Proof : ประจักษ์พยานแห่งความพยายามตลอด 9 ปี บนเส้นทางสาย K-Pop

Proof : ประจักษ์พยานแห่งความพยายามตลอด 9 ปี บนเส้นทางสาย K-Pop ของ BTS

Proof 7 หนุ่มสุดฮอต อาร์เอ็ม, จิน, ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี และ จองกุก กลับมาแล้ว พร้อมกับ Proof อัลบั้มรวมเพลง (Anthology) ที่ร้อยเรียงผลงาน และสะท้อนตัวตนของไอดอลเคป๊อปวงนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี นับตั้งแต่เดบิวต์ใน ปี 2013

Proof

ทำไมต้องชื่อ Proof

ชื่ออัลบั้ม Proof (บทพิสูจน์) เป็นการเล่นคำมาจาก Bulletproof (กันกระสุน) ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของชื่อวงที่ย่อมาจาก Bangtan Sonyeondan ในภาษาเกาหลี แปลว่า Bulletproof Boyscout (ลูกเสือกันกระสุน)

อัลบั้มนี้จึงถือเป็นบทพิสูจน์จากการทำงานของพวกเขาผ่านการบอกเล่าตัวตนด้วยผลงาน Proof รวมถึงการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่คนรุ่นเดียวกันในการสื่อสารความคิด, การต่อต้านการดูถูก, การก้าวข้ามอคติทางด้านเชื้อชาติ, ความแตกต่างทางด้านภาษา อัลบั้มBTS และยังเป็นคำขอบคุณสำหรับแฟนๆ ซึ่งถูกเรียกว่า ‘อาร์มี่’ (Army) ที่ให้การสนับสนุนพวกเขามาตลอด นับจากการเป็นกลุ่มบอยแบนด์ที่แทบไม่เป็นที่รู้จัก จนกลายมาเป็นหนึ่งในกลุ่มดนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการเพลงโลกปัจจุบัน อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

Proof ประกอบด้วยเพลงทั้งหมด 48 เพลง บรรจุลงในแผ่น CD 3 แผ่น ซึ่งแต่ละแผ่นจะมีคอนเซปต์ที่แตกต่างออกไป โดยมีเพลงที่แต่งใหม่ 3 เพลง คือ Yet To Come (The Most Beautiful Moment) ซึ่งเป็นเพลงไตเติล (เพลงหลักในการโปรโมต) ของอัลบั้มนี้, Run BTS และ For Youth 

Proof

CD 1 : อดีตที่งดงาม ปัจจุบันที่สมบูรณ์ และอนาคตที่งดงามกว่า

CD แผ่นแรกคือการรวมเพลงไตเติล เรียงลำดับตั้งแต่ตอนเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน Proof ที่ล้วนเป็นหมุดหมายสำคัญของพวกเขา

อาทิ เพลงเปิดตัวครั้งแรก No More Dream ในปี 2013, เพลง I Need U ที่ทำให้BTS ชนะอันดับ 1 รายการเพลงในเกาหลีเป็นครั้งแรกในปี 2015, DNA เพลงที่ทำให้บังทัน เป็นศิลปินจากเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีประกาศรางวัล American Music Awards, เพลง Boy In Luv ในปี 2014 ที่วงบังทันในวัยหนุ่มฉกรรจ์ กำลังคลั่งรักแบบดุดัน เพื่อร่ำร้องขอเป็นแฟนกับเธอ มาจนถึงเพลงภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการ Boy With Luv ในปี 2019 ที่พวกเขาเติบโตเป็นสุภาพบุรุษสุดละมุน จากอารมณ์คลั่งรักแบบเกรี้ยวกราด อัลบั้มBTS เปลี่ยนเป็นคลั่งรักแบบหวานๆ ออดอ้อนคนรัก

รวมถึงเพลงดังระดับโลกที่ติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 และทำให้พวกเขาสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล Grammy Awards อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน อย่าง Dynamite และ Butter อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเพลงพิเศษอย่าง Born Singer ที่ดัดแปลงเนื้อเพลงและทำนองมาจากเพลง Born Sinner ของ เจ โคล แร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกา โดยที่บังทันได้แต่งเนื้อแร็ป อัลบั้มBTS และเนื้อร้องภาษาเกาหลีใหม่ลงไปในเพลง ซึ่งเดิมที เพลงนี้ถูกปล่อยให้ฟังฟรีใน Sound Cloud ตั้งแต่ปี 2013 หรือตั้งแต่ช่วงที่วงเดบิต์ใหม่ๆ Proof แต่ได้ถูกนำมา Remaster และนำมาใส่ไว้เป็นเพลงแรกใน CD แผ่นแรกนี้ด้วย – นับว่าเป็นเพลงที่น่าสนใจเพราะมันแสดงให้เห็นถึงความสามารถของบังทัน ในการแต่งเพลงและการแร็ป/ร้อง ตั้งแต่ช่วงเดบิวต์ใหม่ๆ อีกด้วย

ภาพจาก MV Yet To Come (บน) เทียบกับ Spring Day (ล่าง)
ภาพจาก MV Yet To Come (บน) เทียบกับ No More Dream (ล่าง)

ปิดท้ายด้วยเพลงใหม่ Yet To Come (The Most Beautiful Moment) เพลงจังหวะช้า-กลาง ที่ฟังครั้งแรกอาจจะรู้สึกเนิบช้ากว่าเพลงที่เราคุ้นเคย แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อเพลงที่พูดถึงการมองว่า “อดีตที่ผ่านมาคือสิ่งสวยงาม แต่เชื่อว่ายังมีสิ่งที่สวยงามกว่ารออยู่ในอนาคต” และตัว MV เองที่มีฉากให้คนดูได้ระลึกถึงฉากจาก MV เพลงที่ผ่านๆ มา (เช่น Just One Day, Spring Day, No More Dream, Run หรือ Blood Sweat & Tears) – เราก็อาจกล่าวได้ว่า เพลงนี้บอกเล่าภาวะคลี่คลาย และเป็นบทสรุปการทบทวนตัวตนตลอด 9 ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี อัลบั้มBTS

Proof
ภาพจาก MV Yet To Come (บน) เทียบกับ MV Blood Sweat & Tears (ล่าง)
ภาพจาก MV Yet To Come (บน) เทียบกับ Run (ล่าง)

CD 2 : คุณรู้จักBTS ไหม? 

Proof

ถ้า CD 1 คือการทำความรู้จักในฐานะศิลปินกลุ่มหนึ่ง CD 2 คือการพาผู้ฟังขยับเข้ามาทำความรู้จักตัวตนของสมาชิกทั้ง 7 ของวงอย่างใกล้ชิด อัลบั้มBTS เราจะได้สัมผัสสไตล์ รสนิยม และเสน่ห์ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนมากขึ้น ผ่านเพลงเดี่ยวและเพลงกลุ่มที่พวกเขาเลือกมาคนละสองเพลง ซึ่งเราอยากให้ทุกคนค่อยๆ ไปไล่ฟังกัน เพื่อซึมซับตัวตนของทั้ง 7 หนุ่ม อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

เพลงใหม่ใน CD 2 คือเพลง Run BTS ที่มีกลิ่นอายของป๊อปร็อก Proof ซึ่งเป็นเพลงที่ตั้งชื่อเหมือนกับชื่อรายการวาไรตี้ที่พวกเขาเป็นพิธีกร และออกอากาศทาง Vlive App ตั้งแต่ปี 2015-2021 โดยเปรียบเทียบการวิ่งกับการทำงานหนักและพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งด้วยเนื้อเพลงที่พูดถึง “ความสำเร็จของพวกเขามาจากการทำงานหนักทั้งนั้น ใครบอกว่ามันง่าย” และลีลาการแร็ปอันเป็นเอกลักษณ์ ที่แม้จะทำให้นึกถึง บังทันสไตล์กวนๆ ในเพลงที่แต่งเพื่อเยาะเย้ยกองแช่งอย่าง Mic Drop แต่ Run BTS กลับถูกทำออกมาในแบบที่ถ่อมตัวกว่า จึงทำให้มันกลายเป็นเพลงที่ทั้งเท่และน่าเอ็นดูไปในคราวเดียวกัน

อนึ่ง การวางแทร็กนี้ไว้เป็นเพลงแรก ถือเป็นการเรียกร้องความสนใจ อัลบั้มBTS และเร้าอารมณ์ผู้ฟังได้เป็นอย่างดี

(หมายเหตุ : Do you know BTS? หรือ ‘คุณรู้จัก BTS ไหม’ คือประโยคที่สมาชิกBTS มักจะเอ่ยถามชาวต่างชาติที่เดินผ่านพวกเขา เวลาที่พวกเขาออกไปถ่ายทำรายการนอกประเทศ ตั้งแต่สมัยที่ชื่อเสียงยังไม่โด่งดัง ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้เหล่าสมาชิกเสมอ จนกระทั่งได้กลายมาเป็นมุกขำขันประจำวงBTS ไปในที่สุด) อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

CD 3 : รางวัลแด่คนช่างฝัน

Proof

เราอาจกล่าวได้ว่า CD 3 คือของสมนาคุณพิเศษที่มอบให้แฟนๆ โดยเฉพาะ

เนื่องจากเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลง Demo Version ที่แตกต่างจากเวอร์ชันสุดท้ายที่เราได้ฟังกันในอัลบั้ม Proof รวมถึงเพลงที่ยังไม่เคยปล่อยให้ฟังมาก่อนอย่างเพลง Young Love (ขับร้องโดย จองกุก แร็ปโดย อาร์เอ็ม) และ Quotation Mark (ร้องโดย จองกุก แร็ปโดย อาร์เอ็ม และ เจโฮป) ซึ่งเพลงใน CD แผ่นนี้จะไม่ปล่อยให้ฟังทางช่องทางดิจิทัลสตรีมมิง อัลบั้มBTS ยกเว้นเพลง For Youth เพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ถือเป็นเพลงที่แต่งให้แฟนเพลง เพื่อเป็นการขอบคุณที่คอยให้ความรักและสนับสนุนวงเสมอมา อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

ถือเป็นการปิดท้ายบททบทวนตัวตนตลอด 9 ปี ในวงการเพลงของบังทัน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินทางก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างงดงาม

V เปิดใจถึงช่วงเวลาที่ต้องดิ้นรนกับความสับสนในตัวเองก่อนปล่อยอัลบั้ม ‘Proof’

Proof

คิมแทฮยอง หรือวี หนึ่งในสมาชิกแห่งวงบีทีเอส กล่าวเปิดใจถึงการดิ้นรนกับความสับสนในตัวตนของตัวเองผ่านวิดีโอความยาว 57 วินาที ซึ่งค่ายต้นสังกัดอย่าง Big Hit Music ปล่อยออกมาเพื่อโปรโมต ‘Proof’ อัลบั้มรวมฮิตของวงที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

“ผมมักจะคิดว่าคิมแทฮยองกับศิลปินที่ชื่อวีคือคนละคนกันและต้องเลือกใครสักคนหนึ่ง Proof ซึ่งช่วงเวลานั้นคือตอนที่ผมครุ่นคิดอย่างหนักว่าในฐานะคนคนหนึ่งผมเป็นใครกันแน่ มันทำให้ผมรู้สึกสับสนเล็กน้อยน่ะ

“ศิลปินที่ชื่อวีคือคนที่ขึ้นแสดงบนเวทีด้วยความสนุกสนานกับเหล่า ARMY แต่คิมแทฮยองจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูงของเขา อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ผมสามารถยอมรับตัวตนทั้งสองของตัวเองได้แล้วแม้จะยังแยกออกจากกัน ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ผมได้ไตร่ตรองเกี่ยวกับตัวเองคือสิ่งพิสูจน์ ซึ่งทำให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้”

สำหรับ Proof เป็นอัลบั้มรวมเพลงจำนวน 48 แทร็กของวง อัลบั้มBTS อันประกอบไปด้วยบทเพลงฮิตมากมายตั้งแต่ No More Dream เดบิวต์ซิงเกิลเมื่อปี 2013, โซโลซิงเกิลของวีอย่าง Singularity ซึ่งเขาตัดสินใจเลือกเพลงนี้เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาแห่งการดิ้นรนข้างต้น ฯลฯ

นอกจากนี้ในอัลบั้ม Proof จะมีเพลงใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไปอีก 3 เพลง เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มบันทึกการเดินทางตลอดเวลา 9 ปีของBTS ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งพวกเขากำลังจะเดินหน้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างมั่นคง เหล่า ARMY หรือใครก็ตามที่รักวงบีทีเอส ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบังทัน

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> เรื่องราวของลีดเดอร์ดีเด่นประจำวงบีทีเอส

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เว็บดูบอลสดฟรี