ความสำเร็จของBTSปี2022

ความสำเร็จของBTSปี2022 รวบรวมผลงานต่างๆที่ประสบความสำเร็จของบังทัน

ความสำเร็จของBTSปี2022 รวมผลงานต่างๆ ที่บังทันสรรสร้างจนประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จของBTSปี2022 นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของวง BTS ถึงแม้ว่าทางต้นสังกัดจะประกาศว่าสมาชิกทั้ง 7 คนอย่าง อาร์เอ็ม, จิน, ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี และ จองกุก จะโฟกัสที่การทำผลงานเดี่ยวของตัวเองเป็นหลักในช่วงนี้ ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทยอยเกณฑ์ทหารตามกำหนดการ ผลงานของBTS

ซึ่งพี่คนโตของวงอย่าง จิน ก็ได้เข้ากรมรับใช้ชาติไปแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ผลงานของพวกเขาก็ยังคงทำลายสถิติในหลายแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง และการออกงานโซโล่ของแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ตอกย้ำความเป็นศิลปินสัญชาติเกาหลีใต้ที่เป็นปรากฏการณ์พิเศษของวงการเพลงระดับโลกได้เป็นอย่างดี

BTS: Permission to Dance on Stage – LA (ภาพยนตร์) ความสำเร็จของBTSปี2022

‘BTS PERMISSION TO DANCE ON STAGE’ เป็นซีรีส์เวิร์ลทัวร์การแสดงล่าสุดโดยศิลปิน BTS ไอคอนแห่งศตวรรษที่ 21 ที่นำเสนอการแสดงที่ทรงพลังกับเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของการเป็นศิลปินอันน่าเหลือเชื่อของพวกเขา การแสดงที่ Los Angeles ก่อนหน้านี้มีผู้เข้าชมโดยประมาณ 813,000 คน จากการแสดงทั้งหมดสี่ครั้ง ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2564

คอนเสิร์ต BTS: PERMISSION TO DANCE ON STAGE – LA คือคอนเสิร์ตครั้งสำคัญของ 7 หนุ่ม BTS ที่ได้หวนกลับมาโชว์ Performance และพบปะแฟนๆอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งคอนเสิร์ตนี้จัดขึ้น ณ สนามกีฬา SoFi Stadium ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

และคอนเสิร์ตในครั้งนั้นยังจัดขึ้นทั้งหมด 4 รอบ ตั้งแต่วันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2021 และวันที่ 2-3 ธันวาคม 2021 อีกด้วย รวมแล้วในคอนเสิร์ตครั้งนี้มีผู้เข้าชมรวม 4 รอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น 212,000 ที่นั่ง และยังมีผู้เข้าชมผ่านช่องทางสตรีมมิงอีกกว่า 500,000 แอ็กเคานต์ ผลงานของBTS

ความสำเร็จของBTSปี2022

ความสำเร็จของBTSปี2022 ซึ่งภายในคอนเสิร์ตต่างก็อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานจากการแสดงและลิสต์เพลงสุดฮิตที่แต่ละเพลงล้วนได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่มาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น DynamiteButter และ Permission to Dance รวมไปถึงเพลงอื่นๆอีกมากมายที่หนุ่มขนมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ ถือเป็นอีก 1 คอนเสิร์ตที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว หากเตรียมอาร์มี่บอมบ์พร้อมแล้ว ก็สตรีมกันได้เลยทาง Disney+ Hotstar

สำหรับภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่องนี้เป็นการบันทึกมาจากการแสดงสดของพวกเขาทั้ง 4 รอบในวันที่ 27-28 พ.ย. และ 1-2 ธันวาคม ปี 2021 ที่ SoFi Stadium แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยคอนเสิร์ตดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยยอดจำหน่ายบัตรถึง 214,000 ใบ และทำเงินรวมไปถึง 33.3 ล้านดอลล่าร์ ผลงานของBTS

Grammy Award 2023 (งานประกาศรางวัล/โชว์พิเศษ)

เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์และการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของวง BTS เพราะล่าสุดที่งาน Grammy Awards 2023 พวกเขาก็กลายเป็นศิลปินเกาหลีใต้วงแรกที่สามารถเข้าชิงรางวัลติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

โดยในปีนี้ทาง BTS ได้เข้าชิงสาขา Best Pop Duo/Group Performance อีกครั้งสำหรับผลงานเพลง My Universe ที่ร้องกับ Coldplay ซึ่งสาขานี้ทาง จิน, ชูก้า, เจโฮป, อาร์เอ็ม, จีมิน, วี และ จองกุก ก็เคยชิงมาแล้วในปี 2021 กับเพลง Dynamite และปี 2022 กับเพลง Butter

โดยในปีนี้พวกเขาก็ต้องไปชิงกับเพลง Don’t Shut Me Down ของ ABBA, เพลง Bam Bam ของ Camila Cabello และ Ed Sheeran, เพลง I Like You (A Happier Song) ของ Doja Cat และ Post Malone และเพลง Unholy ของ Sam Smith และ Kim Petras ผลงานของBTS

ความสำเร็จของBTSปี2022

อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ BTS สำหรับเวที Grammy Awards 2023 ก็คือพวกเขามีรายชื่อเข้าชิงในสาขาใหญ่สุดของค่ำคืนกับอัลบั้มแห่งปี (Album of the Year) เป็นครั้งแรกจากผลงานอัลบั้ม Music of the Spheres ของ Coldplay ที่เพลง My Universe ถูกบรรจุ

ซึ่งตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาทางหน่วย The Recording Academy ที่จัดงานก็ได้มีการเปลี่ยนกฎระเบียบด้วยการรวมรายชื่อของศิลปินรับเชิญที่อยู่ในอัลบั้มนั้นๆ ซึ่งแต่ก่อนจะมีแค่ตัวศิลปินหลัก นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เท่านั้น

นอกเหนือจากนี้เพลง Yet To Come ของ BTS ก็ได้ชิงในสาขามิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยมด้วย (Best Music Video) ซึ่งพวกเขาก็ต้องไปแข่งกับมิวสิกวิดีโอเพลง Easy on Me ของ Adele, As It Was ของ Harry Styles, Woman ของ Doja Cat, The Heart Part 5 ของ Kendrick Lamar และ All Too Well (10 Minute Version): The Short Film ของ Taylor Swift

Lollapalooza 2022 (โชว์เดี่ยวของ J-Hope)

วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา J-Hope (เจโฮป) หนึ่งในสมาชิกวง BTS กลายเป็นศิลปินเกาหลีใต้คนแรกของโลกที่ได้ขึ้นเวที Lollapalooza 2022 เทศกาลดนตรีใหญ่ยักษ์แห่งชิคาโก สหรัฐอเมริกา ในฐานะศิลปินเฮดไลเนอร์ โดยเขาก็ได้โชว์เพลงเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเหลือล้น ไม่แพ้คอนเสิร์ตครบวง BTS เลยทีเดียว

J-Hope ได้แสดงปิดงาน Lollapalooza ในปีนี้บนเวที Bud Light Seltzer โดยมีศิลปินระดับโลกอย่าง Green Day, Polo & Pan, Dua Lipa, Machine Gun Kelly, Lil Baby, Metallica, Kygo รวมไปถึงศิลปินคนโปรดของเขาอย่าง J. Cole ที่ได้ขึ้นแสดงในฐานะศิลปินเฮดไลเนอร์เช่นกัน ซึ่งหนึ่งวันก่อนหน้านั้น วงรุ่นน้องสังกัดเดียวกันอย่าง TOMORROW x TOGETHER ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นวงเกาหลีใต้วงแรกที่ได้ขึ้นเวที Lollapalooza ด้วยเช่นกัน ผลงานของBTS

สำหรับงาน Lollapalooza ในปีนี้ J-Hope ได้ทำการแสดงแบบจัดเต็มเป็นเวลากว่า 70 นาที ด้วยเพลงทั้งหมด 18 เพลง โดยได้แสดง 8 เพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง Jack In The Box ที่เพิ่งปล่อยออกมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน รวมไปถึงบทเพลงจากอัลบั้มมิกซ์เทปของเขาที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2018 อย่าง Hope World

และเพลงเดี่ยวจากอัลบั้มของ BTS ได้แก่ Cypher Pt.1Dynamite เวอร์ชัน Tropical Remix, Trivia: Just Dance และ Outro: Ego นอกจากนั้น J-Hope ยังได้แสดงเพลง Chicken Noodle Soup ร่วมกับ Becky G เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เปิดตัวเพลงเมื่อปี 2019 อีกด้วย รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

J-Hope เป็นสมาชิกวง BTS คนแรกที่ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวออกมา หลังจากที่มีการประกาศว่าช่วงนี้ 7 หนุ่มจะโฟกัสกับงานเดี่ยวเป็นอันดับแรก ซึ่งอัลบั้ม Jack In The Box อันเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยบทเพลงแนวฮิปฮอป ที่เขียนขึ้นอย่างจริงใจและเปี่ยมล้นด้วยพลังบวกตามสไตล์ดั้งเดิมของ J-Hope ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกอย่างล้นหลาม และแน่นอนว่าได้รับความรักมากมายจากชาว ARMY ด้วยเช่นกัน

Billboard Music Awards 2022 (งานประกาศรางวัล) ความสำเร็จของBTSปี2022

2022 Billboard Music Awards: BTS creates history with 3 wins

ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญในงานประกาศรางวัล Billboard Music Awards ปี 2022 เมื่อวงบอยแบนด์จากอุตสาหกรรม K-Pop อย่างวง BTS ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญบนเวทีประกาศรางวัลระดับโลก ด้วยการชนะรางวัลมากที่สุดถึง 3 รางวัล จากการเข้าชิง 6 สาขารางวัล ได้แก่ รางวัล Top Duo/Group, Top Song Sales Artist และ Top Selling Song จากซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษยอดฮิต ‘Butter’

อย่างไรก็ตามจากการชนะรางวัลในค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตอนนี้วง BTS มีสถิติจำนวนรางวัลบิลบอร์ดรวมทั้งสิ้นตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ทั้งหมด 12 รางวัล พร้อมทุบสถิติเก่าของวงเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานอย่าง Destiny’s Child ศิลปินกลุ่มที่เคยครองรางวัลบิลบอร์ดมากที่สุด 11 รางวัล และยังไม่เคยมีใครเอาชนะสถิติได้มานานถึง 17 ปีเต็ม จนกระทั่งทั้ง 7 หนุ่มวง BTS ได้ทำลายมันลงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

นับเป็นครั้งแรกๆ ของการตอกย้ำความแข็งแกร่งของวงการเพลงเคป็อป ที่สามารถทะยานขึ้นไปอยู่ ณ จุดสูงสุดของเวทีประกาศรางวัลระดับโลกได้สำเร็จ ซึ่งเหล่าอาร์มี่ก็คงจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า พวกเขาทั้ง 7 คนจะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์อะไรอีกในวงการเพลงระดับโลก รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

BTS <Yet To Come> in BUSAN (คอนเสิร์ตฟรี)

ความสำเร็จของBTSปี2022

BTS in BUSAN คอนเสิร์ตระดับสเตเดี้ยมที่แฟนๆ ชาว ARMY ทั่วโลกสามารถเดินทางไปดูในสเตเดี้ยม ดูตามที่สาธารณะใหญ่ๆ หรือดูออนไลน์สดๆ ที่บ้านได้ นอกจากจะเป็นการช่วยโปรโมตเมืองปูซานในฐานะเมืองที่เข้าร่วมขอเป็นเจ้าภาพจัดงานสุดยิ่งใหญ่อย่าง World Expo ในปี 2030 แล้ว สำหรับ BTS ในฐานะศิลปินเองก็ยังเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงให้แฟนๆ ได้เห็นว่ายังมีความสิ่งที่ดีๆ รอเราอยู่อีกมากมาย ตามชื่อคอนเสิร์ต “Yet To Come”

แม้ว่า BTS จะอยู่ระหว่างช่วงพักงานวงชั่วคราวเพื่อให้แต่ละคนได้เติบโตในเส้นทางของตัวเอง ก่อนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมกับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดีขึ้นในอนาคต แต่ทั้ง 7 คน RM, จิน, j-hope, จีมิน, SUGA, V และ จองกุก ก็กลับมารวมตัวแสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบอีกครั้ง

ต่อหน้าแฟนๆ BTS ทั่วโลกที่เดินทางไปดูที่ Busan Asiad Stadium เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา กว่า 52,000 คน รวมไปถึงแฟนๆ ที่ไปเยียมชมเมืองปูซานที่ถูกเนรมิตให้เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีม่วง เพื่อต้อนรับทั้ง BTS และแฟนๆ ที่มาเที่ยวเมืองปูซาน และบริเวณรอบๆ Busan Asiad Stadium รวมทั้งหมดราวๆ 100,000 คน รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

แฟนๆ ที่ไม่ได้เข้าขมในสเตเดี้ยม สามารถรับชมผ่านจอขนาดยักษ์ที่ฉายให้ชมกันสดๆ ในหลายที่ของเมืองปูซาน รวมถึงคนที่ไม่ได้ไปที่ปูซานก็ยังสามารถรับชมผ่านแอบพลิเคชั่น Weverse, ZEPETO, Naver NOW. และ TBS1 (ญี่ปุ่น) ได้เช่นกัน

ไฮไลต์ของการแสดงตลอด 2 ชั่วโมงกว่า นอกจากจะเปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลงสุดตื่นเต้นอย่าง “MIC Drop”, “Run BTS” จากอัลบั้ม Proof ที่ได้แสดงสดเป็นครั้งแรกในงานนี้แล้ว ยังมีเพลง “Save Me” ที่ไม่ได้ร้องสดบนเวทีกันบ่อยๆ เพลง “00:00 (Zero O’Clock)” และ “Butterfly” ที่รวมสมาชิกสายโวคอลอย่าง จิน จีวิน วี และจองกุก รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

และเพลงรวมสายแร็ป Suga, RM และ j-hope กับ “UGH!” และ “BTS Cypher Pt. 3: Killer” เพลง “Ma City” ที่จีมินภูมิใจเสนอที่จะร้องในบ้านเกิดของตัวเอง และร้องสดเป็นครั้งแรก รวมถึงเพลงดังระดับโลกที่ขาดไม่ได้อย่าง “Dynamite,” “Boy With Luv” และ “Butter” ด้วย

White House (เยี่ยมทำเนียบขาว)

วานนี้ (31 พฤษภาคม) ศิลปิน K-Pop ชื่อดังจากเกาหลีใต้อย่าง BTS เดินทางเยือนทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการโอบรับความแตกต่างหลากหลายในสังคมอเมริกันและสังคมโลก รวมถึงต้านกระแสเกลียดชังที่มีต่อชาวเอเชีย (Asian Hate) ที่บ่อยครั้งมักบานปลายกลายเป็นอาชญากรรมและการใช้ความรุนแรง

จากรายงานของ Center for the Study of Hate and Extremism ชี้ว่า ในปี 2021 อาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากอคติทางเชื้อชาติที่มีต่อชาวเอเชียน โดยเฉพาะเอเชียน-อเมริกัน เพิ่มสูงขึ้นถึง 300% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากแนวคิดที่ต้องการตำหนิว่าชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีน เป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดของโรคโควิด รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงพยายามผลักดันกฎหมายต้านกระแสเกลียดชังชาวเอเชียในสังคมอเมริกันอย่างจริงจัง รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

ความสำเร็จของBTSปี2022

ห้องสัมภาษณ์สื่อของทำเนียบขาวแน่นขนัดไปด้วยกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก หลังสมาชิกวง BTS ทั้ง 7 คน ที่ประกอบไปด้วย อาร์เอ็ม, จิน, ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี และ จองกุก ปรากฏตัวในชุดสูทสีดำผูกเนคไท พร้อมแสดงจุดยืนและความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยมี แครีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวคนใหม่ให้การต้อนรับ และนี่คือคำให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอนที่เกิดขึ้น

จีมินกล่าวว่า “พวกเราต่างถูกทำลายจากกระแสเกลียดชังชาวเอเชียที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมถึงกระแสเกลียดชังกลุ่มลูกครึ่งเอเชียน-อเมริกัน เพื่อที่จะหยุดเรื่องนี้ และสนับสนุนจุดยืนของเรา เราจึงอยากจะใช้โอกาสนี้เป็นกระบอกเสียงให้กับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง”

ทางด้านชูก้ากล่าวเสริมว่า “มันไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะแตกต่างกัน ผมคิดว่าความเท่าเทียมกันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเปิดใจและโอบรับความแตกต่างหลากหลายทั้งหมดที่พวกเรามี”

ขณะที่วีชี้ว่า “ทุกคนต่างมีเรื่องราว ต่างมีประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง เราหวังว่าวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เราจะขยับเข้าไปสู่จุดที่เราต่างให้เกียรติกันและเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกๆ คนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีคุณค่าในตัวเอง”

เจโฮปกล่าวขอบคุณแฟนคลับ (ARMY) ทั่วโลกที่สนับสนุนและให้การตอบรับ BTS ด้วยดีมาโดยตลอด “เรามายืนที่นี่อีกครั้งเพื่อขอบคุณเหล่าบรรดา ARMY ทุกคน แฟนคลับของพวกเราทั่วโลก ผู้ที่ต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา พวกเรารู้สึกขอบคุณจากใจจริงเสมอมา”

ด้านจองกุกกล่าวเสริมว่า พวกเรายังคงรู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่ผลงานเพลงของศิลปินชาวเกาหลีใต้จะส่งไปถึงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ทลายกำแพงทางด้านภาษาและวัฒนธรรม พวกเราเชื่อว่าดนตรีเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ที่ช่วยรวมทุกสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้” รวมผลงานความสำเร็จของบังทันภายในปี2022

นับตั้งแต่ที่ BTS เปิดตัวเดบิวต์เมื่อปี 2013 ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ทศวรรษ พวกเขายังคงเดินหน้าผลิตผลงานคุณภาพ และเป็นกระบอกเสียงให้กับคนรุ่นใหม่ รวมถึงประเด็นเรื่องการโอบรับความแตกต่างหลากหลายในสังคมมาโดยตลอด และหวังว่าเสียงของพวกเขาจะเป็นพลังที่ช่วยขับเคลื่อนโลกใบนี้ไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย

Disney+

การปล่อยคอนเทนต์ของ BTS ผ่าน Disney+ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างต้นสังกัด HYBE Entertainment และ The Walt Disney Company Asia Pacific

โดยสื่อสำนัก Hollywood Reporter รายงานข่าวว่า ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมกันสร้างโปรแกรมใหม่ทั้งหมด 5 โชว์ โดยมี 3 รายการสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ BTS หรือรายการพิเศษที่สมาชิกของวงมีส่วนร่วม

หนึ่งในโปรเจกต์จาก BTS ที่จะได้ฉายในแพลตฟอร์ม Disney+ ก็คือภาพยนตร์คอนเสิร์ต BTS: Permission to Dance on Stage – LA ฉบับ 4K

ที่ BTS ขึ้นแสดงที่ SoFi Stadium สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่ BTS เจอกับแฟนเพลงตัวเป็นๆ ในงานคอนเสิร์ต ตั้งแต่โรคโควิดระบาดไปทั่วโลก

นอกจากนั้นยังมีรายการท่องเที่ยวของกลุ่มเพื่อนสนิท Wooga Squad อย่างรายการ IN THE SOOP: Friendcation ที่แฟนคลับต่างรอคอย เพราะนอกจาก วี หนึ่งในสมาชิกวง BTS จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้แล้ว ยังมีนักแสดงชั้นนำอย่าง พัคซอจุน, ชเวอูชิก, พัคฮยองชิก

และศิลปินคนดัง Peakboy ที่แฟนๆ ได้เห็นพวกเขาออกทริปพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับทำกิจกรรมสนุกสนานกันอีกมากมายในรายการนี้

อีกโปรเจกต์ที่น่าสนใจของ BTS คือสารคดี BTS Monuments: Beyond the Star ที่จะ ‘ติดตามการเดินทางอันน่าทึ่งของ BTS ป๊อปไอคอนแห่งศวรรษที่ 21’ โดยประธานด้านการสร้างคอนเทนต์ของ Disney APAC อย่าง Jessica Kam-Emgle กล่าวถึงการสร้างโปรเจกต์ร่วมกับ BTS ว่า

“การร่วมงานกันในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงความมุ่นมั่นของครีเอทีฟของเรา ในการร่วมงานกับนักสร้างคอนเทนต์สุดไอคอนิก และท็อปสตาร์ของ Asia-Pacific เพื่อผู้ชมส่วนใหญ่จะได้ร่วมสนุกไปกับพรสวรรค์ของพวกเขาในหลากหลายรูปแบบ เราเชื่อว่ารายการใหม่เหล่านี้จะถูกใจผู้บริโภคทั่วโลก และรอคอยมิวสิกคอนเทนต์ใหม่ๆ จากแพลตฟอร์มของเรา”

FIFA World Cup Qatar 2022 (โชว์เปิดงานฟุตบอลโลก)

ความสำเร็จของBTSปี2022

ถือเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพร์สในพิธีเปิดงานการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ (FIFA World Cup Qatar 2022) กับการแสดงของศิลปินชาวเกาหลีใต้มากความสามารถจองกุก (Jungkook) หนึ่งในสมาชิกวง BTS ที่ปรากฏตัวพร้อมโชว์เพลงประจำงานในครั้งนี้อย่าง “Dreamers” ซึ่งถือเป็นเพลงประจำการแข่งขัน นอกจากนี้แล้วเขายังได้ร่วมร้องเพลงกับฟาฮัด อัล-คูไบซี (Fahad Al-Kubaisi) ศิลปินดังชาวกาตาร์อีกด้วย

กลายเป็นที่พูดถึงในช่วงข้ามคืน หลังจากที่ต้นสังกัดอย่าง Big Hit Entertainment ของศิลปินหนุ่ม ‘จองกุก วง BTS’ ได้ออกมายืนยันผ่านบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการแล้วว่า จองกุกคือหนึ่งในศิลปินที่จะได้ขึ้นไปโชว์ในพิธีเปิดบอลโลก FIFA World Cup Qatar ประจำปี 2022 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศกาตาร์

โดยทวีตดังกล่าวบอกว่า ‘เรารู้สึกภูมิใจที่จะประกาศว่า จองกุก ได้เป็นส่วนหนึ่งของเพลงประกอบการแข่งขัน FIFA World Cup Qatar 2022 และจะได้ขึ้นแสดงสดในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก โปรดติดตาม’

การได้รับเลือกให้ขึ้นโชว์สดบนเวทีพิธีเปิดบอลโลกของศิลปินเกาหลีใต้ชื่อดังอย่าง ‘จองกุก วง BTS’ ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความทรงพลังของอุตสาหกรรม K-Pop ที่กำลังร้อนแรงถึงขีดสุดในขณะนี้ และการโอบรับเอาภูมิภาคเอเชียนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งบนเวทีโลกอย่างโจ่งแจ้ง แตกต่างจากเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> คิมแทฮยอง

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> โหลดเกมส์