เรื่องประทับใจของ Taehyung หนุ่ม 4 มิติและขี้เล่นจากเมืองแดกู

เรื่องประทับใจของ Taehyung หนุ่ม 4 มิติและขี้เล่นจากเมืองแดกู วิชวลตลอดกาลแห่งวง BTS

เรื่องประทับใจของ Taehyung วี มีชื่อจริงว่า คิม แท-ฮย็อง (Kim Tae-hyung ; 김태형) เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 1995 ที่อำเภอ Geochang เมืองแดกู (Daegu) ประเทศเกาหลีใต้ และเติบโตขึ้นใน Geochang เขาเป็นลูกคนโตในบรรดาพี่น้องสามคน เขามีน้องชายหนึ่งคนและน้องสาวหนึ่งคน วีมีความชื่นชอบในดนตรีและการร้องเพลงตั้งแต่สมัยประถม

เขาเคยเรียนแซกโซโฟนในช่วงมัธยมต้นเพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ พ่อของวีก็เห็นด้วยกับการเรียนรู้วิธีเล่นแซกโซโฟนของเขา วีเป็นคนเดียวที่ผ่านเข้ารอบในการออดิชั่นที่แดกูในปีนั้น และกลายเป็นเด็กฝึกหัดของ Big Hit ก่อนจะเดบิ้วทในเดือนมิถุนายนปี 2013 ในฐานะสมาชิกวง BTS

วี ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการ ในฐานะสมาชิกของวง BTS เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2013 พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลอัลบั้มแรกของวงที่มีชื่อว่า “2 Cool 4 Skool” ต่อมา วี มีชื่ออยู่ในเครดิตผลงานแต่งเพลงของวงเป็นครั้งแรกใน “The Most Beautiful Moment in Life, Part 1” โดยเขาได้ร่วมเขียนเพลงและร่วมโปรดิวซ์เพลง “Hold Me Tight” นอกจากนี้ วี ได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลง “Fun Boyz” ในส่วนของเพลงเดี่ยวแรกของ วี นั้นคือเพลง “Stigma” จากอัลบั้ม Wings ของ BTS โดยเขาได้แต่งแต่งเพลงและเขียนเนื้อเพลงนี้ขึ้นมา

จนกระทั้งในวันที่ 30 มกราคม ปี 2019 วี ได้ปล่อยเพลงใหม่ของเขาเองที่ไม่ใช่ผลงานกับวง BTS โดยเพลงมีชื่อว่า “Scenery” โดยหลังปล่อยเพลงออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ หลังจากนั้นอีก 7 เดือนต่อมา วี ก็ได้ปล่อยเพลงเดี่ยวของเขาเองที่มีชื่อว่า “Winter Bear” ตามออกมาพร้อมกับปล่อยมิวสิควิดีโอให้แฟนเพลงติดตามกัน

วี หรือ แทฮยอง กับจุดเริ่มต้นของการได้มาเป็นสมาชิกวง BTS เรื่องประทับใจของ Taehyung

แทฮยอง เล่าว่า มันเริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2011 เมื่อเขาได้ตัดสินใจไปออดิชั่นกับ Big Hit Entertainment

“พวกเขาถามผมว่า อยากจะลองดูมั้ย ผมตอบไปว่า ‘ครับ’ เมื่อผมเต้นเสร็จพวกเขาก็พูดว่าผมมีอะไรจะโชว์อีกมั้ย ผมเลยร้องเพลงให้พวกเขาฟังและพวกเขาก็ถามผมอีกว่ามีอะไรจะโชว์อีกหรือเปล่า ผมเลยโชว์บีตบ็อกซ์ไป หลังจากนั้นผมก็ถูกขอให้โชว์อย่างอื่นอีก ผมเลยแรปให้พวกเขาฟัง แล้วพวกเขาก็ถามผมอีกว่ามีอย่างอื่นโชว์อีกมั้ย ดีที่ผมเอาแซกโซโฟนไปด้วยผมเลยเล่นให้พวกเขาฟังซึ่งพวกเขาตอบผมด้วยการถามอีกครั้งว่ามีอะไรจะโชว์อีกมั้ย ผมเลยตอบไปว่า ‘ไม่มีแล้วครับ ผมไม่มีอะไรจะโชว์แล้ว’”— แทฮยอง

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาขณะที่เขากำลังเล่นคอมที่ PC บังอยู่นั้น แทฮยอง ก็ได้รับโทรศัพท์จาก Big Hit Entertainment พวกเขาบอกว่า แทฮยอง ได้ผ่านการคัดเลือกและเขาก็เป็นเพียงคนเดียวจากแทกูที่ผ่านเข้ามา ด้วยความดีใจ แทฮยองรีบกลับบ้านและไปบอกคุณย่าของเขา

“ผมจำได้ว่าผมได้ออกจาก PC บังไปแม้จะยังคงมีเงินในคอมเหลืออยู่ ผมตื่นเต้นมากเลยครับ ผมกลับบ้านแล้วไปบอกคุณย่าของผม ผมบอกย่าว่า ‘ผมผ่านแล้ว!’ ย่าตอบผมกลับมาว่า ‘นั่นมันเป็นการหลอกลวงนะลูก’ ต่อมาพ่อของผมก็มาคุยด้วย เขาบอกว่า 2AM ไม่ได้อยู่ในค่าย Big Hit แต่อยู่ในค่าย JYP ดังนั้นมันจึงไม่สามารถเป็นจริงได้ครับ” — แทฮยอง

โชคดีที่ตัวแทนของ Big Hit ติดต่อผู้ปกครองของ แทฮยอง เพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบถึงความชอบด้วยกฎหมายของบริษัท จากจุดเริ่มต้นนั้น แทฮยองบอกกับแฟนๆว่าเขาและพ่อของเขาได้เดินทางไปโซลเพื่อพบกับคนของบริษัทผู้ซึ่งทำให้เขากลายเป็นดาราดังระดับโลกอย่างทุกวันนี้

7 เหตุการณ์ที่ช่วยยืนยันว่า แทฮยอง นั้นฉลาดจนน่าประทับใจ!

เรื่องเสียงร้องและภาพลักษณ์ของเขาในฐานะศิลปินหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ แทฮยอง ยังมีความสามารถอีกหลากหลายอย่าง การมองโลกของเขาดูจะแตกต่างออกไปจากคนอื่น และนั่นทำให้หลายครั้งเราจึงได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของเขา ไม่ว่าจะผ่านงานถ่ายภาพ, งานเขียน, เพลง หรือแม้แต่ตอนเล่นเกม สิ่งที่ได้จากเขามักจะแตกต่างออกไปอย่างที่เรานึกไม่ถึง และนี่คือ 7 เหตุการณ์ที่พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น แต่ความคิดและสมองที่สร้างสรรค์ของเขาถือเป็นอีกสิ่งที่ทำให้หลายคนประทับใจได้เช่นกัน

• บทกวี “It’s No Big Deal” จาก “Run BTS”

แทฮยองได้โชว์ทักษะการเขียนของเขาในรายการ Run BTS ตอนที่ 56 เขาได้เขียนบทกลอนที่มีความหมายซาบซึ้ง แต่ก็ยังแฝงความตลกเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกในวงได้ ท่อนที่เขียนซ้ำว่า “it’s no big deal” เป็นท่อนที่แสดงความคิดของเขาว่าไม่ว่าจะเจออุปสรรคมากเพียงใด เขาและสมาชิกในวงก็จะผ่านไปด้วยกัน เจ-โฮปเอ่ยปากชมถึงความคล้องจองของบทกวีในคำท้ายของแต่ละวรรค ทำให้งานเขียนของวีฟังแล้วรื่นหูสละสลวย

บทกวีที่ฟังเหมือนเสียงเพลงและอ่อนโยน ทำให้เรารู้ว่าวีนั้นแคร์เพื่อนร่วมวงมากเพียงใด

สิ่งที่ผมพูดกับพวกคุณได้เมื่อเกิดปัญหา

• “I purple you!”

ความฉลาดและสร้างสรรค์ของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เขาได้ให้คำนิยมของ ‘สีม่วง’ ใหม่

สีม่วงคือสีสุดท้ายของสายรุ้ง สีม่วงหมายถึงผมจะเชื่อและรักคุณตราบนานเท่านาน

ข้อความนี้ไม่ได้เข้าใจกันแค่ในแฟนด้อมเท่านั้น สมาชิกในวงก็ใช้คำว่าสีม่วงในความหมายนี้เช่นเดียวกัน แทฮยองมักจะพูดข้อความนี้เวลาเขาพบและบอกลา อาร์มี่ (ARMY) ทั้งในคอนเสิร์ต หรือ โซเชียลมีเดีย รวมถึง อาร์เอ็มที่ทำให้ Koya คาแรคเตอร์ของเขาใน BT21 มีจมูกสีม่วง

UNICEF และ Naver ยังใช้คำว่า purple

• ความสนใจด้านศิลปะของเขา

แทฮยองเป็นคนที่มีบุคลิกเป็นศิลปิน เขาถ่ายทอดผลงานศิลปะผ่านทางภาพถ่ายซึ่งสะท้อนหลากหลายอารมณ์ นอกจากนี้เขายังสนใจงานศิลปะของศิลปินหลายคน อาทิ Van Gogh หรือ Jean-Michel Basquiat เขาเคยบอกว่าเขาเคยฝึกวาดรูปถึงแม้จะบอกว่าไม่อยากเปิดเผยให้ใครได้เห็น แต่สุดท้ายเขาก็ได้โชว์ฝีมือการสเก็ตซ์ภาพของตัวเอง

ตอนนี้เขากล้าที่จะเปิดเผยงานวาดของตัวเองมากขึ้นแล้ว เขานำภาพวาดของตัวเองไปเพ้นท์ลงเสื้อ! วีบอกว่าเขาวาดรูปที่แตกต่างออกไปบนเสื้อของเขา โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Basquiat

• เขารู้คำตอบที่ถูกต้อง

Run BTS เมื่อต้องเล่นเกมตอบคำถามในรายการ Run BTS หลายครั้งหลายหนวีมักจะตอบคำถามต่างไปจากสมาชิกคนอื่น และเขาดันตอบถูกเสียด้วย และบางครั้งเขาก็รู้คำตอบที่ถูกต้องอยู่แล้ว แสดงให้เห็นว่าเขามีความรู้หลากหลายเลยทีเดียว!

พิธีกร : Beethoven แต่งเพลงประสานเสียงใช่หรือไม่

แทฮยอง : ผิด

พิธีกร : ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง

นัมจุน : แล้วใครแต่งล่ะ

แทฮยอง : Bach!

พิธีกร : ใช่แล้ว Bach

โบนัส: เขาสามารถแก้คิวบ์ได้!

• เขาคิดวิธีใหม่เพื่อเอาชนะเกมในรายการ Run BTS

“Run BTS” มักจะมีเกมมาให้สมาชิกแต่ละคนแข่งขันกัน และหนึ่งในนั้นคือตอนที่พวกเขาต้องแข่งทรงตัวในน้ำ พร้อมกับเทน้ำอัดลมจากขวดนึงไปยังอีกขวดนึง ในขณะที่คนอื่นเทน้ำอัดลมแบบทั่วไป แต่แทฮยองกลับคิดวิธีนี้ขึ้นมาได้ เขานำขวดมาต่อกันในแนวนอนก่อน จากนั้นก็ยกขึ้นเหมือนนาฬิกาทราย ทำเอาคนอื่นทึ่ง และแน่นอนว่าเขาผ่านด่านนี้ไปได้!

ยังมี ท่ายาก ตอนเปิดขวดนี้อีกที่ทำให้หลายคนประทับใจ

• ทักษะด้านการแสดงของเขา

นอกจากจะได้เห็นการแสดงของเขาในซีรีส์เรื่อง Hwarang แล้ว แทฮยองยังใช้ทักษะนี้ในการหลอกสมาชิกในวงอีกด้วย ในตอนที่ 47-48 ของรายการ Run BTS เขารับบทสายลับร่วมกับ ชูก้าและ จีมิน

เขารู้ว่าจะทำอย่างไรให้สมาชิกคนอื่นคิดว่าเขานั้นเป็นคนไม่น่าสงสัย เพื่อปกปิดหลักฐานที่เปิดเผยตัวตนของเขา รับรางวัลตุ๊กตาทองไปเลย!

• คาแรคเตอร์ TATA ใน BT21

เรื่องสุดท้ายที่เราจะพูดถึงคือความช่างคิดและสร้างสรรค์ผลงานของเขา ผ่านตัวการ์ตูน TATA ของซีรีส์ Line Friend ที่ BTS ได้คิดคาแรคเตอร์ขึ้นมาสำหรับโปรเจคนี้ แทฮยองยืนยันว่าอยากให้ TATA คือตัวการ์ตูนที่มีเอกลักษณ์ ไม่ต้องน่ารักก็ได้ เขาเชื่อว่าอาร์มี่ต้องชอบเจ้าตัวละครตัวนี้

ผมอยากให้มันออกมาดูมีเอกลักษณ์มากกว่าความน่ารัก

แฟนคลับของเราไม่ได้สนใจเฉพาะเรื่องความน่ารักหรอกครับ

นอกจากจะเป็นรูปหัวใจแล้ว TATA ยังสามารถเปลี่ยนอะไรก็ตามที่คุณต้องการ จะหมา, ค้างคาว หรือร่ม TATA เป็นคาแรคเตอร์ต่างดาว ซึ่งสามารถมอบทุกอย่างที่คุณอยากได้ ทั้งความรัก, การปกป้อง ตอบคำถาม หรือแม้แต่ให้ความบันเทิง มีอะไรขอให้บอก TATA ด้วยความคิดนอกกรอบของแทฮยองนี่เอง ทำให้ TATA ถือเป็นอีกตัวละครที่ประสบความสำเร็จในโปรเจค BT21 นี้

เหตุผลที่แทฮยองเริ่มที่จะชอบจดบันทึกไดอารี่และบันทึกสิ่งที่อยากจะพูด

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม แทฮยองและ RM ได้ไลฟ์สดในช่วงที่พวกเขาเตรียมขึ้นโชว์ในรายการ Music Bank ซึ่งทั้งสองได้พูดคุยเกี่ยวกับ งานเพลงโซโล่ “Inner Child” ของ แทฮยองในอัลบั้ม MAP OF THE SOUL: 7, ความเป็นอยู่ของเขาในช่วงนี้, โปรเจ็คเขียนเพลง ฯลฯ

“ผมเริ่มที่จะเอนเอียงไปเขียนสิ่งที่ผมรู้สึกลงไปในเนื้อเพลงแล้วล่ะครับ” แทฮยองกล่าวในขณะที่พูดถึงเพลง Inner Child “ช่วงนี้ผมพยายามที่จะจดทุกอย่างลงไปในไดอารี่ แม้ว่ามันอาจจะมีแค่บรรทัดเดียวก็ตามครับ”