MV BS&T (Japanese ver)

MV BS&T (Japanese ver) มหากาพย์วิเคราะห์ MV ที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดของบังทัน

MV BS&T (Japanese ver) มหากาพย์วิเคราะห์ MV ที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดของบังทัน

MV BS&T (Japanese ver) วันนี้ขอมาเขียนต่อสำหรับ BS&T เว่อร์ชั่นญี่ปุ่นที่เพิ่งออกมาแล้วไม่อยากจะนับว่ามันเป็นทฤษฎีอะไรจริงจังมาก เอาเป็นว่าขอเก็บไว้เป็นข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆแล้วกันนะคะ อ่านกันสนุกๆนะคะ

**โดยครั้งนี้จะแบ่งการวิเคราะห์เป็นหมวดหมู่ไป ตามความเข้าใจของผู้เขียนนะคะ

ชม MV ก่อนการอ่านการวิเคราะห์ได้ที่นี้

MV BS&T (Japanese ver) Theme ของ MV 

เรามองเอ็มวีบังทันผ่านนิยายเรื่อง Damien ปนกับทฤษฎีจิตวิทยาของ Carl Jung ซึ่งเป็นตัว Hermann Hessee คนเขียนเองเป็นคนไข้ของลูกศิษย์ของ Jung และ Damien เองก็ถูกพูดว่าเป็นการเอาทฤษฎีจิตวิทยาของ Jung ไปเขียนให้เป็นนิยายค่ะ

โดยธีมหลักของเดเมี่ยน ทฤษฎีจิตวิทยาของ Jung และเอ็มวีทั้งหมดของบังทัน พูดถึงการพยายามเป็นตัวเอง การสร้างตัวตนขึ้นมา (individualisation) ซึ่งเป็นการพยายามอยู่กับทั้งโลกมืดและโลกสว่างของตัวเองให้ได้ค่ะ โลกมืดและโลกสว่างนี้ ไม่ใช่แค่โลกดี/ชั่ว หรือ เด็ก/ผู้ใหญ่เสียทีเดียว

แต่คำว่าสว่างกับมืด ใช้ในความหมายที่ว่าโลกสว่างคือโลกที่เรามองเห็น (Jung เรียกว่าโลกของ the conscious สติ) โลกมืด คือ โลกของ the unconscious (จิตใต้สำนึก) เป็นความดำมืดที่อยู่ในจิตใต้สำนึกที่เรามองไม่เห็นและไม่รู้ว่าปีศาจตัวไหนซ่อนอยู่ในนั้นบ้าง

MV BS&T (Japanese ver)

พูดง่ายๆคือโลกมืด คือโลกที่เราแสดงออกตามความต้องการ ไม่คิดหน้าคิดหลังหาเหตุผลอะไร ใช้สัญชาติญาณซึ่งเป็นโลกที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเราโตขึ้นเรื่อยๆ เราเองก็จะถูกพ่อแม่เลี้ยงดู สังคมหล่อหลอมให้ต้องตามประเพณี คำสอน ศาสนา ยิ่งโตขึ้นเราก็ยิ่งหลุดออกมาจากโลกมืดที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดแล้วใช้ชีวิตอยู่ในโลกสว่างแทน

แต่ Jung ก็บอกว่ามันมีหลายครั้งที่เราจะถูกจิตใต้สำนึกหรือโลกมืดของเราครอบงำ ปีศาจที่อยู่ในโลกมืดจะเรียกเรากลับไปอีกครั้ง และเมื่อถูกเรียก เราจะพบตัวเองอยู่ในสังคมที่เป็นโลกสว่าง แต่จิตใจตกกลับไปในโลกมืด ซึ่ง Jung เชื่อว่าสุดท้ายแล้วการพยายามอยู่กับปีศาจในใจและสังคมสว่างข้างนอกให้ได้จะเป็นวิธีการที่เราจะค้นพบตัวตนจริงๆของเราค่ะตัวตนของเรานั่นก็จะเป็นสถานที่ที่ Jung บรรยายว่า bright, dark and yet neither (สว่าง,มืด และไม่ทั้งสองอย่าง)

ความเชื่อมโยงกับเอ็มวีเก่าๆ กับ Blood Sweat & Tears เวอร์ชั่นเกาหลี

กลับมาที่ BS&T ค่ะ เรามองว่าในเอ็มวีในเว่อร์ชั่นญี่ปุ่นนี้ ก็ยังคงเล่นกับคอนเซป การตกไปในด้านมืดแล้วพยายามหลุดออกมา พยายามหาบาลานซ์ของโลกมืดและโลกสว่างให้เจอ เพื่อค้นพบตัวเองเหมือนเดิมค่ะ สำหรับเอ็มวีเวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีการสาดสีและทำให้เอ็มวีดูโมเดิรน์ ดูโลกอนาคตต่างจากความคลาสสิคใคเวอร์ชั่นเกาหลีอย่างมาก สร้างความตรงข้ามให้กับเอ็มวีทั้งสองเว่อร์ชั่นเป็นอย่างดี

MV BS&T (Japanese ver)
Blood Sweat Tears เวอร์ชั่นเกาหลี
MV BS&T (Japanese ver)
Blood Sweat Tears เวอร์ชั่นญี่ปุ่น

สำหรับความสัมพันธ์ของทั้งสองเวอร์ชั่น เราว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอาจจะเป็นตรงข้ามจากเวอร์ชั่นเกาหลีที่เหมือนทุกคนอยู่ในสวรรค์หรือโลกสว่างแล้วค่อยๆตกลงไปในความมืด เช่นตอนจบที่ปีกนางฟ้าเป็นสีดำ หรือวีที่กระโดดลงจากระเบียง ส่วนเว่อร์ชั่นญี่ปุ่น มันเหมือนเป็นเวอร์ชั่นนรก โลกมืดแล้วค่อยๆ สว่างขึ้นมานิดนึง เหมือนตอนที่วีเดินออกจาผ้าแล้วไปที่ระเบียง หรือตอนที่จีมินก็โฮปเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นรูปวาด จีมินที่เจอตัวเอง ฉากจินที่เหมือนมีหลุมขึ้นมาเป็นทางออก เอ็มวีให้อารมณ์เหมือนหลายๆคนหลุดพ้นจากอะไรบางอย่าง

หรือไม่งั้น เราว่าจริงๆเว่อร์ชั่นยุ่นอาจจะเป็นภาคต่อจากเกา เพราะจริงๆแล้วในเว่อร์ชั่นเกาหลี จบด้วยประโยคนี้ของม่อน

“He too was a tempter.
He too was a link to the second, the evil world with which I no longer wanted to have anything to do.

ประโยคนี้พูดถึงการพยายาจะหนีออกมาจากโลกปีศาจและโลกมืด สำหรับ He ในที่นี้ตัวเอกในเรื่องอย่าง Sinclair พูดถึง Damien ที่เหมือนเป็นเพื่อน/ตัวตนของตัวเองในจิตใจ โดยรวมๆเป็นประโยคที่บอกว่า คนที่คิดว่าดีที่จริงๆอย่าง Damien ก็ไม่ดีหรอก ก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกปีศาจ และฉันเองก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรกับโลกใบนั้นอีกแล้ว ในหนังสือประโยคนี้ต่อไปอีกว่า ฉันจะกลับไปสู่โลกของฉันเอง เหมือนเป็นประโยคที่บอกว่ากำลังจะสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาแล้วนะ

จากประโยคนี้เราเลยคิดว่าหรือว่าเวอร์ชั่นเกาจะเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก นางฟ้าเป็นปีศาจ อารมณ์ fallen angels  และในเว่อรืชั่นญี่ปุ่จะเป็นการเปลี่ยนจากเว่อร์ชั่นปีศาจไปสู่การเป็นตัวเอง สร้างโลกของตัวเองที่ไม่ใช่ทั้งโลกสว่างและโลกมืดออกมาได้สำเร็จ

รูปวาด The Fall of the Rebel Angels  

MV BS&T (Japanese ver)

สัญลักษณ์ต่างๆใน เว่อร์ชั่นญี่ปุ่นยังเหมือนกับในเว่อร์ชั่นเกาหลีทุกอย่างค่ะ เริ่มจากรูปวาด The Fall of the Rebel Angels โดย Pieter Bruegel ซึ่งเป็นรูปที่จินจ้องมองด้วยความสงสัย โดยรูปนี้เป็นฉากการต่อสู้บนสวรรค์ระหว่างนางฟ้าสายมืดอย่างลูซิเฟอร์ที่กบฎต่อต้านพระเจ้า กับนางฟ้าสายสว่าง โดยนางฟ้าสายมืดที่พ่ายแพ้ก็จะกลายซาตานและร่วงลงไปค่ะ

รูปนี้แสดงถึงการต่อสู้กันระหว่างโลกมืดและโลกสว่างที่เป็นคอนเซปหลักของเอ็มวีทั้งหมดของบังทันออกมาได้ดีมากๆ ย้อนกลับไปในเอ็มวีเก่าๆ อย่าง run และ I need u ก็เป็นเรื่องราวการเติบโตของวัยรุ่นและการพยายามจะเลือกระหว่างโลกมืดกับโลกสว่างของตัวเอง จินเองก็คงได้แต่มองรูปแล้วก็สงสัยว่าคนอื่นๆที่กำลังเติบโตและเจอความขัดแย้งระหว่างโลกมืดและโลกปีศาจจะทำอย่างไร จะตกลงไปเป็นซาตานหรือว่าจะสร้างโลกของตัวเองออกมาได้ในที่สุด

รูปภาพนี้ทำให้เราคิดต่อไปว่ามันอาจจะเป็นตัวกำหนดธีมของ BS&T นางฟ้าที่กลายเป็นปีศาจ จากนั้นปีศาจที่พยายามหลุดออกมาจากโลกมืดที่ครอบงำแล้วกลายมาเป็นตัวเองในที่สุด

Temptations – แอปเปิ้ล ยาพิษ ผ้า

อย่างที่บอกว่าเอ็มวียังคงเล่าเรื่องคล้ายๆกับในเว่อร์ชั่นเกาหลี แอปเปิ้ลแดง ยาพิษสีเขียว ยังคงถูกนำมาใช้เป็นตัวเเทนของสิ่งยั่วยุ temptation ต่างๆที่ทำให้เราตกลงไปในโลกมืดของตัวเอง

เริ่มต้นโดยม่อนที่บังคับให้จองกุกดื่มยาพิษ ผิดกับในเว่อร์ชั่นเกาหลีที่จองกุกเลือกทานเอง

MV BS&T (Japanese ver)

สำหรับแอปเปิ้ลก็เป็นตัวแทนของบาปและความชั่วร้าย ในไบเบิ้ล แอปเปิ้ลก็เป็นตัวแทนของบาป อดัมกับอี๊ฟไปทานแอปเปิ้ลที่เป็นผลไม้ต้องห้าม พระเจ้าเลยลงโทษให้ทุกคนที่เกิดมามีบาปติดตัว และในนิทานหลายๆเรื่องแอปเปิ้ลก็ถูกใช้แสดงความหมายนี้เช่นกัน สำหรับในเอ็มวี จีมินก็เล่นกับแอปเปิ้ลมาหลายเอ็มวีแล้วตั้งแต่ใน teaser เพลง Lie และใน BS&T ทั้งสองเว่อร์ชั่น

วียังคงติดอยู่กับม่านๆ ผ้าของตัวเองที่ปิดตาไว้ คงเเสดงถึงการติดอยู่บาปหรือโลกมืดเช่นกัน

ในเอ็มวีนี้ก็เหมือนในเว่อร์ชันเกาหลี ทุกคนเจอบาปของตัวเองผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ แต่ที่แตกต่างกันคือในเว่อร์ชั่นญี่ปุ่นทุกคนดูจะหลุดพ้นจากบาปของตัวเองมาได้ค่ะ ในเว่อร์ชั่นเกาหลีเองตอนจบมีแต่คนร้องไห้ เหมือนยังไม่หลุดพ้น แต่ตอนนี้ทุกคนดูจะหนีออกมาจากโลกมืดพวกนั้นได้สำเร็จค่ะ

เช่น จองกุก ที่พยายามอ้วกออกมา ตรงนี้ยังไม่ค่อยแน่ใจตอนที่ยุนกิพยายามห้ามจองกุกเท่าไหร่ แต่เห็นด้วยกับหลายๆทฤษฎีว่ามันเป็นสลับหน้าที่กันเพื่อเทียบกับใน Run ที่จองกุกเป็นคนห้ามยุนกิ

ต่อมาก็เป็นวีที่วิ่งหนีออกจากผ้าของตัวเองได้

ส่วนตอนที่วีโดนชกแล้วพี่จินขอโทษนี่เราไม่แน่ใจว่าคืออะไร แถมยังมีตอนที่วีเหมือนแทงพี่จินอีก อันนี้เดามั่วสุดๆ คือ เราคิดไปถึงประโยคนี้ในเดเมี่ยนที่บังทันเอามาใช้หลายรอบ

“The bird fights its way out of the egg. The egg is the world. Who would be born must first destroy a world. The bird flies to God. That God’s name is Abraxas.”

เพื่อที่จะออกจากไข่ นกจะต้องทำลายโลก (ไข่) เสียก่อน อันนี้คิดว่าพี่จินพยายามจะช่วยวีตอนที่ชกวี แต่วีก็ทำร้ายพี่จินกลับ แล้วเลือกที่จะวิ่งออกมาจากผ้าๆแล้วหลุดออกมาจากบาปหรือโลกมืดของตัวเองได้ เราว่าเอ็มวีอาจจะต้องการสื่อว่า ถ้าอยากจะเป็นตัวเองก็จะต้องทำลายทุกอย่างเสียก่อน ไม่ว่าจะด้านดี (อย่างพี่จิน) หรือด้านเลวก็ตาม อันนี้มีความแถเยอะมากๆ

มาที่จีมินที่วิ่งหนีออกมาแล้วมาเจอตัวเองนั่งอยู่

ฉากของจีมินค่อนข้างซับซ้อนมาดูกันช้าๆระหว่างจีมินทั้งสองคนนะคะ

คนแรกนั่งอยู่ในห้อง ถือเเอปเปิ้ล จะทานดีมั้ย ?

อีกคนที่เคยถูกชูก้าปิดตาวิ่งออกมา กัดแอปเปิ้ลเรียบร้อยแล้วด้วย

สุดท้ายก็วิ่งมาเรื่อยๆ จนเจอจนตัวเองในห้อง

คนที่อยู่ในห้องโดนปิดตา

อีกคนกระเด็นออกไปเลย

พาร์ทของจีมินเราว่าก็เหมือนกับของคนอื่นๆ ที่พูดถึงการหลุดพ้นจากบาปหรือโลกมืดของตัวเอง แต่ของจีมินเรามองว่ามันเป็นการค้นพบตัวเองค่ะ จีมินที่คนที่อยู่ในห้องกำลังลังเลว่าจะกัดแอปเปิ้ลดีมั้ย แต่อีกคนกัดไปแล้ววิ่งหนีแต่ดันมาเจอตัวเองที่ยังไม่กัด ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะแปลว่าอะไร แต่อาจจะเป็นการรวมกันระหว่างร่างของตัวเองในโลกมืดกับโลกสว่างมั้งค่ะ กัดกับไม่กัด สุดท้ายแล้วบู้มมม เกิดตระหนักรู้อะไรบางอย่างกระเด็นและหลุดออกมาจากทั้งสองโลกเพื่อสร้างโลกของตัวเองค่ะ

ธนูและสี

ธนูของเจโฮป อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ จากฉากที่ตอนแรกอยู่ในห้องสีฟ้า ธนูที่ยิ่งออกเป็นสีๆอาจจะแสดงถึงการปลดปล่อยเหมือนคนอื่น แบบว่าอารมณ์ Who would be born must first destroy a world. The bird flies to God. เข้าธีมกับของคนอื่น เพราะตอนย่ิงออกไปแล้วมองว่าสุดท้ายกลายเป็นภาพ The Fall of the Rebel Angels เหมือนยิงแล้วนำไปสู่การออกไปยังโลกที่ทั้งมืดและสว่าง มีความตรงข้ามและขัดแย้งของทั้งสองโลก

ฉากแตกสลาย

จากนั้นก็เป็นฉากของจินที่หลุดออกมาจากที่ที่ยืนอยู่ได้ ทุกอย่างแตกสลาย และก็มีฉากของคนอื่นที่ดูเหมือนว่าได้ทำลายทุกอย่างแล้วพร้อมจะเกิดใหม่กันแล้ว

MV BS&T (Japanese ver)

เหมือนฉากนี้ที่อาจจะเป็นการออกมาจากไข่แล้วกลายเป็นนกที่บินออกไป ตามประโยคที่ยกไปแล้ว

MV BS&T (Japanese ver)

“The bird fights its way out of the egg. The egg is the world. Who would be born must first destroy a world. The bird flies to God. That God’s name is Abraxas.”

ฉากจบ – ไฟแชก 

MV BS&T (Japanese ver)

มาถึงฉากจบที่เราบอกไปแล้วว่ามันทำให้เราคิดว่าเรื่องราวใน BS&T เป็นแค่ความคิดของตัวละครจากเอ็มวีเก่าๆ อารมณ์แบบว่าพี่จินหนีไปจัดการปัญหาของตัวเองมาแล้วก็มาเจอม่อนอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเรื่องในเอ็มวีเก่าจะจบหรือว่ามีต่อในเอ็มวีหน้า

MV BS&T (Japanese ver)

ที่น่าสนใจที่สุดในเอ็มวีนี้ก็คือการให้ไฟแชกค่ะ เรื่องไฟกับเอ็มวีทั้งหมดเราเคยเขียนไปแล้วในบทความเก่า แต่ว่าเพิ่งได้ไปอ่านเพิ่มเติมมาจากบทความที่เขาวิเคราะห์ Damien ผ่านจิตวิทยาแล้วเจอมาว่าในเรื่อง Damien ก่อนที่ตัวเอกจะค้นพบตัวเอง เขาได้ฝึกที่จะบูชาไฟ เพราะเชื่อว่าการบูชาไฟจะเป็นการนำไปสู่พระเจ้า Abraxas ที่พูดถึงหลายครั้งในหลายๆเอ็มวี

อธิบายก่อนนะคะว่า Abraxas เป็นพระเจ้าที่ไม่ได้อยู่ในทั้งโลกมืดและโลกสว่างแต่ว่าอยู่ทั้งสองโลกค่ะ ตอนที่ตัวเอกใน Damien เริ่มหันมานับถือ Abraxas แทนพระเจ้าของทางศาสนาคริสต์ ตัวเอกเริ่มต้นที่จะทิ้งทั้งโลกมืดและสว่างเพื่อสร้างโลกของตัวเองค่ะ ต่อมาตัวเอกก็เริ่มบูชาไฟ เพราะเชื่อว่าการบูชาไฟเป็นการเข้าถึงพระเจ้า Abraxas เป็นการเผาโลกมืดในจิตใจตัวเองแล้วแล้วหลอมรวมเข้ากับโลกสว่างสร้างตัวตนขึ้น

เพราะงั้นแล้วการให้ไฟแชกอาจจะหมายถึงการที่พี่จินให้ม่อน (หรืออาจจะเป็นการเชิญชวนวัยรุ่นๆทุกๆคน) มาเผาโลกมืดและโลกสว่างแล้วถึงเวลามาสร้างโลกของตัวเราเองออกมานั่นเอง

ไม่รู้ว่าการให้ไฟแชกจะเป็นการทิ้งปมไว้สำหรับเอ็มวีต่อไปรึเปล่า ถ้านี่เป็นฉากจบจริงๆของเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เอ็มวีเก่าๆ ก็เป็นการจบที่คมคายมากๆ เหมือนทิ้งคำถามให้คนดูว่า แล้วตัวคุณล่ะ ? พร้อมจะจุดไฟเผาทุกอย่างเพื่อเติบโตและสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาหรือยัง ?

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> BTS Anan Magazine 2019

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เว็บดูบอลสดฟรี

>>>>> แทงบอล