Suga แร็ปเปอร์สุด swag

Suga แร็ปเปอร์สุด swag มาทำความรู้จักกับแรปเปอร์สุดเท่แห่งวง BTS

Suga แร็ปเปอร์สุด swag แรปเปอร์สุดแหวกและไม่เหมือนใครของวง BTS

Suga แร็ปเปอร์สุด swag มิน ยุน กิ (เกาหลี: 민윤기l; เกิด 9 มีนาคม ค.ศ. 1993) มีชื่อในวงการว่า ชูก้า (SUGA) และ Agust D เป็นแร็ปเปอร์ นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เพลงชาวเกาหลีใต้ ในปี ค.ศ. 2013 ชูกาเปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์เกาหลีใต้ บีทีเอส ภายใต้สังกัดบิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์

เขาได้ปล่อย mixtape เดี่ยว ครั้งแรกในปี 2016 ภายใต้ชื่อ Agust D และขายทางออนไลน์ในปี 2018 อัลบั้มของเขาติดชาร์ตบน Billboard ในปี 2020 เขาได้ปล่อย mixtape เดี่ยวอีกครั้งในชื่อ D-2 และติดอันดับ 11 บน ‘Billboard 200’ ติดอันดับ7 บน ‘UK Albums Chart’

และอันดับ 2 ใน ARIA Album Chart ของออสเตรเลีย ‘Korea Music Copyright Association’ ยกย่องชูก้าในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่มีเพลงมากกว่า 100 เพลง รวมถึงเพลง “Wine” ของ Suran ที่ครองอันดับสองใน Gaon Music Chart และได้รับรางวัลเพลง Soul/R&B ยอดเยี่ยมแห่งปี ในงาน Melon Music Awards 2017

Suga แร็ปเปอร์สุด swag

เขามีความสนใจการแร็พและการแต่งเพลงตั้งแต่สมัยมัธยม ตอนที่เขาอายุ13 ปีก็ได้เริ่มเขียนเนื้อเพลงและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเพลง เขาเริ่มต้นแต่งเพลงแร็ปไปพร้อมกับการทำงานพาร์ทไทม์ เขาเคยเป็นแร็ปเปอร์ใต้ดินในชื่อ Gross และเป็นส่วนหนึ่งของทีมฮิปฮอป D-Town ในช่วงปี 2010

เขาเคยแต่งเพลง “518-062” ซึ่งเป็นเพลงระลึกถึงเหตุการณ์ที่กวางจู

ชูก้าเข้าร่วมในวง บีทีเอส ผ่านการออดิชั่นของทางค่าย โดยเดิมทีเขามีความฝันที่จะเป็นโปรดิวเซอร์ก่อนจะเดบิ้วทในฐานะแร็ปเปอร์ของบีทีเอส ในปี 2013

ที่มาของชื่อที่ใช้ในวงการ ชูก้า (SUGA ;슈가) มาจากพยางค์แรกของคำว่าชูตติงการ์ด (อังกฤษ: shooting guard) ซึ่งเป็นตำแหน่งในทีมบาสเกตบอลที่เขาเคยเล่นสมัยเป็นนักเรียน[2] ต่อมาในปี ค.ศ. 2016 เขาได้ใช้นามแฝง เอกัสดี (อังกฤษ: Agust D) ในมิกซ์เทปของเขา โดยมาจาก การสลับตัวอักษรคำว่า SUGA DT ซึ่งคำว่า DT ย่อมาจากสถานที่เกิดของเขา คือ แดกู ทาวน์ (Daegu Town) หรือเมืองแดกู นั่นเอง

เรื่องราวของ Suga จากคนที่มีรายได้แค่ 64 บาทต่อวัน สู่ 260 ล้านบาทใน 6 ปี! Suga แร็ปเปอร์สุด swag

ใครจะนึกว่าเวลาไม่ถึง 10 ปี จะเปลี่ยนเขาจากผู้ชายธรรมดาที่เคยต้องเลือกระหว่างค่าอาหารกับค่ารถบัสกลับบ้าน กลายมาเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกในปัจจุบัน

เขาทำเพลงโดยทำงานพาร์ทไทม์ที่ห้องอัด ซึ่งไม่ได้รับค่าจ้าง ทุกวันเขาต้องถามตัวเองว่า เขาจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคา 1000 วอน ดีไหม? เขาจะได้มีเงินเหลือพอเป็นค่ารถกลับบ้าน หรือเขาควรจะกินอะไรแพงๆซัก 2000 วอน แล้วค่อยเดินกลับบ้านเพราะไม่มีค่ารถ ซึ่งเขาต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง

ตอนนี้ชูก้ามีเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของเขาอยู่มากกว่า 70 เพลง เขาเคยเป็นแร็ปเปอร์ใต้ดินและโปรดิวเซอร์ก่อนจะออดิชั่นเข้ามาในค่ายบันเทิงที่ห่างไกลจากคำว่า 3 ยักษ์ใหญ่ของวงการเพลงเกาหลีเอามากๆในตอนนั้น เขาได้ที่ 2 ในการแข่งขันแร็ปที่บริษัท Big Hit Entertainment จัดขึ้น

เขาเซ็นสัญญากับบริษัทในฐานะเด็กฝึกหัดและโปรดิวเซอร์ ช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัด เขาก็ยังทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานส่งของ และตอนนั้นเขาประสบอุบัติเหตุและทำให้ได้รับบาดเจ็บ

“ผมประสบอุบัติเหตุขณะส่งของด้วยรถมอเตอร์ไซด์ ตอนที่ผมลืมตาขึ้น ผมเห็นล้อรถอยู่ตรงหน้าผม ผมถูกลากไปใต้ล้อ และขยับไม่ได้เพราะว่าไหล่ผมเคลื่อน” – ชูก้า

หลังจากเหตุการณ์นั้น Big Hit จ่ายค่าเทอมให้ชูก้า เขาจะได้ไม่ต้องไปทำงานพาร์ทไทม์อีก หลังจากฝึกได้ 3 ปี เขาก็ตกลงเข้าร่วมวง ถึงแม้ตอนแรกจะตั้งใจทำงานโปรดิวเซอร์ก็ตาม และชูก้าสนิทกับเจ-โฮปในช่วงฝึกหัด และบอกว่าเจ-โฮปเป็นคนโน้มน้าวให้เขาเลือกที่จะเป็นสมาชิกวง

“เขาเป็นคนมีพลังงานเยอะมาก ผมไม่ค่อยใช้พลังงานเยอะขนาดนั้น แต่ว่าเขาเป็นคนที่มอบพลังงานให้กับผมตลอด” – ชูก้า พูดถึงเจ-โฮป

S O P E ♥️ | BTS LATINO Amino

เจ-โฮป ได้พูดถึงชูก้าไว้เช่นกันว่า

“เขาอาจทำเหมือนไม่ค่อยแคร์สมาชิกคนอื่น แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนคอยดูแลพวกเขาจากด้านหลังเสมอ” – เจ-โฮป

นอกจากเคยไม่มีเงินแล้ว ชูก้ายังเคยรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่ค่อยมีใครสนับสนุนความฝันในการทำงานในวงการเพลงของเขา

ชูก้าเคยเผชิญกับความเจ็บปวดทางจิตใจ ทำให้ต้องรับมือกับโรคซึมเศร้า, โรคหวาดกลัวการเข้าสังคม ทำให้เขาออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เพื่อสร้างความตระหนักและให้ความรู้สาธารณะ เพราะอาการเจ็บป่วยทางจิตใจยังคงเป็นปัญหาที่อ่อนไหวของกลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบัน

“การวิตกกังวลและรู้สึกโดดเดี่ยวยังคงอยู่กับผมมาโดยตลอด ผมพยายามอย่างมากที่จะจัดการมัน และดูเหมือนว่าผมคงต้องเรียนรู้มันไปตลอดชีวิต” – ชูก้า

Suga แร็ปเปอร์สุด swag

ชูก้าพบเจอกับเรื่องราวมากมาย เหมือนเขาเติบโตมาจากเถ้าถ่าน กลายเป็นคนที่แข็งแรงขึ้น, กล้าหาญขึ้น และดีขึ้น นอกจากทำผลงานเพลงที่สะท้อนปัญหาสังคมแล้ว เขายังช่วยเหลือสังคมด้วยการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งเด็ก เป็นจำนวน 100 ล้านวอน (ประมาณ 2.9 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรคมะเร็ง

ความมุ่งมั่นของบีทีเอส เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาว พวกเขาได้รับรางวัลเกียรติยศ ‘Order of Cultural Merit’ จากประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018

Suga แร็ปเปอร์สุด swag

มาทำความรู้จัก Suga แร็ปเปอร์สุดเท่แห่งวง BTS กันให้มากขึ้น

  • เบื้องหลังสเตจเนม ชูก้า

มีหลายเรื่องราวที่พูดถึงที่มาของสเตจเนม ชูก้า (Suga) บางคนบอกว่า ชื่อนี้ได้มากจากสีผิว ใบหน้าที่หล่อเหลา และรอยยิ้มของเขา เหมือนน้ำตาล (Sugar) ซึ่งเขาได้ตัดตัว R ออกไป เพราะว่าการเป็นฮิปฮอปไม่ควรมีภาพลักษณ์ที่หวานแบบนั้น แต่ Suga ในทางฮิปฮอปหมายถึงการเสพติด ทำให้คำนี้มีความหมายเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งความหวานและการเสพติด ที่เข้ากับบุคลิกของเขา

  • หน้าตาที่แตกต่างไปจากนิสัย

ชูก้ามีหน้าตาที่แตกต่างออกไปจากนิสัย ถึงแม้เขาจะดูน่ารัก แต่ก็เป็นคนมีพลัง เด็ดขาด เสียงแร็ปของเขาที่ทุ้มลึกทำให้เขาสร้างบุคลิกที่แตกต่างไปจากสมาชิกบีทีเอสคนอื่นๆ นอกจากนี้เนื้อร้องที่ตรงไปตรงมา ยังเป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของเขา เนื้อเพลงบางเพลงของชูก้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศทางรายการโทรทัศน์เนื่องจากตรงเกินไป แต่กลับถูกใจแฟนคลับ มีไม่กี่วงที่กล้าหยิบยกประเด็นที่ชูก้ากล้านำมาทำเพลง

  • เขาคือศิลปินที่มีความพยายาม

ตอนที่เรียนอยู่เกรด 6 มีคนเคยบอกว่า ชูก้า ทำตามฝันของเขาไม่ได้หรอก ตั้งแต่นั้นเขาเลยทุ่มเทฝึกฝน ด้วยความตั้งใจที่ว่า “จะทำให้คนที่พูดกับเขาในวันนั้นเสียใจ” เขาพยายามทุกทางในการฝึกแร็ป และความตั้งใจของเขาก็สำเร็จ เขากลายเป็นแร็ปเปอร์ที่มีชื่อเสียง ขนาดช่วงที่ดัดฟัน เขายังออกเสียงชัดทุกคำที่แร็ปเลย

  • คนแมนกับบุคลิกไม่สนโลก

ชูก้าเป็นคนที่มีบุคลิกภายนอกไม่สนโลก อาจเพราะเขาเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ผู้ชาย ทำให้เขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาและเด็ดขาด เป็นที่กลัวเกรงของรุ่นน้องในวง นอกจากนี้เขายังเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรก็ตาม ถ้าเขาตั้งใจจะทำอะไรเขาก็ต้องทำให้ได้ แต่เขาก็มีด้านอบอุ่นในแบบของตัวเอง ถึงแม้จะดูเย็นชา แต่ก็คอยดูแลน้องๆแบบเงียบๆตลอด

  • ผมชอบนอนครับ

แฟนคลับจะรู้กันดีว่า เวลาว่างของชูก้าคือการนอน ถึงแม้เขาจะออกมาบอกว่า “ผมไม่ได้นอนเยอะ แต่เพราะต้องทำเพลงจนดึก ก็เลยต้องงีบบ่อยๆ” แต่สมาชิกคนอื่นในวงก็ยืนยันว่า ชูก้าหน่ะมีวิญญาณของคนแก่อายุ 50 ปีอยู่ในตัวเขา

Feeling ill | ARMY's Amino

  • เพื่อนในวงการของเขา

ถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบ ชูก้าจะกระตือรือร้นมาก (ถึงแม้หลายครั้งจะเห็นว่าเขาชอบงีบก็ตาม) เขามีเพื่อนในวงการหลายคน ทั้ง คิมฮีชอล, โจวมี, เจบี, ซูรัน, ทาโบล, คังแดเนียบ และอีกมากมาย

ชูก้าเคยโปรดิวซ์เพลง Wine ให้กับซูรัน ซึ่งเพลงนี้ได้รับรางวัลจากรายการเพลง และรางวัลอื่นๆอีกหลายรางวัล นอกจากนี้ชูก้ายังเคยทำเพลงร่วมกับทาโบลในปี 2019 ชื่อเพลง Song Request ของนักร้อง อีโซรา

  • เรื่องอื่นๆของชูก้า

ชูก้าดื่มเก่ง และกินเก่งด้วย เขากินอะไรก็ได้ เขามีเสื้อแจ็คเก็ตหนังตัวเก่งที่ใส่บ่อยๆ และชอบไปเล่นบาสเก็ตบอลทุกวันอาทิตย์ช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึกหัด ตอนนี้ความรักที่เขามีให้กับบาสเก็ตบอลยังไม่เปลี่ยนไป เขาเคยทำเพลงที่มีเสียงบาสเก็ตบอลด้วย ตอนเด็กๆเขาอยากเป็นสถาปนิก และเขาไม่ชอบขอเงินพ่อแม่ เลยเคยทำงานพาร์ทไทม์หลายงาน เขาเคยได้รับบาดเจ็บหนักตอนทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร

ไดอารี่ของ Suga ที่อาจจะทำให้อาร์มี่เสียน้ำตาได้

Suga แร็ปเปอร์สุด swag

บันทึกประจำวันของ ชูก้า (Suga) วง บีทีเอส (BTS) ที่เขาเคยโพสไว้บนทวิตเตอร์เมื่อปี 2016 ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งบน Weverse และข้อความเหล่านั้นประทับใจแฟนคลับ เขาบอกว่าเขาเขียนเรื่องราวเหล่านี้ ในช่วงหยุดพักของตัวเอง และอยากถ่ายทอดความทรงจำนี้ในฐานะของ มินยุนกิ ไม่ใช่ชูก้า ลองไปอ่านข้อความของเขากัน:

 “สวัสดีครับ ชูก้านะครับ หลายคนคงสงสัยว่าผมทำอะไรบ้างในช่วงวันหยุด เอาแบบสั้นนะครับ ผมเดิน, นอน, แล้วก็คิดนู่นนี่มากมาย เป็นความคิดที่ผมต้องจัดการก่อนที่จะเริ่มงาน mixtape ของผม ผมเลยออกเดินทาง แล้วก็มีที่ที่ผมต้องไปด้วยเช่นกัน” 

 “ผมอยากทำอะไรซักอย่างที่มินยุนกิในวัย 24 สามารถทำได้ ไม่ใช่ในฐานะชูก้าวัย 24 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวเอง และเรื่องที่ผมอยากเล่าก็เป็นเรื่องที่คนคนหนึ่งอยากเล่าให้คนอื่นฟัง ไม่ใช่ในฐานะศิลปิน แฟนคลับ หรือ บีทีเอส และอาร์มี่”

“ผมรู้สึกเศร้าเมื่อได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่าผมไม่สามารถปฏิบัติต่อทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ผมไม่อยากทำร้ายใคร แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ ผมคิดว่าผมยังเป็นคนที่ไม่พร้อม”

 “ผมนอนหลับไม่สนิทตั้งแต่คอนเสิร์ตที่โกเบวันที่ 2 อาจเป็นเพราะว่าผมได้ทำร้ายคนหลายคน…ผมตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อที่เย็นยะเยือกเสมอ” 

“เพราะว่าผมเคยไม่สามารถขึ้นแสดงได้และทำให้แฟนคลับหลายคนผิดหวัง ผมเลยพยายามที่จะขึ้นเวที โดยคิดว่าอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด หลายคนพยายามจะหยุดผม ผมร้องไห้หนักมากเพราะผมไม่สามารถขึ้นแสดงได้ แต่การร้องไห้หมายถึงการยอมแพ้”

 “ถ้าแค่ผมเสียใจคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ที่เห็นคนอื่นที่รักผมเสียใจด้วยมันจะกลายเป็นเรื่องยาก ผมไม่อยากเห็นความเศร้าของคนที่รักผม ถ้าผมย้อนเวลาไปได้ ผมจะขึ้นเวทีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

 “โกเบ คือที่ที่ผมต้องไป ระหว่างช่วงพักร้อน ผมไปที่นั่น หลายคนพยายามหยุดไม่ให้ผมไป แต่ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ถ้าไม่ไป ผมเลยเดินทางไปยังโกเบ”

“นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมมายังสถานที่จัดคอนเสิร์ต หลังแสดงคอนเสิร์ตเสร็จ ครั้งแรกตอนคอนเสิร์ต Red Bullet ที่ Ax Hall และเวทีที่ 2 ที่ผมไม่สามารถขึ้นแสดงได้ Kobe World Hall”

Suga แร็ปเปอร์สุด swag

“ผมไม่อยากเศร้าซึม ผมไม่อยากรับเอาความรักและคำชมจากแฟนคลับที่มอบให้ ผมเลยต้องมาที่นี่เพราะผมไม่อยากรู้สึกแบบนั้น”

 “ผมรักการได้แสดงบนเวที จนถึงทุกวันนี้ก็ยังรัก ผมรักมันมาตั้งแต่อายุ 17 ถึงแม้ตอนนั้นจะมีผู้ชมแค่ 2 คนก็ตาม ผมสามารถมองเห็นสายตาของทั้งคู่ และมันยืนยันสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ แต่หลังจากเดบิวต์ ผมรู้สึกไม่เหมือนเดิม ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นศิลปิน อาจเป็นเพราะผมรู้สึกว่าผมยังขาดความสามารถในหลายด้าน”

 “ในคอนเสิร์ต HYYH วันแรก ผมสามารถมองดูผู้ชมด้วยความมั่นใจได้”

Pin on KPOP Teaser & Jacket Photos

 “แต่หลังจากไม่สามารถขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตที่โกเบในวันที่ 2 ผมไม่สามารถมองตาทุกคนได้อีก นี่คือเหตุผมที่ผมมาโกเบอีกครั้ง เดินไปรอบๆสถานที่จัดคอนเสิร์ต จนกว่าจะถึงเวลาที่คอนเสิร์ตเริ่มขึ้น”

 “ผมอยากจะรับรู้ความรู้สึกของพวกคุณตอนที่รอชมคอนเสิร์ตของพวกเรา ตั้งแต่บูธขายตั๋ว จนไปถึงทุกที่นั่งในคอนเสิร์ต ผมรับรู้ถึงความรู้สึกที่หลากหลาย มีความสุข ตื่นเต้น เศร้า โกรธ ผิดหวัง ขณะที่คุณเฝ้ารอคอนเสิร์ต ผมอยากจะเข้าใจ และผมเข้าใจแล้ว และนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดและอยากขอโทษที่ไม่สามารถเป็นคนที่สมบูรณ์แบบได้”

“อีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าตัวเองบกพร่องเพียงใด ผมคือคนที่ทำตัวเหมือนเข้มแข็งแต่กลับอ่อนแอ ถึงแม้ผมจะไม่นับถือศาสนาอะไร แต่ผมก็อธิษฐานตอนที่อยู่ที่นั่น ผมรู้ว่าซักวันมันจะผ่านไป แต่ผมหวังว่าผมจะไม่มีวันลืมความรู้สึกนี้”

suga pics on Twitter: "… "

 “จากคนที่ชอบอยู่คนเดียว พวกคุณกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม ทั้งอายุ, เพศ, เชื้อชาติ, ศาสนา, ภาษา ไม่สำคัญกับผมเลย ตารางของรายการเพลงถูกกำหนดมาแบบไม่ทันตั้งตัว ผมเลยต้องกลับก่อนแผนเดิมที่วางไว้”

 “ผมสามารถจัดการความคิดของตัวเองได้หลายอย่างก่อนจะกลับบ้าน ผมรู้ตัวเองอีกครั้งว่าผมได้รับการดูแลที่ดีแค่ไหน และควรจะขอบคุณทุกช่วงเวลาในชีวิต ขอบคุณอาร์มี่ที่ทำให้ผมกลายเป็นคนที่มีความสุข ผมรู้ว่าผมไม่ได้เปิดเผยตัวเองมากเท่าไหร่”

 “ผมเขียนข้อความนี้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเอง ผมจะใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณ เพราะผมคือคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ รักนะครับอาร์มี่”

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> เรื่องน่าประทับใจของ V BTS

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> แทงบอลยูโร