BTS กับความสำเร็จ Grammy ไม่ได้ชนะรางวัลแต่ก็ชนะใจคนทั่วโลก

BTS กับความสำเร็จ Grammy เหตุใดการแสดงของ BTS ในงาน GRAMMY ปี 2021 ถึงมีความสำคัญต่ออนาคต

BTS กับความสำเร็จ Grammy BTS และแฟนๆ ของพวกเขาต่างผิดหวังในค่ำคืนวันอาทิตย์ (ตามเวลาท้องถิ่นอเมริกา) ของงานประกาศรางวัล GRAMMY ที่จัดขึ้นที่ในนครลอสแองเจลิส เมื่อรางวัล Best Pop Duo/Group Performance ตกเป็นของ Lady Gaga และ Ariana Grande

หากแต่ศิลปินกลุ่มจากเกาหลีใต้ก็ยังคงสร้างประวัติศาสตร์ในค่ำคืนที่จัดขึ้นโดยสถาบันการบันทึกเสียง (Recording Academy) ด้วย การแสดงของ BTS ในเพลง Dynamite ที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและสร้างสรรค์ออกมาอย่างเฉียบขาด (ผู้ชมต้องรอชมโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่จนถึงช่วงท้ายของงานที่มีความยาวถึงราวๆ สี่ชั่วโมง)

นี่ไม่ใช่การปรากฎตัวครั้งแรกของพวกเขาที่งานประกาศรางวัล GRAMMY เพราะครั้งแรกคือเมื่อปี 2019 ที่พวกเขาเจ็ดหนุ่มขึ้นเชิญรางวัล แต่ก็ไม่ใช่แม้กระทั่งครั้งที่สอง เพราะครั้งนั้นคือเมื่อปี 2020 ที่พวกเขาปรากฎตัวในฐานะศิลปินรับเชิญในการแสดงเพลง “Old Town Road (Remix)” ของ Lil Nas X บนสเตจเพื่อร่วมแจมท่อนฮิตของเพลง

ถึงอย่างนั้น ครั้งที่สามนี้คือเสน่ห์ที่ทำให้ BTS ได้ปรากฎตัวในช่วงไพรม์ไทม์ และได้รับแอร์ไทม์อย่างเต็มที่ รวมถึงสร้างประวัติศาสตร์ ตลอดงานประกาศรางวัล GRAMMY ในค่ำคืนวันอาทิตย์ มีการแสดงเป็นสิบๆ รายการ ตั้งแต่การแสดงของดูโอ้สุดสนุกอย่าง Cardi B และ Megan Thee Stallion ไปจนถึงเพลงที่สะท้อนการเมืองของ Lil Baby และ Killer Mike แต่พวกเขา BTS กลับโดดเด่นด้วยการเป็นศิลปินจากเกาหลีใต้รายแรกที่ทำการแสดงหนึ่งในผลงานเพลงของตัวเองที่งาน GRAMMY

การแสดงของ BTS คือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นอย่างมากต่อการให้ความเคารพที่มีเพิ่มมากขึ้นแก่ศิลปินที่ไม่ได้มาจากฝั่งตะวันตก BTS กับความสำเร็จ Grammy

BTS ครอบงำแวดวงออกอากาศตลอดปีที่ผ่านมาด้วยเพลงฮิตภาษาอังกฤษข้ามวัฒนธรรมอย่าง “Dynamite” แต่พวกเขาก็ได้ท้าทายขีดจำกัดของความสำเร็จของศิลปิน K-Pop และศิลปินเกาหลีก่อนหน้านี้มาแล้วหลายต่อหลายปี ด้วยการปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในงานประกาศรางวัลใหญ่ในอเมริกาเมื่อปี 2017 ภายหลังจากสร้างชื่อเสียงในฐานะปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดียด้วยฐานแฟนคลับผู้แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เป็นที่รู้จักในนาม ARMY (อาร์มี่)

ถือเป็นเส้นทางที่ยาวไกลสำหรับแนวเพลงที่ถูกแบ่งประเภทเอาไว้กว้างเกินไปอย่าง K-Pop ที่จะได้รับการรับรองและการยอมรับจากสถาบันดนตรีระดับโลก แม้จะครองสถานะอุตสาหกรรมหลายพันล้านดอลล่าร์ จากแรงดึงดูดอันทรงอิทธิพลที่ได้รับในระดับสากล กระทั่งศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่าง PSY ที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต เช่น “Gangnam Style”

BTS กับความสำเร็จ Grammy

และศิลปินกลุ่มที่เปิดตัวมาก่อนหน้าอย่าง Big Bang และ Girls’ Generation กลับกลายเป็นว่า GRAMMY ไม่ได้เห็นผลความสำเร็จทางดนตรีของพวกเขาอยู่ในสายตา และแม้ว่า GRAMMY จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิสัยทัศน์ที่แคบ

โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่งานประกาศรางวัลดังกล่าวก็ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกและเป็นเครื่องหมายของความสำเร็จ (เป็นที่น่าสังเกตว่าบอยแบนด์ที่เป็นที่นิยมอย่าง One Direction และ 5 Seconds of Summer เองก็เผชิญอุปสรรคต่อการได้รับการยอมรับจาก GRAMMY เช่นกัน)

แม้ BTS จะกลับบ้านไปมือเปล่า แต่สถานะของพวกเขาในฐานะผู้ทำการแสดงอย่างเป็นทางการของงาน GRAMMY บ่งบอกถึงเวที GRAMMY ที่เปิดรับมากยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจเริ่มให้ศิลปินจากทุกถิ่นกำเนิดได้กลายเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับอย่างมาก ในครั้งหน้า พวกเขาอาจได้ขึ้นเวทีด้วยเพลงที่เป็นภาษาเกาหลีทั้งเพลงเลยก็เป็นได้

BTS กับความสำเร็จ Grammy

สัมภาษณ์จากการแถลงข่าว BTS เปิดตัวอัลบั้มใหม่ ‘BE’ “เป็นเกียรติกับที่ 1 Billboard..เป้าหมายต่อไปคือ GRAMMY”

อัลบั้ม BE อัลบั้มใหม่ของ BTS ที่เปิดตัวในวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นอัลบั้มที่เหมือนหน้าหนึ่งในไดอารี่ของ BTS ตลอดการใช้ชีวิตในยุค COVID-19 เหล่าเมมเบอร์บอกเล่าความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาและการตระหนักรู้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกถูกปกคลุมด้วยไวรัส COVID-19 พวกเขา BTS ไม่หยุดยั้งที่จะสารภาพถึงความรู้สึกที่แท้จริงภายใน ความปรารถนาของพวกเขาคือการปลอบโยนและให้กำลังใจแฟนๆ ทั่วโลกที่กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยการบอกเล่าถึงความเป็นตัวตนของตัวเราที่ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้

อารมณ์ความรู้สึกและความคิดคำนึงของ BTS ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาและเรื่องราวของ ‘พวกเรา’ ที่ยังคงดำเนินต่อไปในเส้นทางที่ดำรงชีวิตอยู่ เป็นที่มาเบื้องหลังอัลบั้ม BE อันสื่อถึง ‘การเป็นอยู่’ หรือ ‘การดำรงอยู่’ ที่ไม่จำนนต่อรูปแบบใดๆ

BTS กับความสำเร็จ Grammy

โดยพวกเขาได้ตอบคำถามที่ว่า “รางวัล GRAMMY มีความหมายต่อพวกคุณอย่างไร?”

โดย RM  ก็ได้ตอบสัมภาษณ์ไปว่า “ผมเองก็ถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน และพูดคุยในหมู่พวกเราอยู่บ่อยๆ เลยครับ เวทีที่ตราตรึงใจพวกเราที่สุดคือการแสดงของแรพเปอร์ T.I. ในปี 2009 มีทั้ง Jay-Z, Lil Wayne และท่านอื่นๆ ใส่สูทขึ้นมาแสดงโดยเป็นภาพขาวดำ ผมดูตอนสมัยเป็นเทรนนี่ รู้สึกช็อคไปเลยแล้วก็คิดว่ามันแบบเวทีแบบไหนกัน ศิลปินเหล่านั้นถึงขึ้นไปแสดงอย่างอลังการขนาดนั้นได้ แล้วก็คิดว่าทำไมเหล่าศิลปินอเมริกัน หรือเหล่าศิลปินป็อปทั่วโลกถึงใฝ่ฝันถึงงาน GRAMMY

เขาว่ากันว่าพอย่างเข้าสามสิบ หูก็เริ่มไม่รับแล้ว พอมองย้อนกลับไป พวกเราก็ไม่ได้อยู่ในวัยที่ไม่รับอะไร สมัยเป็นเทรนนี่หรือเป็นเด็กมัธยม เพลงและการแสดงที่เราฟังอย่างดุเดือดมันสร้างความประทับใจให้พวกเรามากจริงๆ หนึ่งในสามเวทีสำคัญก็คือ GRAMMY มันก็เลยทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นงานประกาศรางวัลที่สุดยอด หลายๆ คนก็คงจะทราบดีในแง่ของธุรกิจอยู่แล้ว มันเป็นเวทีที่คงไว้ซึ่งร่องรอยในพัฒนาการที่เราใฝ่ฝันและเตรียมตัวมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเทรนนี่

j-hope “อาจจะเรียกว่าเป็นความโลภหรือความทะเยอทะยานก็ได้ ด้วยความที่พวกเราเป็นวงๆ หนึ่ง พวกเราเองก็มีความฝันที่อยากได้รางวัลสาขาศิลปินกลุ่มตลอดมาเหมือนกัน จากความคิดนั้น เราจึงรักษาความเป็นวงและมองว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ครับ”

สัมภาษณ์ก่อนเตรียมรับรางวัลแกรมมี่กับ USA Today (ไฮไลต์)

Q: พวกคุณเคยพูดว่าอยากแสดงเพลงของตัวเองที่งานประกาศรางวัล GRAMMY ฉันทราบค่ะว่าปีที่แล้วพวกคุณก็ทำการแสดงเหมือนกัน แต่ปีนี้คุณจะทำการแสดงของตัวเอง คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ? บอกให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมคะว่าพวกคุณเตรียมตัวยังไงบ้าง? และมีอะไรให้อาร์มี่ตั้งตารอได้บ้าง?

SUGA: ผมไม่แน่ใจว่าพูดได้ไหม แต่พวกเราก็ตั้งใจเตรียมงานกันอย่างเต็มที่เลยล่ะครับ เรื่องนี้ผมพูดไม่ได้น่ะครับ เรื่องนี้มันเป็นความลับน่ะครับ เป็นความลับจริงๆ ครับ

j-hope: ต้องดูเองครับ!

RM: การแสดงก็เป็นสิ่งที่เราต้องการทำให้ได้มากขึ้น กระตือรือร้นที่จะทำให้ได้มากขึ้น มากกว่าการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล หรือการชนะรางวัล เพราะเราเป็นวงที่ทำการแสดง การได้ทำการแสดงด้วยเพลงของตัวเองก็เป็นเหมือนความฝันสูงสุดของเส้นทางที่เดินตลอดมานี้ พวกเราก็เลยทั้งรู้สึกปลาบปลื้มและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันครับ

Q: อยากพูดถึงเพลงแห่งนาทีนี้อย่าง Dynamite ซึ่งเป็นเพลงที่คุณได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY สาขา Pop Duo/Group Performance หน่อยไหมคะ? 6 เดือนที่แล้วตอนที่คุณปล่อยเพลงออกมาคุณอยากมอบชีวิตชีวาและความยินดีให้กับแฟนๆ ซึ่งมันก็สร้างความรู้สึกเหล่านั้นขึ้นเลยจริงๆ ค่ะ แต่มันก็ยังนำมาซึ่งสิ่งต่างๆ อีกมากมายกว่านั้นด้วย ทั้งการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และการคว้าอันดับ 1 ครั้งแรกบนชาร์ต Billboard Hot 100 ในตอนนี้เพลง Dynamite สื่อถึงอะไรสำหรับพวกคุณคะ?

Jimin: ความรู้สึกที่พวกเรามีต่อเพลงก็ยังเหมือนเดิมครับ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็อยากที่จะมอบพลังและการปลอบโยนให้กับผู้คนมากมาย พวกเราก็เลยเตรียมเพลงที่พวกเราได้มาเจอโดยบังเอิญอย่างเต็มที่ ในตอนนี้พวกเราเองก็ยังหวังว่าจะเข้าถึงผู้คนมากมายด้วยหนทางนั้นเช่นเดิมครับ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกขอบคุณมากกว่าผลความสำเร็จหรือการชนะรางวัล ก็คือการที่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้คนมากมายรู้สึกมีพลัง และการที่เขาได้รับการเยียวยาจิตใจเมื่อฟังเพลงของเราครับ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมรู้สึกขอบคุณ มันทำให้ผมรู้สึกว่าอยากจะทำให้ดียิ่งกว่าเดิม อยากเป็นพลังให้มากกว่าเดิมครับ

RM: อีกสิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเพลง Dynamite สำหรับผมแล้วผมคิดว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของบันได, อีกหนึ่งความเป็นไปได้ และการฟันฝ่าอุปสรรคครับ เพราะตลอดเส้นทาง 8 ปีเวลาที่เราเผชิญกับความยากลำบากและเรื่องแย่ๆ ไม่ว่าจะจากภายในหรือภายนอก เราก็จะหาหนทางได้เสมอ ปีที่แล้วเราเผชิญกับสถานการณ์โรคระบัดกัน ซึ่งทุกคนก็สับสนและหลงทาง แต่ Dynamite กลับให้เรามากกว่าความเป็น Dynamite มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไปได้ เป็นบันไดที่จะพาเรายังอีกโลกๆ นึงครับ

BTS กับความสำเร็จ Grammy

Q: ความสำเร็จที่พวกคุณทำได้ต่างๆ อุปสรรคต่างๆ ที่พวกคุณฝ่าฟันมาได้สู่อุตสาหกรรมดนตรีที่นี่ข้างนอกประเทศบ้านเกิดของพวกคุณ มันมีความหมายกับพวกคุณอย่างไรคะในตอนนี้?

SUGA: ผมคิดว่าเป็นเพราะมีอาร์มี่ในอเมริกามากมายที่มอบความรักให้กับพวกเราครับ โดยเฉพาะสำหรับ Dynamite มันเป็นเพลงที่พวกเราสร้างสรรค์ขึ้นเพราะอยากปลอบโยนผู้คนมากมาย ซึ่งผมก็รู้สึกว่าผู้คนมากมายเข้าถึงความรู้สึกเหล่านี้แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมไม่รู้หรอกครับว่าพวกเราจะทำเพลงแบบไหนออกมาอีกในอนาคต แต่ถ้ามอบความรักให้พวกเราเยอะๆ พวกเราเองก็คงมีแรงเพื่อทุ่มเททำงานเพลงมากขึ้นต่อไปครับ ก็เป็นเกียรติจริงๆ ครับและรู้สึกขอบคุณเพลง Dynamite ด้วยครับ

Q: คุณว่าอะไรเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งมากกว่า 7 ปีที่ผ่านมาที่ช่วยพาพวกคุณมาถึงเป้าหมายเหล่านี้?

V: ผมว่าก็อาร์มี่นี่แหละครับ?

j-hope: แฟนๆ ทุกคน, เมมเบอร์ที่อยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะมองยังไงพวกเราต่างก็เป็นที่พึ่งพิงให้แก่กันและกันอย่างมากเลยล่ะครับ

V: เพราะเมมเบอร์, อาร์มี่, ทีมงาน Big Hit ทุกคน, ครอบครัว และผู้คนที่เราสนิทที่คอยดูแลเราอยู่รอบๆ ถึงทำทำให้พวกเราเติบโตและค่อยๆ ไต่บันไดขึ้นมาได้ทีละขั้นครับ

SUGA: ทั้งตอนที่พวกเราได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ตอนที่ได้ทำการแสดง พวกเรารู้สึกยินกดีมากๆ ก็จริง แต่แฟนๆ ของเราน่าจะยินดีมากกว่าพวกเราซะอีกครับ ผมคิดเสมอครับว่า “ถ้าไม่มีแฟนๆ ของพวกเรา สิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นได้หรอ”

Jin: นัมเบอร์วันก็ต้องแฟนๆ น่ะสิครับ

V: น่าจะนัมเบอร์ซีโร่รึเปล่าฮะ?

Jin: โอเค นัมเบอร์ซีโร่

RM: ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาพวกเราได้รับโชคดี ได้รับสิ่งดีๆ อย่างมากมาย แต่ผมว่าตลอดเส้นทางนี้ โชคที่ดีที่สุดคือการที่เรามีพวกคุณทั่วโลกครับ ไม่ว่าพวกเราจะได้รับรางวัล GRAMMY หรือไม่ก็ตาม พวกเรามีสิ่งที่พวกเราต้องการแล้ง พวกเรามีคุณ ซึ่งมันก็หมายความว่าพวกเรามีทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าลืมในข้อนี้และขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้แข็งแรงครับ

ที่มา : Zach Sang Show, 102.7KIISFM, USA Today

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> ตัวตนของ BTS

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เว็บดูบอลสดฟรี