BTS Vogue Magazine

BTS Vogue Magazine Highlight บทสัมภาษณ์ ‘รางวัลเพื่อแฟนคลับและจะเป็น BTS จนวันตาย’

BTS Vogue Magazine Highlight บทสัมภาษณ์ ‘ความกดดัน, ตัวตนที่แท้จริง, รางวัลเพื่อแฟนคลับและจะเป็น BTS จนวันตาย’

BTS Vogue Magazine รวมไฮไลท์บทสัมภาษณ์ของหนุ่มๆ BTS จากนิตยสาร Vogue ที่รวมคำพูดของพวกเขาที่บ่งบอกถึงตัวตน และความรู้สึกในสิ่งที่พวกเขา ต้องการอยากจะสื่อสารแก่แฟนคลับให้รับรู้

BTS Vogue Magazine : RM

BTS Vogue Magazine

“การเป็นตัวแทนประเทศ มันมีทั้งตอนที่รู้สึกดีและตอนที่รู้สึกกดดัน ที่แน่นอนก็คือ มันไม่ใช่สิ่งที่ได้มาเพราะเราต้องการ หรือจะลบล้างไปได้ เพียงเพราะเราไม่ต้องการ ผมถือว่ามันเป็นกระแสเรียก และเป็นชะตาที่ได้ทำในสิ่งที่ทำได้ดีครับ” — RM, 2021 Vogue Korea

BTS Vogue Magazine

“ผมไม่ค่อยชอบสังคมที่บีบบังคับให้มีความฝัน แต่ผมก็คิดว่าความฝันเป็นสิ่งสำคัญ และหวังว่าผู้คนจะยังมีตัวตนวัยหนุ่มสาว ที่เชื่อมั่นในความอุตสาหะและความหวัง สิ่งที่ผู้คนและตัวผมเองคาดหวังมันสูงมาก ๆ ต่อให้เดินทางสายอื่น ผู้คนก็คงคาดหวังอยู่ดี ผมว่าผมยังกำลังเรียนรู้อยู่เลยครับ”

JIN 

“ผมไม่ใช่คนที่มีอะไรพิเศษและมีสิ่งที่ทำได้ดีเยี่ยม ถึงผู้คนรอบข้างจะไม่คิดแบบนั้นเลย แต่เขาก็จะบอกว่า ‘พูดออกมาได้ยังไง นายน่ะทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำเร็จนะ’ ถ้ามีใครถามว่า มีอะไรที่ผมทำได้ดีกว่าคนอื่นเขา ผมก็คงไม่มีอะไรใหญ่โตจะพูดนอกจาก ‘ผมเป็นเมมเบอร์  BTS’ ครับ” — Jin

“จริง ๆ แล้วมีคนมากมายที่เต้นและร้องเพลงเก่งกว่าผม ผมแค่กำลังพยายาม เพราะคนอื่นมองเห็นอะไรในตัวผมมากกว่า ที่ตัวผมเห็นในชีวิตจริง เขาว่าใคร ๆ ก็เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ ผมคิดว่าความสามารถของผม คงเป็นการลืมเรื่องที่ไม่ดี หรือทำให้เหนื่อยใจได้อย่างรวดเร็วครับ”

SUGA

“สำหรับรางวัล GRAMMYs ผมมีคำตอบแบบเวอร์ชั่นถ่อมตัว และเวอร์ชั่นมั่นใจครับ ว่ากันตามตรง ผมไม่ได้คาดหวัง แต่ผมว่าเราก็คงจะได้รับรางวัลครับ” — SUGA, 2021 Vogue Korea

BTS Vogue Magazine

“ผมจะเป็น BTS จนกว่าจะชีวิตจะหาไม่ ผมได้ยินมาเหมือนกันว่า ไม่ลองเป็นโปรดิวเซอร์ดูบ้างหรอ แต่ก็คงไม่ล่ะครับ ผมไม่ได้มีความรับผิดชอบพอที่จะรับผิดชอบใคร ผมชอบที่ได้เป็น BTS ครับ”

BTS Vogue Magazine

SUGA พูดถึงการร่วมงานกับ Coldplay

“พวกเขาทุกคนถ่อมตัว จิตใจดี มีความมุ่งมั่นและใจดีกับเรามากครับ.. แล้วผมก็ได้รู้ว่าประสบการณ์ของเรา กับประสบการณ์ที่ Coldplay ได้ประสบมาเกือบ 25 ปีนั้นแทบไม่แตกต่างกัน บทสนทนาเริ่มต้นขึ้น เมื่อเราเปรียบเทียบการต่อสู้ดิ้นรนของกันและกัน

ชูก้าอธิบายถึงช่วงเวลาที่เขาได้ทราบว่าการดิ้นรนต่อสู้ของวงร็อคและวงบอยแบนด์นั้นเหมือนกัน

“เวลาที่ได้เจอกับบุคคลที่มีชื่อเสียง ผมสามารถบอกได้ว่าพวกเขาจริงใจหรือไม่ ซึ่ง Coldplay ก็จริงใจมากๆ ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจมากเลยล่ะครับ”

J-HOPE

BTS Vogue Magazine

“ผมคิดว่าสุดท้ายแล้ว คนที่ชื่นชอบในตัวผม คือผู้ที่นำทางผมมาเป็นผมในทุกวันนี้ ทั้งครอบครัว รวมถึงเมมเบอร์ BTS ทั้งหกที่อยูเคียงข้าง ทีมงานรอบตัว และแฟน ๆ คนสำคัญ ลำพังผมคนเดียวคงไม่มีทางทำได้ครับ” — jhope, 2021 Vogue Korea

BTS Vogue Magazine

“เวลาได้ขึ้นเวทีไปพบเจอกับแฟน ๆ ผมรู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้เป็นเมมเบอร์ BTS ผู้คนที่ชอบดูผมเต้น และชอบฟังเพลงของผม ผมรู้สึกเลยว่าผมอยู่ตรงนี้ได้ เพราะมีพวกเขา มันคือช่วงเวลาที่ผม ได้เพลิดเพลินกับการเป็นตัวเอง ทั้งในฐานะ jhope และ ‘ชองโฮซอก’ อย่างแท้จริง”

หากเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง

ประโยคแรก: แด่ผู้คนที่นำทางผม
ประโยคสุดท้าย: ผู้คนที่ผมนำทาง

“มันอาจจะดูจำเจ แต่ก็เพราะมันมีทั้งช่วงเวลาที่มีคุณค่าและผู้คนคนสำคัญที่ผมได้นำทางมาจริง ๆ”

JIMIN

BTS Vogue Magazine

“ไม่ว่าจะเป็นการเต้น ร้องเพลง หรือทำการแสดง พวกเรา BTS ต่างได้รับแรงบันดาลใจในทุก ๆ ด้านจากกันและกัน มันเป็นแนวทางแบบ ‘เออ เขาก็เก่ง เราก็ลองทำแบบนั้นบ้างดีกว่า’ ตอนแรก ๆ เราเองก็ลำบาก มีทะเลาะกันด้วย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกโชคดีที่ผมเมมเบอร์อยู่ครับ”  — Jimin, 2021 Vogue Korea

BTS Vogue Magazine

“คงเพราะผมยังเด็ก นอกจากเมมเบอร์แล้ว ผมเลยเปิดอกกับเพื่อน ๆ ไม่ได้ง่าย ๆ ซึ่งมีหลายครั้งที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะมันดูเหมือนผมเสแสร้ง เวลาที่พูดคุยกับเมมเบอร์ ผมจึงรู้สึกดีที่ได้เปิดอกตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ครับ”

“การคว้ารางวัล GRAMMYs ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราคาดฝัน แต่ก็เหลือเชื่อจริง ๆ ที่ได้เข้าชิงรางวัล และไหน ๆ แล้วถ้าได้รางวัล แฟน ๆ ก็คงจะดีใจ แต่แค่ได้เข้าชิงก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีแล้วครับ ถ้าเป็นไปได้ คราวนี้ก็อยากจะไปร้องเพลงให้ได้ฟังกันถึงที่เลยครับ”

V

“MBTI ของผมเริ่มจาก E (Extrovert) ก่อนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็น I (Introvert) เขาว่ามันต่างกันมาก แต่ผมไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะผมมีอำนาจที่จะตัดสินว่าอะไรดีหรือไม่เหมาะกับตัวผม ที่ผมเติบโตขึ้นได้ก็เพราะมีผู้คนรอบข้างคอยช่วยเหลือผม” — V, 2021 Vogue Korea

“ในวันข้างหน้าอาจมีอุปสรรคและอาจได้รับบาดแผลมากมาย แต่ผมก็ไม่กลัว เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ผมจะมีพัฒนาการไปอย่างไรท่ามกลางสถานการณ์เหล่านั้นต่างหากครับ”

“เวลามีอะไรมากวนใจ ผมจะขลุกตัวและพยายามหาทางเอาชนะสิ่งเหล่านั้นอย่างไม่ลดละ เช่นถ้าผมจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกหนึ่ง ผมก็จะทำเพลงเกี่ยวกับความรู้สึกนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นเพลงที่ดีหรือไม่ ความรู้สึกของการทำอะไรสักอย่างสำเร็จลุล่วงมันช่วยคลายสิ่งที่ทำให้ลำบากใจไปได้ครับ”

“ผมอยากเป็นเพื่อนที่ไม่มีอะไรตะขิดตะขวงใจกับอาร์มี่ ผมถึงพูดคุยผ่าน Weverse ทุกทีที่กังวลใจหรือมีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่อยากเข้าหาในเชิงธุรกิจกับทุก ๆ สิ่ง ไม่ใช่แค่กับแฟน ๆ บางทีวิธีคิดเชิงธุรกิจมันก็จำเป็น แต่ผมไม่ถนัดหรอกครับ นี่ล่ะคือข้อเสียของผมครับ”

JUNGKOOK

“มุมมองตามความเป็นจริงและตามอุดมคติ มักอยู่ร่วมกันเสมอ แต่ก่อนผมอยากทำอะไรก็ทำ ไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ความคิดมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับชีวิต ผู้คน และความสัมพันธ์ เดี๋ยวนี้ผมเอนเอียงมาทางความเป็นจริง ผมจึงทำในสิ่งที่ต้องทำก่อนสิ่งที่อยากทำครับ” — JungKook, 2021 Vogue Korea

“มันคงไม่มีทางสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อย ๆ ผมก็ไม่ได้อยากนำเสนอสิ่งที่ผมไม่ได้พึงพอใจ เมื่อได้พยายามอย่างสม่ำเสมอแล้ว สักวันหนึ่งที่จะได้นำเสนอสิ่งที่ผมทำอย่างออกมาอย่างดีก็จะมาถึงครับ”

“ผมได้เพลิดเพลินกับสิ่งที่ต้องทำแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบ มันทำให้ผมยอมรับได้แม้ในตอนที่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ผมจึงไม่คาดหวังหรือยึดติดจนเกินไปเพียงเพราะได้เตรียมตัวมาอย่างดี มันคือการที่ผมรู้จักยอมรับในสิ่งต่าง ๆ ครับ”

“แน่นอนครับว่ามีคนที่โดดเด่นกว่าผมอยู่เป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลาผ่านไปผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลดระดับลง แต่ผมไม่คิดจะลงจอดครับ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ผมอยากทำ ผมอยากขยายขอบเขตของผมและบินให้สูงขึ้นอีก”

อะไรที่เกี่ยวกับตัวเองที่เปลี่ยนไปและอะไรที่ยังเหมือนเดิมอยู่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้บ้าง

“ผมมีจิตใจที่อบอุ่นและเชื่อใจในตอนเป็นเด็กครับ และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ผมจะให้ทุกอย่างกับคนที่ผมรักจนกว่าจะถึงตอนที่พวกเขาทำลายหัวใจของผม พี่ๆร่วมวงรู้เรื่องนี้ดีครับ บางครั้งผมก็กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมโชคดีที่มีพี่ๆร่วมวงที่อยู่เคียงข้างผม ซึ่งเป็นอะไรที่อุ่นใจมาก แต่ถ้าผมเอาแต่พึ่งพาพวกเขามากเกินไป มันก็เหมือนกับว่าผมเอาแต่หลบซ่อนอยู่ข้างหลังพวกเขา เพราะงั้นผมจึงต้องยืนหยัดได้ด้วยตัวเองครับ”

BTS เผยเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เคยพูดจาโอ้อวดถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง

HYBE announces soundtrack for BTS' webtoon, 7FATES: CHAKHO: OST

ความสำเร็จของวง BTS นั้นเป็นที่ประจักษ์แล้วในสายตาของทุกคน เพราะพวกเขาสามารถพาตัวเองไปอยู่ระดับเดียวกับศิลปินระดับโลกได้สำเร็จ และยังทุบสถิติมากมายหลายแขนงจนแม้แต่แฟนคลับเองก็ตามข่าวแทบไม่ทัน แต่พวกเขากลับเลือกที่จะไม่พูดถึงความสำเร็จของตัวเองเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าคำพูดเหล่านั้นอาจย้อนกลับมาทำร้าย 7 หนุ่มสมาชิกวง BTS ในอนาคตได้

BTS พูดถึงประเด็นนี้ในการสัมภาษณ์กับ Billboard ว่า พวกเขาเชื่อในผลของคำพูดและการกระทำที่จะตามมาเสมอ โดยหัวหน้าวงคนเก่งอย่าง RM พูดว่า “เราหลีกเลี่ยงการพูดถึงความสำเร็จของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2017 เพราะเรากลัวผลที่จะตามมาในอนาคต เราค่อนข้างที่จะเชื่อในเรื่องเวรกรรม”

ชูก้าเสริมต่ออีกว่า พวกเขาเริ่มต้นมาจากต้นสังกัดที่เล็กมาก และมันก็ยากเย็นตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเส้นทางการเป็นไอดอล จนถึงปัจจุบันที่ BTS มีชื่อเสียง และได้รับความรักอย่างล้นหลามจากแฟนเพลงทั่วโลก แต่พวกเขาไม่ใช่คนอภิสิทธิ์ชน และชูก้าก็ไม่เคยฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เลย

แน่นอนว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวง BTS ส่งผลให้พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักติดต่อกันแบบไม่มีหยุด ซึ่งจินก็ได้เล่าว่า ณ จุดหนึ่งพวกเขาต้องทำงาน 28.5 วันต่อหนึ่งเดือนเลยทีเดียว และน้องเล็กทองคำอย่าง จองกุก ก็เผยต่ออีกว่า “การเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก มันแลกมาด้วยสุขภาพของผม และผมคิดว่าเราได้สูญเสียวัยเยาว์และสิ่งอื่นของพวกเราไปด้วย”

อย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิดที่กินเวลามาเกือบ 2 ปี ทำให้หนุ่มๆ คิดถึงการกลับไปแสดงบนเวทีต่อหน้าคนดูทั่วโลกอีกครั้ง และการที่พวกเขาต้องยกเลิกทัวร์ Map of the Soul ไปก็ทำให้ วี มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และอ่อนไหวง่ายจนเขารู้สึกเจ็บปวดในใจในทุกวันนี้

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Weverse Magazine JK Pt.2

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> ดูซีรี่ย์

>>> แทงบอลออนไลน์