BTS ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ Greatest Pop Star of 2020 โดย Billboard
BTS ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ BTS เป็นวงบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้ อยู่ภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ คิม นัมจุน, คิม ซอกจิน, มิน ยุนกิ, จอง โฮซอก, ปาร์ค จีมิน, คิม แทฮยอง และ จอน จองกุก ซึ่งพวกเขาได้เปิดตัวพร้อมผลงานแรกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 2013 ในซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า “No More Dream”
BTS หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Bangtans Boys (บังทันบอยส์) นั้นเป็นชื่อที่ย่อมาจากภาษาเกาหลี “방탄소년단” (บังทันโซนยอนดัน) มีความหมายว่า Bulletproof Boy Scouts (เด็กผู้ชายในเกราะกันกระสุน)
ซึ่งต่อมาในปี 2017 วง BTS ได้มีการปรับเปลี่ยนความหมายของชื่อใหม่ เป็น Beyond the Scene (วัยรุ่นผู้พัฒนาสู่ความใฝ่ฝันอย่างไม่หยุดยั้งและไม่ยึดติดกับสถานภาพปัจจุบัน)
BTS เป็นที่รู้จักในนามบอยแบนด์ผู้พิชิตโลกที่เต็มไปด้วยสีสันขอเพลงป๊อปเกาหลี BTS ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกที่เต็มไปด้วยสีสันขอเพลงป๊อปเกาหลีเป็นแนวเพลงที่อยู่รอบนอกของกระแสหลักของชาวอเมริกัน แต่ก็มีบางกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่าง “Gangnam Style” ของ PSY และกลุ่มอย่าง 2NE1 และ Girls ‘Generation ที่ติดชาร์ตของ Billboard
แต่หลังจากผ่านมาครึ่งทศวรรษ “การทัวร์คอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จในระดับสากล” “อัลบั้มอันดับ 1 สามอัลบั้มบน Billboard 200” และ “ARMY” รวมถึงแฟนเพลงมากมายจากทั่วโลก… แน่นอน RM, Jin, Suga, J-Hope, Jimin, V และ Jungkook นั้นดีกว่า
BTS เป็นที่รู้จักในนามบอยแบนด์ผู้พิชิตโลก พวกเขาประกาศให้เห็นถึงการพัฒนาที่แท้จริงในสหรัฐอเมริกาและกลายมาเป็นป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2020
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 BTS ได้เปิดตัวสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 “MAP OF THE SOUL : 7” ซึ่งนำโดยเพลง “ON” อันน่าตื่นเต้น อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ 4 ของพวกเขาที่ได้อันดับที่ #1 บน Billboard 200 โดยนักวิจารณ์สังเกตเห็นความหลากหลายทางดนตรีและวุฒิภาวะในฐานะนักแต่งเพลงในอัลบั้มนี้ ถึงแม้จะได้รับเสียงชื่นชมและการเดบิวต์ในชาร์ตที่แข็งแกร่ง
แต่ BTS ก็ยังคงอยู่นอกคลื่นวิทยุของสหรัฐฯเป็นซะส่วนใหญ่ แต่ “ON” ก็กลายเป็นเพลงแรกของพวกเขาที่ติด top 5 บน Billboard HOT 100 โดยเดบิวต์อันดับที่ #4 และด้วยการทัวร์ stadium ระดับนานาชาติที่มีกำหนดจะเริ่มในเดือนเมษายน สิ่งต่างๆกำลังกระตุ้นให้ BTS เข้าครอบครองตลาดสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ
ด้วยการสนับสนุนจากฐานแฟนคลับโดยเฉพาะ BTS พวกเขาก็ยังอันดับหนึ่งเสมอ
แต่เมื่อถึงเดือนมีนาคม การระบาดของ COVID-19 ทำให้ทัวร์ที่ถูกวางแผนไว้ถูกยกเลิกลงทั้งหมด ด้วยการสนับสนุนจากฐานแฟนคลับโดยเฉพาะ BTS พวกเขาจึงทำสถิติครองอันดับ 1 ในไลฟ์สตรีมและคอนเสิร์ออนไลน์แบบซื้อตั๋วรับชม คอนเสิร์ตออนไลน์ “Bang Bang Con” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเดือนมิถุนายน (ซึ่งมีรายได้ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ) รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Dear Class of 2020 ของ Youtube ที่เป็นกิจกรรมเสมือนจริงสำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาในช่วง COVID-19
ในขณะที่ศิลปินมีข้อจำกัดจากการเลือกของทางรายการจากการปรากฏตัวของพวกเขา แต่ BTS ก็เพิ่มการแสดงเป็นสองเท่า ทั้ง Billboard Music Awards, MTV Video Music Awards หรือแม้แต่การแสดงที่ Tiny Desk ของ NPR — สุดท้ายทางรายการก็ยังเลือกพวกเขา.. ทำให้ BTS มีการแสดงเพลงและการปรากฏตัวทางโซเชียลมีเดียตลอดทั้งปี
BTS แปลจิตสำนึกทางสังคมเกี่ยวกับดนตรีของพวกเขาไปสู่การปฏิบัติ
นอกเหนือจากตัวเลขสถิติแล้ว BTS ยังแปลจิตสำนึกทางสังคมเกี่ยวกับดนตรีของพวกเขาไปสู่การปฏิบัติ โดยตอบสนองการต่อต้านการเหยียดสีผิวในอเมริกาในเดือนมิถุนายน หลังจากการประท้วงระดับชาติจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา ที่ถูกสังหารโดยตำรวจ
BTS ได้บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรช่วยเหลือ #BlackLivesMatter จากการเปิดเผยของ Variety
(ความนิยมในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นของ BTS ยังคงมีอยู่แม้จะมีการเลือกปฏิบัติและการก่ออาชญากรรมที่เกลียดชังต่อชาวเอเชีย-อเมริกัน และมันเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในปี 2020)
ถึงแม้จะมีความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ BTS ก็ยังไม่ได้อยู่ในลิสต์วิทยุป๊อปของอเมริกัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม พวกเขาปล่อยซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษเพลงแรกที่มีชื่อว่า “Dynamite” การปล่อยซิงเกิ้ลนี้ทำให้ “Dynamite” กลายเป็นช่วงเวลาที่ยอดนิยมในเมนสตรีมของสหรัฐอเมริกา
ทำให้ได้รับการเปิดทางสถานีวิทยุ… ทั้ง รางวัล, เทรนด์ TikTok และอันดับ #1 บน Billboard HOT 100 ทำให้เพลงนี้ได้เข้าชิง Grammy Awards ครั้งที่ 63 ในสาขา Best Pop Duo/Group Performance เป็นครั้งแรกของพวกเขาและศิลปินเกาหลีในสาขาหลักนี้ ซึ่งนับว่าเป็นผลงานของวงที่ต้องการมีชื่อเข้าชิงหลังรอคอยมานาน
BTS ถูกยกให้เป็น “Entertainer of the Year” ในปี 2020 จาก TIME
ในเดือนตุลาคมค่ายเพลง Big Hit Entertainment ของ BTS ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้บังชีฮยอกผู้ก่อตั้ง / ซีอีโอของ Big Hit กลายเป็นมหาเศรษฐี รวมถึง BTS ที่มีหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย
หลังการได้อันดับที่ #1 บน Billboard HOT 100 ไม่นาน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม BTS ได้เพิ่มสถิติเป็นเพลงที่ 2 ของพวกเขาด้วยการรีมิกซ์เพลง “Savage Love BTS Remix” ของ Jawsh 685 และ Jason Derulo ช่วยให้เพลงพุ่งจากอันดับที่ #8 ขึ้นไปสู่อันดับที่ #1 หลังจากการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ในสัปดาห์แรก จากนั้นปิดท้ายปี 2020 BTS ก็ปล่อยอัลบั้ม ‘BE’ ของพวกเขาในเดือนพฤศจิกายนพร้อมกับซิงเกิ้ล “Life Goes On” ทั้งอัลบั้มและซิงเกิ้ลเดบิวต์พร้อมกันที่อันดับ #1 บน Billboard 200 และ HOT 100 ตามลำดับ
ที่น่าประทับใจคือ “Life Goes On” เป็นเพลงภาษาเกาหลีเพลงแรกในประวัติศาสตร์ 62 ปีของชาร์ต ที่ได้อันดับ #1 บน Billboard HOT 100 ก่อนหน้านี้ “Gangnam Style” ของ PSY ทำสถิติไว้สูงสุดที่อันดับ #2 ในปี 2012
เป็นไปไม่ได้ที่จะมองข้ามว่า BTS เป็นศิลปินเอเชียรายแรกที่ปรากฏในลิสต์นี้ ร่วมกับเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่ใช้ภาษาอังกฤษ… ผลงานศิลปะที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษมักถูกกีดกันออกเป็นประเภท “ต่างประเทศ” แต่การยอมรับในระดับนี้สำหรับวงดนตรีภาษาเกาหลี ส่วนใหญ่มาจากสื่อทางตะวันตก
BTS ถูกยกให้เป็น “Entertainer of the Year” ในปี 2020 จาก TIME — ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงของการ์ดรักษาการณ์ที่ประตู TOP 40 ของอเมริกา ด้วยความสำเร็จในแต่ละก้าวและอันดับ 1 ครั้งแรกในปี 2020
BTS ทำให้ผู้ฟังในสหรัฐฯปฏิเสธไม่ได้ถึงความเป็นซุปเปอร์สตาร์สูงสุด แต่ยังรวมถึงตำแหน่งที่คู่ควรของ K-pop ในกระแสเพลงเมนสตรีมหลักอีกด้วย และตอนนี้ที่เรากำลังฟังอยู่ มันทำให้เราต้องจินตนาการถึงความเป็นป๊อปคลาสสิกทั้งหมดที่เราพลาดไป เพียงเพราะกำแพงภาษาระหว่างเรา
บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> เรื่องประทับใจของ Jungkook
เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์
>>>>> แทงบอลยูโร