สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3 : Blood, Sweat & Tears (MV Japanese Version)

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3 : Blood, Sweat & Tears (MV Japanese Version)

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3 จบกับเพลงสุดเศร้าปนอบอุ่นอย่างเพลง Spring Day ไปแล้ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง MV อีกตัวที่ขึ้นชื่อว่า เป็นตัวเพลงที่ล้ำลึกและแฝงอะไรได้หนักหน่วงกว่าเวอร์ชั่นแรก ซึ่งนั้นก็ไม่พ้นอย่างเพลง Blood, Sweat & Tears เวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั้นเอง โดยวันนี้เราจะมาเจาะถึงเรื่อง “TIME LOOP THEORY”

แน่นอนว่าเป็นที่เข้าใจกันมาตลอด ว่าในช่วงของปี 2017 เป็นช่วงขาขึ้นของบังทัน และผลงานเพลงที่ออกมาได้อย่างสง่างาม แต่พวกเขาก็ได้มีการเล่าเรื่องจักรวาลของบังทันมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ MV I NEED U ที่ได้เล่าเกริ่นชีวิตของหนุ่มๆ ทั้ง 7 ที่ดูลำบาก และออกไปทางแนวดาร์กจนหลากหลายคนตั้งคำถาม ว่าทำไมพวกเขาถึงได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา

รับชมเอ็มวีได้ที่นี้

Time loop Theory คืออะไร? ทำความเข้าใจกับคำว่า โลกคู่ขนานที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังตั้งคำถาม

Time loop Theory คือ การเล่าเรื่องซ้ำในเหตุการณ์เดิม โดยแต่ละครั้งที่เล่าจะมีจุดบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป เช่น คนเล่าต่างกัน การกระทำบางอย่างต่างกัน เจอเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์ก็ยังทำให้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำไปมาเหมือนกัน

แต่ถ้าในเหตุการณ์ที่เล่านั้น มีบางอย่างเปลี่ยนไป ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเปลี่ยนไป แม้จะแก้ไขเพียงสิ่งเล็กๆ ก็ตาม (เกิด Butterfly Effect ขึ้น) ก็จะให้อนาคตเหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจทำให้เกิด Mutable Timelines

นั่นก็คือ ความเป็นไปได้ของ “การเปลี่ยนแปลง” ของช่วงเวลาที่เป็นอดีตที่ผ่านมา ยกเว้นในกรณีของจักรวาลหรือเอกภพที่มีอยู่หลายจักรวาล (Multiple Universes หรือเรียกกันตามศัพท์ทางวิชาการคือ “โลกคู่ขนาน” ) และในความเป็นจริงหลายคนแย้งว่าแนวความคิดนี้ก็คือ “ความไม่สมเหตุสมผลกันตามหลักตรรกวิทยา” (logically incoherent) ดังนั้นแนวความคิดของเส้นเวลาที่ไม่แน่นอนจึงเป็นที่ยอมรับกันว่าไม่ค่อยได้ออกไปนอกกรอบของจินตนาการหรือแนวคิดของนิยายวิทยาศาสตร์มากนัก

สรุปจากข้างต้นว่า โลกคู่ขนานนั้นเกิดจากการย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งต่างๆ แต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น ไม่ได้เกิดในโลกที่เรากลับมาแก้ไข (หมายถึงโลกของคนที่แก้ไขก็ยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม ตัวตนในอนาคตจะไม่เปลี่ยนแปลงไป) จึงทำให้เกิดโลกคู่ขนานขึ้นมาแทน

เอาล่ะค่ะ จากบทความข้างต้นที่กล่าวมา เรามาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ว่าเอ็มวีนี้กล่าวถึงทฤษฎีไทม์ลูปและโลกคู่ขนานอย่างไร โดยเราจะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 องค์ด้วยกัน ไปติดตามกันเลย

องก์ที่ 1 (Act 1) : การปูเนื้อเรื่องต้น สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

จากตอนแรก เพลงเริ่มต้นขึ้นมาด้วยจองกุกที่ตื่นขึ้นมาในฉากห้องนอนที่มีลักษณะเปื้อนไปด้วยสีต่างๆ เต็มไปหมดทั่วห้อง จองกุกหันกลับไปมองที่นอนที่ตัวเองเคยนอนก็เปื้อนไปด้วยสี ห้องลักษณะนี้นั้นในก่อนหน้านี้ได้ปรากฎใน Short Film (MAMA) ตอนของเจโฮปที่มีห้องที่เปื้อนสี

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

โดยมีทฤษฎีของสีที่เปื้อนในทางจิตวิทยาอาจหมายถึง สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกและมีผลต่อจิตใจของมนุษย์ สีต่างๆ จะแทนความรู้สึกที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงมักใช้สีเพื่อสื่อความรู้สึกและความหมายต่างๆ นั่นอาจหมายถึงความทรงจำหรือความรู้สึกที่ย้อมไปในลักษณะที่ต่างๆ ที่ปรากฎขึ้นมาในห้องนั้นนั่นเอง

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ต่อมาเราจะเห็นวีที่มีลักษณะเหมือนมึนเมา ไม่รับรู้อะไรบางอย่าง วีเดินออกไปเรื่อยๆ สังเกตว่ารอบๆ ตัวของวีนั้นมีเมมเบอร์ทุกคนอยู่รอบๆ แต่เมมเบอร์พวกนั้น ไม่ได้ขยับตัว ทุกคนหยุดนิ่งราวกับเวลาได้หยุดชะงักไว้ หรือบางครั้งเวลาอาจไม่ได้หยุดลง แต่เพียงวีนั้น ไม่ได้โฟกัสบุคคลอื่นที่อยู่ราวตัวเอง จนราวกับว่าบุคคลพวกนั้นได้หยุดนิ่งไป

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ต่อมาเราจะเห็นพี่จินยืนอยู่คนเดียวในที่มืดๆ มีเพียงภาพใหญ่ๆ ภาพหนึ่งตั้งอยู่ โดยภาพมีชื่อว่า “The Fall of the Rebel Angels” คือภาพการต่อสู้ระหว่างฑูตสวรรค์ฝั่งพระเจ้า (มิคาเอล) กับกลุ่มทรยศต่อพระเจ้า (ลูซิเฟอร์) กำลังต่อสู้กันอยู่ ซึ่งอาจมายถึงความสับสนวุ่นวายของเหตุการณ์บางอย่างที่ยังแก้ไขมันไม่ได้ ยังไม่สงบอย่างที่ใจต้องการ จากตรงนี้เราจะเห็นจินหยิบกล้องขึ้นมาจ้องมองมันอยู่ตลอด และภาพนี้ยังเป็นภาพที่อยู่ในเวอร์ชั่นเกาหลีอีกด้วย

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ตัดภาพมาที่จีมินและชูก้า จีมินและชูก้านั้นอยู่บนถนนที่เหมือนเป็นอุโมง (ถนนเมื่ออิงจากเอ็มวีตัวที่ผ่านๆ มา จะมีทั้งใน INU และ RUN แถมรันยังมีฉากที่เป็นอุโมงอยู่ด้วย และอีกทั้งยังมีใน Short Film ของชูก้าด้วย)

จีมินที่ตอนแรกอยู่นิ่งโดนปิดตาไว้โดยชูก้า จากนั้นไม่นานจีมินก็เริ่มออกไปและหันกลับมามองที่ชูก้าในช่วงเริ่มวิ่ง ในขณะที่ชูก้านั้นหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม ทำเพียงมองตามไปเท่านั้น

ตัดกลับมาที่จองกุกนั่งอยู่ตรงข้ามกับแรปม่อนที่ถือแก้วเหล้า และนำเหล้านั้นไปให้จองกุกดื่ม โดยเหล้านั้นชื่อว่า “Absinthe/อัปแซ็งต์ (ฝรั่งเศส: Absinthe) เป็นเหล้าอาหนีชนิดหนึ่ง กลั่นจากสมุนไพรหลายชนิด แต่เดิมจะมีสีเขียวตามธรรมชาติ แต่อาจไม่มีสีก็ได้ วรรณคดีตะวันตกเรื่องต่างๆ มักเรียกเหล้าชนิดนี้ว่า “เจ้าภูตเขียว” (la fée verte) โดยในอดีตเหล้าอัปแซ็งต์มักได้รับการพรรณนาว่าเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและสารก่อประสาทหลอนที่มีอันตรายมาก โดยเชื่อกันว่าสารประกอบเคมีชนิดหนึ่งชื่อทูโจน (Thujone) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดผลดังกล่าว

 

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

หลังจากที่จองกุกดื่มเข้าไปแล้ว จองกุกก็มีอาการเมาและเหมือนจะหลุดออกไปจากโลกความเป็นจริง ทุกอย่างบิดเบี้ยวไปหมด เห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนรถกระบะที่วิ่งหรือหยุดนิ่งอยู่บนทางที่เต็มไปด้วยสีมากมาย

ส่วนนัมจุนนั้นจากการดูเอ็มวีแล้ว กระจกที่สะท้อนนั้นอาจเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงก็ได้ เพราะกระจกหรือสถานที่มันถูกสร้างขึ้นมาจากการเสพสารเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและสารก่อประสาทหลอนมากเกินไปทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นมา(เพราะในช่วงท้ายกระจกตกโดยไม่ทราบสาเหตุ)

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ภาพตัดต่อมาที่จองกุกที่วิ่งเข้าห้องน้ำ ลักษณะอาการคล้ายๆ คนแฮงค์จากการดื่มมเหล้า โดยมีชูก้าวิ่งตามเข้ามาช่วย แต่ดูเหมือนว่าจองกุกจะติดอยู่ในภวังค์และทำร้ายชูก้าที่เข้ามาช่วยอย่างไม่สนใจ จากเหตุการณ์นี้เราจะคุ้นๆ กับเหตุการณ์ใน RUN ที่สองคนนี้ทะเลาะกัน

แต่ครั้งนี้มันสลับบทบาทกันคือจองกุกเมาเสียสติ แต่ชูก้ากลับเป็นคนที่เข้ามาเตือนสติสลับกับแทน พอชูก้าโดนทำร้ายภาพก็ตัดไปที่จนที่มองภาพนั้นผ่านกล้องอยู่ เสมือนมองเห็นสิ่งเหล่านั้นด้วย

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ภาพตัดกลับมาที่จีมิน จากภาพที่ตัดไปตัดมาบางครั้ง เราจะเห็นจีมินที่ใส่ชุดต่างออกไปจากตอนที่อยู่ชูก้าที่ถนน ชุดที่ใส่จะคล้ายกับชุดใน Short Film ตอน LIE (ซึ่งเป็นตอนของจีมิน) กำลังอยู่ในห้องๆหนึ่ง ในมือถือแอปเปิ้ลไว้ โดยภาพจะตัดไปมาระหว่างจีมินที่กำลังวิ่งและจีมินที่อยู่ในห้องไปเรื่อยๆ

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

สุดท้ายในองก์ 1 ก่อนจบท่อนฮุค จะมีฉากที่เมมเบอร์ทุกคนอยู่ห้องเหมือนมีปาร์ตี้กัน แต่วีนั้นโดนจับแขนไว้ทั้งสองข้าง(จองกุกกับจีมินเป็นคนจับ) วีในตอนนี้สายตาดูหวาดกลัวอยู่นิดหน่อย มีแรปม่อนยืนมองอยู่ แต่แค่เพียงมองดูเฉยๆ เท่านั้น ในอีกนัยหนึ่ง ทุกคนเหมือนกำลังห้ามวีกระทำบางอย่างแต่จุดนี้เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร และทำไมต้องห้าม

องก์ที่ 2 (Act 2) : จุดพลิกผัน

เริ่มต้นองก์นี้เมื่อฮุคท่อนแรกจบลง ในองก์นี้เราจะมาเริ่มกันด้วยลูปการย้อนเวลากลับมาเพื่อทำบางอย่างของจิน ถ้าถามว่าทำไมต้องจิน ดูเหมือนว่าปริศนานั้นจะอัดแน่นไปหมดในตัวคาแรคเตอร์จิน ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทั้งปริศนาดอกไม้ของเพลง I Need U ทั้งปริศนาจากเพลง RUN ที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ตายหรืออยู่ ทั้งปริศนาจาก BS&T ที่ผ่านมา เหมือนจะเป็นคนที่แทนด้วยตัวละครหลักจากเรื่องเดเมียนอย่างซินแคลร์

ก่อนอื่นในองก์นี้ในเมื่อเราต้องย้อนเวลากลับ เรามาดูกันดีกว่าว่ามันย้อนกลับไปยังไงและเริ่มต้นย้อนจากช่วงไหน ตอนไหนของเพลง และถ้าบอกว่ามันย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วง INU ทุกอย่างมันถูกย้อนกลับไปในช่วงนั้นนั่นเอง

ในเพลง INU เราจะเรียกว่าจะขอเรียกแทนว่าโลกแห่งความจริง หรือโลกที่เป็นความจริงก็ไม่ผิดแปลกอะไร ในเมื่อทุกอย่างมันเริ่มจากจุดนั้น และไหลเป็นเรื่องราวลงมาเรื่อยๆ เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มขึ้นจาก INU ต่อมาที่ Prologue และต่อด้วย RUN จากตรงนั้นเองที่เริ่มต้นการลูปเวลาย้อนกลับมาแก้ไขบางอย่างของจิน

เริ่มต้นองก์สองเมื่อโฮปยิงธนูออกไป (ในองก์แรกที่บอกว่าวีมีสีหน้าหวาดกลัวนั้น เราได้ดูมาแล้วค่ะว่าวีกลัวโฮปปาลูกดอกใส่ ในมุมของโฮปนั่นคือธนูนั่นเอง)

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ฉากตั้งมาที่ทุกคนนั่งรอบวงกันเหมือนเหตุการณ์ใน INU และโฮปก็เทยาลงไปตรงกลางเหมือนใน INU ในตอนนี้เราจะสังเกตได้ว่าทุกคนหยุดนิ่งราวกับไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นหรือหยุดนิ่งราวกับไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ซึ่งมันต่างจากบรรยากาศในเพลง INU ที่ทุกคนต่างยิ้มแย้มให้กันมากกว่านี้

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ตัดฉากมาที่จินและวีที่ทะเลาะกัน จินชกวีหลายต่อหลายครั้ง และตอนชกได้กล่าวคำพูดว่า ‘ขอโทษ’ ออกมาด้วย แต่วีกลับไม่สนใจ วีที่เหมือนจะหลุดออกไปจากโลกความจริงแล้วได้ผลักจินจนล้มและหยิบมีดขึ้นมาจะแทงแล้วภาพก็ตัดไป

จากตรงนั้น เราจะเห็นว่าจินกับวีนั้น มีความขัดแย้งบางอย่างในตัวกันอยู่ ซึ่งมันก็ตั้งแต่ช่วง RUN มาแล้ว ที่วีเหมือนจะปฏิเสธการมีตัวตนของจินอยู่เสมอ เหมือนวีนั้นจะรู้ว่าการมีอยู่ของจินนั้นมันลวง

เพราะจินนั้นได้วนลูปตัวเองมาที่นี่เพื่อแก้ไขบางอย่าง ที่ซึ่งวีอาจไม่เห็นด้วยหรืออย่างไรก็ตาม ตอนนี้อาจสรุปได้ว่าหลังจากวีใช้มีดแทงแล้ว จินอาจตาย(อีกครั้ง)ก็ได้

30 day bias challenge 24/30 | ARMY's Amino

ตัดฉากมาที่จองกุกเข้าสู่ความเพ้อฝัน เหมือนกับวนอยู่ในห้วงกาลเวลามันส่งผลมาถึงแรปม่อน กระจกที่เคยส่องอยู่แตกละเอียดไป เมื่อจองกุกเข้าไป โดยกระจกเป็นสัญลักษณ์ของ “ความกล้าหาญ ความรอบคอบ การสะท้อนถึงความเป็นจริงและความสุข” เมื่อมันแตกอาจหมายถึงความสุขนั้นได้หายไป(อีกครั้ง)

ตัดฉากมาที่วีที่ดูเหมือนเสียสติไปแล้ว สภาพคือเดินถือมีดและกรีดมันบนผนัง พร้อมกับสีหน้าที่มีรอยยิ้ม ซึ่งตอนนี้น่าจะเสียสติไปอย่างจริงจัง ตั้งแต่ทะเลาะกับจินแล้ว ตรงนี้จากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ จินน่าจะโดนวีแทงไปแล้ว(หมายถึงอาจตายไปอีกแล้ว) วีเดินไปเรื่อยๆ กับผ้าที่ระโยงระยางเต็มไปหมด แต่จริงๆ ผ้านั้นน่าจะเป็นสิ่งที่วีสร้างขึ้นมาเอง ไม่ได้มีอยู่จริง

อิงจาก BS&T แบบเวอร์ชั่นเกาหลีก็มีผ้าที่ห้อยในลักษณะที่คล้ายแบบนี้เหมือนกัน วีเดินจนไปพบทางออก ซึ่งทางออกที่ว่าคือขอบตึกนั่นเอง

จากตรงนี้เราจะเห็นว่าขอบตึกนี้นั่นมีลักษณะคล้ายกับนั่งร้านที่วีเคยกระโดดลงไปใน Prologue ซึ่งการกระโดครั้งนี้ก็เพื่อฆ่าตัวตาย(?) ซึ่งถ้านี่เป็นลูปของวีแล้วนั้น นี่ก็ยังเป็นการฆ่าตัวตายของวีอยู่ดี (อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการลูปเวลานั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ไม่ให้เกิดขึ้น)

จากตรงนี้เราจะเห็นว่าขอบตึกนี้นั่นมีลักษณะคล้ายกับนั่งร้านที่วีเคยกระโดดลงไปใน Prologue และคล้ายกับขอบระเบียงในเพลง BS&T เวอร์ชั่นเกาหลี ซึ่งการกระโดดครั้งนี้ก็เพื่อฆ่าตัวตาย(?) ซึ่งถ้านี่เป็นการพยายามกลับมาแก้ไขของจินแล้วล่ะก็ ลูปนี้ของวีนั้นก็ยังเกิดการฆ่าตัวตายของวีอยู่ดี(เท่ากับจินทำไม่สำเร็จนั่นเอง)

ต่อมาเราจะพบเจโฮปกับจีมินยืนอยู่ใต้ภาพ “The Fall of the Rebel Angels” คือภาพเดียวกับภาพที่จินมองดูอยู่ และภาพนี้นั้นยังปรากฎอยู่ในเอ็มเวอร์ชั่นเกาหลีอีกด้วย

ยืนอยู่โดยสวมชุดที่ดูคล้ายชุดจาก Short Film และ Intro : Boy Meets Evil ชุดจะคล้ายกับชุดของโรงพยาบาลนั่นเอง วิเคราะห์ว่าลูปนี้เจโฮปกับจีมินยังคงอยู่ในโรงพยาบาลหลังจากที่เจโฮปหมดสติไปแล้ว และจีมินพยายามฆ่าตัวตายในอ่างน้ำแต่ถูกช่วยไว้ทัน การเต้นของทั้งคู่อาจสื่อถึงความทรมานที่ได้รับ

ที่เจโฮปเต้นจะมีแสงสีฟ้าส่อง โดยตามหลักของสี หมายถึง การสงบเย็น สุขุมเยือกเย็น หนักแน่นและละเอียดรอบคอบ เป็นสีที่มีความหมายเกี่ยวโยงกับจิตใจสูง แต่ใน Intro : Boy Meets Evil นั้นสีที่อาบบนผนังนั้นเป็นสีแดง ซึ่งอาจจะสื่อความหมายตรงข้ามกัน

ส่วนจีมินนั้นแสงที่ส่องลงมาอาบตัวนั้นเป็นสีแดงอาจหมายถึง โทสะและการฉุนเฉียว ด้วยหากเรานำสีแดงเข้าสู่กระบวนการรักษามากเกินไปจะทำให้ผู้ถูกบำบัดรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว หุนหันพลันแล่นและขาด

จานั้นเจโฮปทำท่ายิงธนูและมีสีฝุ่นสีฟ้าๆ ออกมา…

องก์ที่ 3 (Act 3) : บทสรุปเหตุการณ์การข้ามกาลเวลาและโลกคู่ขนาน

ภาพตัดกลับมาที่จองกุกอีครั้ง ครั้งนี้เราจะเห็นจองกุกนอนสลบอยู่ในห้องน้ำ และมีควันออกมาจากท่อที่อยู่ในข้าง ในฉากนี้มันจะคล้ายกับฉากในเอ็มวี BS&T เวอร์ชั่นเกาหลีนั่นเอง แต่กลับกันครั้งนี้มันเป็นห้องน้ำแทนห้องนอน (ซึ่งอันนี้เราก็ไม่แน่ใจเช่นกันค่ะ ว่าจะสื่ออะไร แต่ตามความคิดของเราคือ การลูปเวลากลับมาแก้ไขเหตุการณ์อาจมีจุดพลิกผันของสถานที่ ทำให้จองกุกอยู่คนละที่แทน แต่เหตุการณ์ที่จองกุกเจอ ก็ยังคงเจออยู่ดี)

ภาพตัดไปที่จีมินที่วิ่งออกมาจากชูก้า วิ่งเข้ามาหาตัวเองอีกคนที่สวมชุดต่างออกไป แต่พอจะเดินมาดูจริงๆ กลับมีชูก้าปิดตาจีมินอีกคนไว้ ซึ่งจีมินในชุดสีขาวนั้นเหมือนจะเป็นจีมินที่อยู่ใน Short Film ตรงนี้เราคิดว่ามันเชื่อมกับเดเมียนและโลกคู่ขนาน

ในเพลง Lie มันจะมีประโยคหนึ่งที่ร้องว่า “ติดอยู่ในคำโกหก ช่วยตามหาฉันที่บริสุทธิ์ที” จีมินที่อยู่กับชูก้านั้นคือคนที่ยังบริสุทธิ์อยู่ ยังไม่ได้ถูกแต้มสีใดๆ ลงไป และแอปเปิ้ลยังไม่ถูกกัดเหมือนจีมินที่วิ่งเข้าหาที่ได้ลองกินแอปเปิ้ลไปแล้ว มีความผิดแล้ว

จีมินคนที่วิ่งเข้าหานั้นตามหาคนที่บริสุทธิ์ แต่ชูก้ากลับปิดตาจีมินคนที่บริสุทธิ์เพื่อไม่ให้เห็นตัวเองที่มีบาป ชูก้าคนนี้อาจหมายถึงเดเมียนที่เกิดขึ้นในจิตใจจีมินนั้นเอง และในเอ็มวีเวอร์ชั่นเกาหลี ชูก้าก็เป็นคนปิดตาจีมินไว้ด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากนั้น จีมินที่วิ่งมาก็ถูกดึงออกจากเหมือนจะเข้าสู่มิติอื่น เหมือนลูปนั้นมันจะได้เริ่มใหม่อีกครั้ง

เกิดกระจกแตกอีกครั้ง ภาพตัดมาที่จินที่ลดกล้องลง ตรงนี้อาจเหมือนจุดเริ่มต้นของทุกครั้งที่จินวนลูปเกิดมาเพื่อแก้ไขบางอย่าง และภาพตัดไปมาระหว่างเมมเบอร์ อาจสื่อว่าลูปนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ จินอาจทำไม่สำเร็จที่จะช่วย (หรือแก้ไขเหตุการณ์บางอย่าง)

01

ในภาพมีจองกุกที่กำลังมึนเมาไปกับภาพหลอน(สีที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว) ติดอยู่ในภวังค์เหมือนเวอร์ชั่นเกาหลี

02

จินที่พบทางตัน พื้นร้าว(อาจตายในระหว่างลูปเวลาไปแก้ไข)

03

แรปม่อนมีแผลเกิดขึ้นที่มือ สายตาที่ดูเหมือนผิดหวัง เหม่อลอย และสร้อยคอที่สวมมีลักษณะเป็นกลอนล็อคไว้ อาจหมายถึงโดนกักขัง หรืออาจสื่อถึง Short Film ที่มีโซ่ล็อคไว้ทำให้เข้าไปรับโทรศัพท์จากวีไม่ได้ (อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ)

04

ชูก้าอยู่ที่เดิมในลักษณะกรีดร้อง (คล้ายกับในเพลง Young Forever ตอนจะโดนไฟเผา) อาจจะช่วยใครไว้ไม่ได้

05

วีที่ยืนอยู่ริมขอบตึกพร้อมกระโดดลงไป(ใน BS&T เวอร์ชั่นเกาหลี วีกระโดดลงไปข้างล่างอันนี้ก็คล้ายกัน)

06

และจีมินที่ส่องกระจกสะท้อนใบหน้าตัวเอง กระจกเหมือนกระจกในห้องน้ำ สีที่อาบไปทั่วมีสีแดง

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ส่วนเจโฮปนั้นตัวเอ็มวีไม่ได้กล่าวถึง อาจจะเป็นปมอะไรบางอย่าง แต่เราไม่ทราบจริงๆ และฉากก็ตัดไปที่ห้องว่างๆที่ไม่มีใครอยู่เลยสักห้อง และตัดไปที่จินที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับหลุมและภาพ

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

หลุมอาจหมายถึงจุดเริ่มต้นที่จินพยายามลูปเวลากลับไปแก้ไข ส่วนกระจกตอนสุดท้ายที่แตกออกมา อาจหมายถึงจินได้เข้าไปลูปเวลากลับไปแก้ไขอีกครั้งแล้ว

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

*ในช่วงท้ายเราจะเห็นผช.คนหนึ่งยืนอยู่ ในพื้นที่ที่คล้ายกับป่าและมีแสงเหมือนปีกสว่างอยู่ บางคนว่าเป็นวี บางคนว่าเป็นเจโฮปหรือพี่จิน ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าคือใครนะคะ ขอข้ามตรงนี้*

สิ่งที่ซ่อนใน MV BTS Pt.3

ฉากตัดไปอีกครั้ง เป็นฉากที่คล้ายกับฉากในเพลง INU เป็นฉากที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน ฉากนี้เราจะเห็นจินขับรถเข้ามา มีแรปม่อนยืนอยู่ แรปม่อนทักแบบแปลกใจที่เห็นจิน และจินก็กล่าวว่า “ไม่เจอกันนานเลยนะ” นี่อาจเป็นการวนลูปกลับมาแก้ไขอีกครั้ง แต่ในลักษณะของโลกแห่งจริงนั้นเอง

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> BTS กับภาพยนตร์

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์