์ตี้รื่นเริง จนเกิดเป็นวัฒนธรรมฮิปฮอปขึ้น
วัฒนธรรมฮิปฮอปจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีปัจจัย 4 อย่าง คือ
1. Graffiti เป็นการเพ้นท์ พ่นสีบนก าแพง เพื่อเชื้อเชิญแขกหรือคนที่สนใจมาเข้าร่วมงาน เพื่อให้รู้ว่าปาร์ตี้จะเริ่มเมื่อไหร่และจัดที่ไหน
2. DJ มากจากค าว่า Disc Jockey ท าหน้าที่เปิดแผ่นเพลง
3. B-Boy กลุ่มคนที่เต้นโชว์ระหว่าง DJ เล่นแผ่นเพลง เพื่อเป็นการคั่นเวลา หรือที่รู้จักกันในช่วง Break Dance
4. M.C. ท าหน้าที่ดำเนินงาน เพื่อให้งานปาร์ตี้เริ่มได้
“Hip Hop ไม่ใช่แค่แนวดนตรี แต่เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง”
ปี 1984 วง Run D.M.C. ทำให้เกิดวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวฮิปฮอป ก็คือ การแต่งกายด้วยชุดกีฬา และสร้อยทองเส้นโต เรียกว่าการแต่งกายแบบ Street style
ซึ่งการแต่งกาย Street style คือชาวฮิปฮอปมักนิยมใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ หรือเสื้อวอร์มกีฬาสีสันต่างๆพร้อมสร้อยทองเส้นโต เนื่องจากในสมัยนั้น คนเชื้อสายแอฟริกันส่วนใหญ่ที่มาอาศัยอยู่ในอเมริกามีฐานะยากจน เสื้อผ้าส่วนใหญ่จึงมาจากการรับบริจาค หรือตกทอดจากพี่สู่น้อง

Social Movement การขับเคลื่อนสังคมในรูปแบบของ BTS BTS School Trilogy
- The Hip Hop Re: Education Project
The Hip Hop Re: Education Project เป็นองค์กรศิลปะชุมชนที่ไม่แสวงหากำไร ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 2009 โดยใช้วัฒนธรรมฮิปฮอป เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และการแสวงหาการศึกษารูปแบบใหม่ๆ
เป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมของสังคม โดยใช้ฮิปฮอปเป็นเครื่องมือในการต่อต้าน เช่น การใช้ความรุนแรง การใช้ยาเสพติด และสร้างชุมชนที่ยืนหยัดชีวิตในเชิงบวก ผสมผสานความหลากหลายของเทคนิคและปรัชญา มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ และแสวงหาแนวทางใหม่ๆ แก่สังคม ทั้งการศึกษา และการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมที่น่าอยู่ในอนาคต
The Hip Hop Re: Education Project ได้ทำงานร่วมกับเยาวชน 3,000 คน ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศทั่วโลก ร่วมกันนำเสนอทางเลือกใหม่ในการศึกษาสำหรับปัจจุบัน
ผลงานที่ผ่านมาขององค์กร
- พัฒนาโปรแกรมศิลปะ สำหรับการบำบัด เพื่อช่วยให้เด็กหนุ่มสาวที่ถูกคุมประพฤติกลับคืนสู่ชุมชน หรือบ้านของตัวเอง
- มี Website เชื่อมต่อให้คนหนุ่มสาวทั่วโลกได้แชร์เรื่องราวของพวกเขา ผ่านเนื้อหาทางศิลปะใหม่ๆ และแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาที่คนหนุ่มสาวทั่วโลกเผชิญร่วมกัน เพื่อให้เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง
- ช่วยให้เยาวชนในปัจจุบันสามารถเป็นเจ้านายของโชคชะตา และตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงในโลกกว้าง
บังทันคัมแบคด้วยภาพลักษณ์ของ Hip Hop เนื้อเพลงที่สะท้อนถึงการตั้งคำถามกับสังคม ซึ่งมีอุดมการณ์คล้ายๆกัน The Hip Hop Re: Education Project
Movie ไอเดียและการได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ต่างๆมากมาย สู่ผลงานเพลง
- ซีรี่ย์ American Horror Story : Asylum
American Horror Story เป็นซีรีย์แนวฆาตกรรมสยองขวัญ โดยใน season 2 มีชื่อตอนว่า Asylum เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1964 ณ โรงพยาบาลรักษาอาชญากรที่ป่วยทางจิต ควบคุมดูแลโดยบาทหลวงและซิสเตอร์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน season นี้ จึงเต็มไปด้วยผี ซาตาน ปีศาจ เอเลี่ยน ความเชื่อทางศาสนา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฆาตกรโรคจิตที่คอยถลกหนังใบหน้าของหญิงสาว เพื่อนำมาทำเป็นหน้ากาก นามว่า Bloody Face
ตัวละครทุกตัวในเรื่อง American Horror Story มีปมที่ซ่อนอยู่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางครั้งสิ่งที่พวกเขาแสดงออก อาจไม่ใช่ตัวตนของพวกเขาที่แท้จริง แต่เป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น
ความเชื่อมโยงระหว่าง American Horror Story : Asylum กับ MV ของ BTS
Kit Walker ทำงานอยู่ที่ปั้มน้ำมัน ก่อนปิดปั้ม เจอกับลูกค้าโยนเงินค่าน้ำมันลงบนพื้น คล้ายฉากของ Rap Monster ทำงานในปั้มน้ำมัน และมีลูกค้าโยนเงินลงพื้น
โรงพยาบาล Briarcliff Manor ดูแลโดยคาทอลิก เพื่อเป็นสถานที่รักษาอาชญากรที่ป่วยทางจิต โดยเชื่อว่าศาสนาจะช่วยขัดเกลาให้เขาเป็นคนดีขึ้น เชื่อฟังพระเจ้า เชื่อมโยงกับเอ็มวี Blood Sweat & Tears ที่สอดแทรกสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก (Roman Catholic)
ศาสนา ความเชื่อเรื่องบุญ-บาป และความชั่วร้ายของปีศาจซาตาน
- พระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The Last Supper)
เป็นภาพที่พระเยซูทานอาหารค่ ามื้อสุดท้าย ร่วมกับสาวกของพระองค์ แต่ถูกสาวกคนหนึ่ง นามว่า ยูดาส หักหลัง ทำให้พระองค์ถูกจับตัวไปตรึงกางเขน และถึงแก่ความตาย
คาทอลิก มีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา (พิธีนมัสการพระเจ้า) และพิธีศีลมหาสนิท (การอยู่ร่วมกันกับพระเจ้า) โดยบาทหลวงจะทำพิธีเสกขนมปังและเหล้าองุ่น เมื่อขนมปังและเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธีก็หมายถึงเนื้อและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ที่ทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
เหตุการณ์พระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย >> เมื่อพระเยซูกับอัครสาวกรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พระเยซูจะถูกจับกุม ระหว่างนั้น พระเยซูได้หยิบขนมปังก้อนหนึ่งขึ้นมาอธิษฐาน และแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ มอบให้กับสาวกทุกคนบนโต๊ะอาหาร พร้อมตรัสว่า
“จงกินเสียเถิด นี่คือร่างกายของเรา” และหยิบน้ำองุ่นขึ้นมา แล้วตรัสว่า “จงรับไปดื่มทุกคนเถิด ด้วยว่านี้เป็นโลหิตของเรา อันเป็นโลหิตแห่งพันธะสัญญา ซึ่งต้องหลั่งออกมา เพื่อยกบาปโทษคนเป็นอันมาก”
- Shachath ทูตสวรรค์ด้านมืด (the Angel of Death)
ผู้จะมอบจุมพิตให้กับผู้ที่ต้องการหลุดพ้นจากการมีชีวิตอยู่ มักจะปรากฏตัว เมื่อมีคนใกล้จะหมดลมหายใจ
Shachath ทูตสวรรค์ด้านมืด เป็นคนใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์ (Lucifer) อดีตอัครเทวทูต แต่เพราะความหลงใหลในอำนาจของ Lucifer และอยากตั้งตนเป็นใหญ่เหนือพระเจ้า Lucifer จึงได้ก่อกบฏเพื่อหักหลังพระเจ้า โดยไปยุยงเทพ-เทวดาบนสวรรค์ให้ทำสงครามกันเอง แต่สุดท้ายฝ่ายของลูซิเฟอร์ก็พ่ายแพ้ไป จึงถูกลงโทษให้ตกจากสวรรค์ กลายเป็นซาตาน
ดังภาพ “การล่มสลายของกบฏเทวดา” The Fall of the Rebel Angels โดย ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ เป็นฉากต่อสู้ระหว่างเทวดากับซาตานบนสวรรค์ที่ปรากฏใน MV เพลง Blood Sweat & Tears ที่ปล่อยในปี 2016
เมื่อพูดถึงความชั่วร้าย หลายเรื่องเล่าในศาสนาคริสต์ มักเปรียบ ลูซิเฟอร์ เป็นตัวแทนของความชั่วร้าย ที่ไม่สามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้ รวมถึงเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า
บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> เจาะความสำเร็จกับ BTS
เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์