ตัวตนของ BTS

ตัวตนของ BTS “ตัวตนของจองกุกเปลี่ยนไป, จินที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง..BTS ทุกคนไม่มีพิษภัย”

ตัวตนของ BTS “ตัวตนของจองกุกเปลี่ยนไป, จินที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง..BTS ทุกคนไม่มีพิษภัย”

ตัวตนของ BTS เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2013 BTS เดบิวต์ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า พกความเป็นฮิปฮอปสแว็คของแท้ซึ่งเป็นสิ่งที่ยาก สำหรับไอดอล พวกเขาทั้ง 7 ผู้ตั้งคำถามกับเหล่าวัยรุ่นว่า “เฮ้ย แกน่ะ ความฝันของแกคืออะไร?” คว้าใจแฟนคลับสาวๆ เอาไว้ได้อยู่หมัด อัลบั้มเดบิวต์ ‘2 COOL 4 SKOOL’ ของพวกเขาบันทึกสถิติยิดขายกว่า 6 หมื่นก็อปปี้ เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

อัลบั้มที่ 2 ‘Skool Luv Affair’ บันทึกยอดขายถึง 1 แสนก็อปปี้ BTS ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก ‘DARK & WILD’ ไปเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2014 ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี 2 เดือนนับจากเดบิวต์

และเพลงไตเติ้ล ‘I NEED U’ จากอัลบั้ม ‘화양연화 pt.1’ ที่ออกในเดือนเมษายนปี 2015 ก็ชนะที่ 1 ในรายการเพลงเป็นครั้งแรก พวกเขาผู้เติบโตเป็นศิลปินอันดับ 1 เต็มตัว ได้กวาดกระทั่งรางวัลแดซัง จากงานประกาศรางวัลปลายปีทางดนตรีไปเมื่อปีที่ผ่านมา ลากกราฟอัตราการเติบโตอันสมบูรณ์ และในเวลานี้พวกเขาคือเด็กๆ ที่น่าภาคภูมิใจของบังชีฮยอก ผู้ที่กำลังมีอิทธิพลทั่วโลก

ตัวตนของ BTS

Q : การรวมตัวเมมเบอร์ในวงตอนนี้ขึ้นมาได้ยังไง? ตัวตนของ BTS

“จริงๆ แล้วผมชอบคนที่ช่างเลือกที่จะฟังเพลง มากกว่าคนที่ฟังเพลงหลากหลายแต่ไม่ลึกซึ้ง ผมได้ฟังเพลงของ Pdogg เพื่อนผมที่อยู่ที่กิมเฮ เห็นว่าเขาดูฟังฮิปฮอปเยอะก็เลยพามาอยู่โซล พวกคนทำเพลงฮิปฮอปที่รู้จักกับเพื่อนผมคนนี้แนะนำ RAPMONSTER ให้รู้จัก ผมได้ฟังเพลงของเขา ก็รู้สึกว่าเขาทำได้ดีเลยในมาตรฐานของผม สัญชาตญาณของผมมันบอกว่า ยังไงก็ต้องเอาเขามาเดบิวต์ให้ได้

ส่วนในส่วนของฝ่ายบริหารจัดการ ก็มองว่าจะเติบโตยากถ้าไม่ได้เดบิวต์เป็นวงไอดอล ก็เลยได้ปั้นออกมาเป็นวงฮิปฮอปไอดอล พอเปิดการออดิชั่น ก็ได้เจอกับ SUGA และเอาโฮซอกกี้(J-HOPE) ที่เต้นอยู่มาเทรนและสอนฮิปฮอปให้ และก็ค่อยๆ ฟอร์มเมมเบอร์ขึ้นมา จนเป็นวง BTS ในตอนนี้ครับ”

“ให้เล่าเป็นคนๆ ไปมันน่าอายออกครับ เอาเป็นว่าพวกเขาขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะมีแพชชั่นทางดนตรีกันทุกคน พวกเขามีแพชชั่นกับดนตรีมากเลยล่ะ ซึ่งนี่มันก็เป็นหน้าที่ของศิลปินเลยไม่ใช่หรอพวกเขาทั้ง 7 คนมีไหวพริบดีมาก ไหนฐานะวงก็ด้วย

พวกเขาแต่ละคน เข้าใจดีว่าตัวเองต้องรับบทบาทไหนในวง ผมได้แต่คิดว่าผู้ชายรวมตัวกัน 7 คนจะไม่ทะเลาะกันได้ยังไง แต่ทุกๆ ครั้งพวกเขาจะแก้ปัญหาในฐานะวง ไม่ใช่เป็นรายคน พวกเขาทั้งน่าชื่นชม ไม่มีพิษภัย และนิสัยดีกันหมดทุกคน ไม่ใช่ดีอย่างโง่ๆ แต่ก็น่าทึ่งที่ไม่ได้เป็นอย่างเซเลป เด็กที่อัธยาศัยดี มีความเชื่อมั่น และมีกึ๋นพวกนี้ก็คือ RAPMONSTER, SUGA, J-HOPE, JIN, V, JUNGKOOK และ JIMIN ขนาดเวลาผมอยู่กับพวกเขาเองยังทึ่งและมีอะไรให้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะ”

ตัวตนของ BTS

Q : โดยส่วนตัวเองคุณคงยินดีมากกับการเห็นการเติบโตของพวกเขา ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการทำธุรกิจ

“ผมเจอ RAPMONSTER ครั้งแรกตอนเขาอยู่ม.3 เห็นเขามา 7-8 ปีแล้ว ก็ความรู้สึกเดียวกับแฟนๆ เลยครับ เขาเริ่มเป็นเด็กฝึกหัดและเดบิวต์ตั้งแต่ยังเด็กมาก ผมเลยรู้สึกสนุก ที่ได้เห็นบุคลิกเขาในตอนนี้ เปลี่ยนไปจากสมัยเป็นเด็กฝึกหัด จริงๆ แล้วเวลาให้จองกุกร้องเพลง ตอนเขายังเป็นเด็กฝึกหัด เขาร้องไม่ได้เลย เขาจะเขินและยืนบิดไปบิดมาอยู่ 15 นาทีได้เลย

เขาได้รับการประเมิณจากสังกัดด้วยซ้ำว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้เดบิวต์ เพราะเขาไม่มีความสามารถอะไร แต่ผมว่าตอนนี้เขากลายเป็นเมมเบอร์คนเก่งเลยใช่มั้ยล่ะ ในขณะที่ทุกคน บุคลิกเปลี่ยนกันหมด แต่จินที่เป็นพี่ใหญ่กลับคงเส้นคงวา เป็นเด็กที่ไหวพริบดีอย่างมาก มากๆ เลยล่ะครับ เขาคือเด็กดีที่คอยคว้าเมมเบอร์ไม่ให้หลุดจากมาตรฐานครับ”

“หวังว่าพวกเขาแต่ละคน ทำสิ่งที่ทำในด้านดนตรีต่อไปด้วยใจ ที่รู้สึกสนุกและชอบที่จะทำ ไม่ใช่เพราะมันเป็นงาน ในอนาคต ผมหวังให้พวกเขาแต่ละคนเติบโตถึงขั้นทำเพลงด้วยตัวเอง ในฐานะศิลปินเดี่ยวเลยล่ะครับ เพราะจริงๆ แล้วตอนนี้ยังมีเมมเบอร์ที่ทำอะไร เองคนเดียวไม่ได้อยู่ ผมอยากให้พวกเขา เขียนเนื้อเพลงที่มีความจริงใจต่อไป ในระหว่างที่พวกเขาเติบโตขึ้น”

ตัวตนของ BTS

Q : ไอดอลหน้าใหม่ทั้งหลายเอ่ยว่า BTS เป็นต้นแบบอยู่เรื่อยๆ เลย

“สิ่งที่เราให้คำแนะนำในด้านดนตรีคือ จะต้องไม่ลืมแพชชั่นที่มีต่อดนตรี และไม่ลืมว่า การมีอยู่ของแฟนคลับสำคัญมากขนาดไหน ผมขอเท่านี้แค่นั้นครับ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้เอาไว้ ผมไม่ชอบคำแนะนำว่า ให้รักษาความตั้งใจเดิมเอาไว้เลยครับ

พอเราโตขึ้น เราก็ควรได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้นไม่ใช่หรอ เราถึงได้พยายามที่จะเติบโตขึ้นนี่นา ผมคิดว่าถ้าเขาไม่ลืมแพชชั่น ทางดนตรีและความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อคนที่ทำให้พวกเขา ประสบความสำเร็จละก็ เขาก็จะไปได้ดีครับ โดยเฉพาะแฟนๆ ไอดอลที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อซัพพอร์ตไงครับ”

“ในบรรดาแฟนคลับต่างชาติ ฐานแฟนคลับอเมริกาใหญ่ที่สุดครับ แต่พวกเรามีแนวโน้ม ของฐานแฟนคลับเท่าเทียมกันทั่วโลก น่าทึ่งที่พวกเขาไม่ก้าวร้าวและนึกถึงความสนใจ ต่อสาธารณชนเป็นอย่างมาก ผมปลื้มที่พวกเขามาเจอกันโดยมี BTS เป็นตัวกลาง และคิดลงมือทำแต่เรื่องดีๆ กันเป็นหมู่คณะ และพวกเขาก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน กับบริษัทและเมมเบอร์ ถึงแฟนคลับจะชื่ออาร์มี่ แต่พวกเขาไม่มีความก้าวร้าวเลยสักนิด และเรายังมีแฟนคลับผู้ชายเยอะด้วย ข้อนี้ก็เป็นความภาคภูมิใจของเราเหมือนกันครับ”

คุณมีเป้าหมายสูงสุดหรือวาดภาพใหญ่ๆ เอาไว้มั้ย

“ผมไม่ใช่ประเภทที่จะวาดภาพอะไรเอาไว้หรอก ผมเพียงทำสิ่งที่ได้รับมาทีละอย่างให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ผมอยากให้แฟนๆ ได้เห็น BTS เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ เมมเบอร์เองก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ในวันหนึ่งการเติบโตของพวกเขามันก็จะหยุดลง แต่เราจะทำเต็มที่เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นครับ หวังว่า BTS จะเติบโตขึ้นไม่มีหยุดจนกว่าจะเข้ากรม ส่วนหลังจากนั้นก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะครับที่รู้ พวกเขายังไม่ขึ้นถึงจุดสูงสุด ต้องเต็มที่มากขึ้นครับ”

“การที่ BTS มาถึงตรงนี้ได้นั้นมาจากฟังจากพลังของแฟนๆ 100% ผมและ BTS แค่ทำเพลงที่อยากทพเพราะมันเป็นงานของพวกเรา แต่เรามาถึงตรงนี้ได้ด้วยแฟนๆ ในอนาคตต่อไปแฟนๆ ก็ยังเป็นคนที่มีคุณค่ากับเราที่สุดและเป็นคนที่เราให้ความสำคัญอันดับ 1 พวกเราก็จะตั้งใจทำเพลง เพราะฉะนั้นขอให้รัก BTS ต่อไปเรื่อยๆ เลยนะครับ ขอบคุณและขอบคุณนะครับ”

Q : ได้ยินว่าถกเถียงเรื่องเป้าหมายของ BTS มามากตั้งแต่ตอนตอนฟอร์มวงเลย

A : “ตั้งแต่ออกตัวมาผมคิดว่า BTS ต้องเป็นศิลปินที่สุดยอดมากกว่าแค่โชว์ในสิ่งที่มี ความจริงแล้วผมมาเปิดอกคุยเรื่องเป้าหมายนี้กับเมมเบอร์หลังจากเดบิวต์ ขนาดในช่วงแรกๆ เวลาเราพูดถึงเรื่องพวกนี้ คนในวงการก็จะมองด้วยสายตาดูแคลนและพูดว่า ‘ก็แหงล่ะ การวาดฝันไว้ยิ่งใหญ่ก็ดีแล้วนี่’ ผมมีเป้าหมายให้พวกเขาเป็น BTS ที่มีคุณค่าในตลาดเพลงทั่วโลก พวกเขาออกตัวมาได้ดีครับ ผมอยากจะรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้และก้าวไปให้ไกลยิ่งขึ้นครับ”

Q : คอนเทนท์ของ BTS มีการเล่าเรื่อง

A : “สิ่งที่ BTS ทำได้ดีคือการเล่าเรื่องราวของตัวเอง ผมมองว่าสิ่งที่เราให้ความสนใจ สมัยที่เป็นนักเรียนก็คือ เพื่อน, ความฝัน, ความสุข ส่วนในกรณีของอัลบั้ม ‘ฮวายังยอนฮวา (화양연화)’ เราไม่อยากจะเชยชมวัยรุ่น ผมว่าความจริงแล้ววัยรุ่นสมัยนี้ ทั้งทุกข์ทนและโศกเศร้า พวกเขาคือกลุ่มคนที่น่าเห็นใจ ที่ต้องมาเผชิญกับโลกที่เป็นแบบนี้ เราเลยตั้งเป้าหมายที่จะเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับความทุกข์ทรมานเพราะเราตั้งใจที่จะเป็นศิลปินที่บอกเล่าความเป็นจริง, ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตไปเฉยๆ แต่ต้องมุ่งไปข้างหน้าเพื่อตั้งใจที่จะก้าวผ่านอุปสรรคไปให้ได้, และไม่ว่าจะเอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีฝัน เราก็ยังเป็นวัยรุ่นครับ”

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> รวมสุนทรพจน์ของ BTS Pt.1

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์