Q&A BTS Pt.1

Q&A BTS Pt.1 บทสัมภาษณ์จาก ARMY OFFICIAL FAN CLUB 2020

Q&A BTS Pt.1 แปลบทสัมภาษณ์จาก ARMY OFFICIAL FAN CLUB 2020 

Q&A BTS Pt.1 แปลบทสัมภาษณ์จาก ARMY OFFICIAL FAN CLUB 2020 โดยต้องทำความรู้จักก่อนว่า GLOBAL OFFICIAL FANCLUB ARMY MEMBERSHIP คืออะไร?

คือ การสมัครเป็นแฟนคลับของ BTS อย่างเป็นทางการโดยจะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับอาร์มี่ ที่จะได้ใกล้ชิดกับศิลปินมากยิ่งขึ้นค่ะ และจะมีเซตของพรีเมี่ยม (Kit) ที่สั่งทำพิเศษสำหรับอาร์มี่แต่ละคนโดยเฉพาะส่งให้ถึงบ้าน โดยแต่ละเดือนจะมีคอนเซปและธีมที่แตกต่างกันไปให้แฟนคลับได้ลุ้น โดยรอบนี้เราจะแปลสามหนุ่มอย่าง RM / JIN และ SUGA กันก่อน

Q&A BTS Pt.1

Q&A BTS Pt.1 – RM

หนังสือประเภทไหนที่คุณมักอ่าน?

RM: ผมมักชอบนวนิยายครับ แต่ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือเกี่ยวศิลปะและปรัชญาเพื่อเป็นความรู้ให้กับตัวผมเอง

อะไรคือเกณฑ์ในการเลือกหนังสืออ่านสำหรับคุณ?

RM: จากความสงสัยใคร่รู้อย่างเดียวเลยครับ เล่มที่ผมรู้สึกว่าผมต้องอ่านมัน

คุณไปร้านหนังสือบ่อยมั้ยตอนอยู่โรงเรียน?

RM: ผมไปร้านหนังสือบ่อยครับและห้องสมุดก็เช่นกัน ห้องสมุดสาธารณะมันได้รับการดูแลอย่างดีและผมสามารถยืมหนังสือได้สิบเล่มในสุดสัปดาห์ ดังนั้นผมและครอบครัวไปที่นั่นและยืมหนังสือกันคนละสิบเล่มครับ

คุณคงชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก

RM: ใช่ครับ ผมไม่ได้มีโอกาสอ่านมาพักใหญ่ แต่ช่วงนี้ผมมีเวลาพักผ่อนดังนั้นผมอ่านเยอะมากเลยครับ

ถ้าคุณมีโอกาสได้เขียนหนังสือ คุณจะเขียนเกี่ยวกับอะไร?

RM: ผมไม่คิดว่าหนังสือเป็นสิ่งที่คุณจะเขียนมันแบบไม่จริงจัง… ผมจะเขียนเกี่ยวกับอะไร? อาจเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผม.. แต่เช่นนั้นแล้วมันจะเป็นหนังสือที่มีคุณค่ากันมั้ย? ผมไม่แน่ใจครับ ฮ่าๆ

ถ้าคุณเขียนอัตชีวประวัติของคุณ ในส่วนไหนของหนังสือจะเป็น “คุณในตอนนี้”?

RM: ถ้าผมเขียนอัตชีวประวัติ ผมคิดว่าผมจะเขียนเกี่ยวกับตัวของผมในตอนนี้ ไม่รู้สิครับ ผมไม่แน่ใจว่าอาชีพที่สองของผมจะคืออะไรหรือผมจะไปทำอะไร… ถ้าผมจะเขียนมันสักเล่ม ผมคิดว่าผู้คนคงอยากรู้เกี่ยวกับตัวของผมในตอนนี้ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นหน้าไหนเลยครับ (หัวเราะ)

ชื่อหนังสือของคุณจะชื่ออะไร?

RM: คือ.. ผมจะใช้ว่า “คิมนัมจุน”

และเหตุผลคือ?

RM: ผมไม่อยากให้มันฟังดูยิ่งใหญ่มากเกินไปครับ

คุณเป็นนักอ่านประเภทไหน?

RM: ประเภทที่ต้องอ่านเล่นนีงให้จบก่อนเพื่อที่จะไปอ่านเล่มถัดไป

Q&A BTS Pt.1

มีเทพนิยายเรื่องไหนที่คุณอยากอ่านอีกครั้งมั้ย?

RM: ผมอ่าน “ลูกหมูสามตัว” ประมาณเมื่อมีก่อนและผมอยากอ่านมันอีกครั้งครับ

เทพนิยายเรื่องไหนที่มีตอนจบที่คุณชื่นชอบ?

RM: ผมจำตอนจบของเทพนิยายไม่ได้ครับ… ผมจำเรื่องราวได้… ผมไม่คิดว่าผมมีเทพนิยายที่มีตอนจบที่ชอบครับ

ถ้าอย่างนั้นมีเทพนิยายที่คุณอยากรู้ว่ามันจบยังไงมั้ย?

RM: ผมอยากรู้ว่า “แฮนเซลกับเกรเทล” จบยังไงครับ

ตัวละครในหนังสือแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผ่านวิกฤต อะไรทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น?

RM: ผมคิดว่าสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของผมทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นหน่อยครับ

การกำเนิดขึ้นของ BTS อาจนับว่าเป็นเทพนิยายของคุณเองก็ได้ คุณจะบรรยายมันเป็นเทพนิยายในแบบไหน?

RM: ผมคิดว่ามันคือเทพนิยายที่ไม่ใช่เทพนิยายครับ

ถ้า BTS เป็นเทพนิยาย ตัวละครในแบบไหนที่คุณอยากถูกจดจำว่าเป็นโดยอาร์มี่?

RM: ไม่รู้สิครับ..คงจะหนึ่งในคนแคระทั้งเจ็ด? ผมอยากเป็นที่จดจำแต่ผมไม่อยากมีตัวตนมากไป

ช่วยบอกประโยคเปิดของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ BTS?

RM: กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบริษัทที่ชื่อว่า Big Hit Entertainment

เรื่องราวของ BTS และ อาร์มี่ คือ

RM: นิทานพื้นบ้าน

Q&A BTS Pt.1

ถามตอบกับ BTS – JIN

หนังสือประเภทไหนที่คุณมักอ่าน?

JIN: ผมชอบอ่านเว็บตูน

เว็บตูนเรื่องไหนที่คุณชอบ?

JIN: อันที่เรตติ้งสูง

อะไรคือเกณฑ์ในการเลือกหนังสืออ่านสำหรับคุณ?

JIN: อันที่ดังๆ (คนอ่านเยอะ)

พวกหนังสือขายดี?

JIN: อืม.. ผมไม่ได้อ่านหนังสือมากขนาดนั้น

นี่คุณคิดว่าผมถามคุณเกี่ยวกับเรื่องเว็บตูนหรอครับ?

JIN: ใช่ครับ

คุณไปร้านหนังสือบ่อยมั้ยตอนอยู่โรงเรียน?

JIN: ผมไปร้านมันฮวาบ่อยครับ ไปเช่าหนังสือมันฮวา

ถ้าคุณมีโอกาสได้เขียนหนังสือ คุณจะเขียนเกี่ยวกับอะไร?

JIN: เราทุกคนไม่ควรเขียนอัตชีวประวัติบอกว่า “นี่คือวิธีที่ผมใช้ชีวิต” หรอกหรอครับ?

ถ้าคุณเขียนอัตชีวประวัติของคุณ ในส่วนไหนของหนังสือจะเป็น “คุณในตอนนี้”?

JIN: ชีวิตตอนนี้ของผมคงเป็นจากประมาณหน้า 30 ครับ BTS เป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของชีวิตผม ดังนั้น BTS ก่อนเดบิ้วต์คงยาวมาถึงหน้า 30 และจากหน้า 31 ถึงประมาณหน้า 170 คงเป็นเวลามาจนถึงปัจจุบันครับ

มีทั้งหมดกี่หน้า?

JIN: คงจะประมาณ 200 หน้าครับ?

ดังนั้นคุณเหลืออีกประมาณ 30 หน้าต่อจากนี้?

JIN: ใช่ครับ ผมอาจมีเล่มสองก็ได้ (หัวเราะ)

ชื่อหนังสือของคุณจะชื่ออะไร?

JIN: “จิน นี่คือวิธีที่ผมใช้ชีวิต”

และเหตุผลคือ?

JIN: มันฟังดูไม่เหมือนอัตชีวประวัติหรอครับ?

คุณเป็นนักอ่านประเภทไหน?

JIN: แบบที่อ่านหนังสือจนจบ.. ผมสามารถอ่านหนังสือจนจบได้ถ้าผมพยายาม แต่ผมไม่สามารถอยู่กับมันได้นานเกินครับ

ดังนั้นคุณเลยค่อยๆอ่านทีละนิด?

JIN: อืม.. ใช่ครับ!

มีเทพนิยายเรื่องไหนที่คุณอยากอ่านอีกครั้งมั้ย?

JIN: “The Golden Axe, The Silver Axe” (เทพารักษ์กับคนตัดไม้) ผมพูดชื่อเรื่องถูกมั้ยครับ? (ถูกครับ) ผมอยากเป็นตัวละครหลักครับ

คุณจะเลือกอะไรถ้าคุณเป็นตัวละครหลัก?

JIN: ผมจะเลือกขวานทองครับ

ไม่ใช่ขวานของคุณเองหรอ?

JIN: ไม่ครับ (หัวเราะ) ผมเลือกขวานทองครับ

เทพนิยายเรื่องไหนที่มีตอนจบที่คุณชื่นชอบ?

JIN: “The Golden Axe, The Silver Axe” (หัวเราะ)

ทำไมหล่ะ?

JIN: ชายคนนี้ได้ทุกอย่างในตอนจบ มีเทพนิยายไม่มากที่จบลงอย่างมีความสุข

ตัวละครในหนังสือแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผ่านวิกฤต อะไรทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น?

JIN: ผมคิดว่าความไม่แน่นอนที่เราพบเจอก่อนการเดบิ้วต์ของเรา ทำให้เราหลงไหลทุ่มเทกับงานของเรามากขึ้นครับ

การกำเนิดขึ้นของ BTS อาจนับว่าเป็นเทพนิยายของคุณเองก็ได้ คุณจะบรรยายมันเป็นเทพนิยายในแบบไหน?

JIN: มันคงเป็นเรื่อง coming-of-age ครับ ผมหวังว่ามันจะจบลงอย่างมีความสุขครับ

ถ้า BTS เป็นเทพนิยาย ตัวละครในแบบไหนที่คุณอยากถูกจดจำว่าเป็นโดยอาร์มี่?

JIN: คุณรู้จักพวกนั้นมั้ยครับ… คุณไม่เห็นพวกเค้าในเทพนิยาย แต่เป็นตัวเพื่อนสนิทที่ฮาๆ ที่ทำให้ผู้คนหัวเราะ มีตัวละครหลักได้เพียงหนึ่งในเทพนิยาย ดังนั้นผมชอบเป็นตัวเพื่อนสนิท* นั้นมากกว่าครับ (*sidekick ~เพื่อนสนิท/คนสนิทคู่ใจค่อยสนับสนุนตัวเอกประมาณนั้นค่ะ)

ตัวละครที่สนับสนุนทุกคน?

JIN: ถูกต้องเลยครับ มันเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุด!

ช่วยบอกประโยคเปิดของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ BTS?

JIN: (คิด) คิมซอกจินเท่มาก

เรื่องราวของ BTS และ อาร์มี่ คือ

JIN: เรื่องราวที่มีตอนจบอันแสนสุข

Q&A BTS Pt.1

แปลถามตอบกับBTSจากนิตยสารพิเศษปี2020 – SUGA

หนังสือประเภทไหนที่คุณมักอ่าน?

SUGA: ผมไม่มีเป็นพิเศษครับ ผมชอบนิยายและหนังสือเกี่ยวกับเศรษญกิจมาก แต่แทบไม่ได้อ่านการ์ตูนหรือบทกวีเลยครับ

อะไรคือเกณฑ์ในการเลือกหนังสืออ่านสำหรับคุณ?

SUGA: ผมอ่านอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้าผมครับ (หัวเราะ) ผมเป็นแบบนั้นตอนที่อยู่โรงเรียนเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมอ่านนิยายเยอะมากเมื่อตอนผมเป็นนักเรียน แต่เมื่อผมโตขึ้น ผมหันมาสนใจในวรรณกรรมและปรัชญามากขึ้นครับ

คุณไปร้านหนังสือบ่อยมั้ยตอนอยู่โรงเรียน?

SUGA: ผมเป็นหนอนหนังสือ ผมเป็นนักเรียนที่อ่านหนังสือมากที่สุดในห้องสมุด ผมเป็น “นักอ่านประจำเดือน” อยู่บ้างด้วยครับ

หนังสือที่คุณจำได้ว่าอ่านในสมัยก่อนนั้น?

SUGA: แปลกอยู่ครับ ผมชอบอ่านหนังสือที่เขียนโดยคุณ Bernard Werber ผมน่าจะอ่านของหนังสือของเค้าทั้งหมด เค้าดังมากในช่วงนั้น ผมคิดว่าผมชอบ “Empire of the Ants” มากครับ หนังสือของเค้าเล่มอื่นด้วย และของคุณ Paulo Coelho “The Alchemist” ตอนที่ผมเป็นเด็ก

ถ้าคุณมีโอกาสได้เขียนหนังสือ คุณจะเขียนเกี่ยวกับอะไร?

SUGA: คงเป็นอัตชีวประวัติ? แต่ผมคิดว่าผมเด็กไปที่จะเขียนมันครับ

ถ้าคุณเขียนอัตชีวประวัติของคุณ ในส่วนไหนของหนังสือจะเป็น “คุณในตอนนี้”?

SUGA: สมมติว่าหนังสือทั่วไปมีประมาณ 300 หน้า ผมคงอยู่ประมาณหน้า 80 หรือ 90 พิจารณาจากอายุของผมครับ

ชื่อหนังสือของคุณจะชื่ออะไร?

SUGA: “มนุษย์มินยุกิ”

และเหตุผลคือ?

SUGA: เพราะผมคิดว่าผมจะมองย้อนกลับไปในชีวิตของผม และดูว่าผมนั้นเป็นแบบไหนในฐานะมนุษย์คนนึงตอนที่ผมเขียนมันครับ

คุณเป็นนักอ่านประเภทไหน?

SUGA: มันอาจฟังดูแปลก แต่เมื่อตอนผมเด็กผมเคยอ่านแบบย้อนกลับครับ ผมอ่านจากหน้าสุดท้าย ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำมัน ตอนนี้ผมเป็นเพียงนักอ่านที่ว่องไว ผมมักจดโน้ต ไฮไลท์ประโยคที่ผมชอบและอ่านผ่านๆในส่วนที่ผมไม่เข้าใจ

มีเทพนิยายเรื่องไหนที่คุณอยากอ่านอีกครั้งมั้ย?

SUGA: ผมคงเลือก “Heungbu and Nolbu” (เฮียงบุและโนลบุ) มีคนบอกผมว่าคุณจะตีความมันต่างไปเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่

เทพนิยายเรื่องไหนที่มีตอนจบที่คุณชื่นชอบ?

SUGA: คงแบบ “The Golden Axe, The Silver Axe” (เทพารักษ์กับคนตัดไม้) เรื่องส่วนใหญ่จบแบบมีความสุข โดยง่ายๆคือกรรมตามสนอง ผมต้องอ่านมันอีกครั้งครับ

แล้วมีเทพนิยายเรื่องไหนที่คุณอยากรู้ว่ามันจบยังไงมั้ย?

SUGA: ล่าสุดผมพึ่งแต่งเป็น “Puss in Boots” สำหรับการถ่ายโฟโต้ชู้ต แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องมันจบยังไง ผมควรอ่านมันอีกรอบ

ตัวละครในหนังสือแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผ่านวิกฤต อะไรทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น?

SUGA: มีบางสิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้ แม้ว่าคุณจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม ผมผ่านมามากมายตั้งแต่การเดบิ้วต์ของผม แต่นั่นทำให้ผมฝึกหนักมากขึ้น

คุณจะบอกว่าคุณพยายามหนักมากขึ้นเมื่อคุณเจอทางตัน?

SUGA: ครับ.. ผมคิดประมาณ “ถ้าผมพยายามมากขนาดนี้ พระเจ้าไม่ควรอยู่ข้างผมหรอ?” แต่หลังจากนั้นผมก็จะทำได้ดี

การกำเนิดขึ้นของ BTS อาจนับว่าเป็นเทพนิยายของคุณเองก็ได้ คุณจะบรรยายมันเป็นเทพนิยายในแบบไหน?

SUGA: เทพนิยายที่ยังไม่จบลง เรื่องราวที่ดำเนินต่อไป ปกติแล้วเทพนิยายไม่ได้มาเป็นซีรีส์ (หัวเราะ) แต่ผมอยากให้มันเป็นเทพนิยายที่ยังไม่จบลงและมีตอนจบที่แสนสุข

ถ้า BTS เป็นเทพนิยาย ตัวละครในแบบไหนที่คุณอยากถูกจดจำว่าเป็นโดยอาร์มี่?

SUGA: มีใครสักคนที่คอยช่วยเหลือตัวละครหลักในเรื่องเสมอ อย่างเช่น มีนกนางแอ่นในเรื่อง “Heungbu and Nolbu” และแมวใน “Puss in Boots”

ตัวละครประกอบ?

SUGA: ครับ แต่ผมรู้สึกเหมือนว่านกนางแอ่นในเรื่อง “Heungbu and Nolbu” เป็นตัวละครหลักเช่นกัน ในเทพนิยายมันไม่มีบทนำหรือบทประกอบ ผมคิดว่าตัวละครทุกตัวนั้นคือตัวหลัก ดังนั้นผมคิดว่ามันถูกต้องแล้วแบบนี้ ในฐานะที่พวกเค้าคอยสนับสนุนพวกเราอยู่เสมอ

ช่วยบอกประโยคเปิดของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ BTS?

SUGA: ผมคิดว่ามันควรเริ่มด้วย “นนฮยอนดง โซล 2010” (ย่านที่ตั้งแรกของบฮ.)

เรื่องราวของ BTS และ อาร์มี่ คือ

SUGA: เรื่องราวที่ไม่มีวันจบลง

Suga วง BTS เผยว่าคนเราควรจะพูดคุยเรื่องปัญหาสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้นและระบายมันออกมา

เป็นที่รู้กันดีในหมู่ ARMY ว่า ชูก้า BTS มักจะปลดปล่อยอารมณ์อันหลากหลายของเขาผ่านการเขียนเพลงมานานแล้ว รวมไปถึงเรื่องราวโรคซึมเศร้าของเขาที่ปรากฏอย่างชัดเจนในเพลง The Last จากอัลบั้มเดี่ยวของชูก้า

ล่าสุดชูก้าได้พูดถึงเรื่องปัญหาสุขภาพจิตกับนิตยสาร Rolling Stone ที่เพิ่งจะปล่อยปกเวอร์ชันดิจิทัลภาพเดี่ยวของสมาชิกวงทั้ง 7 คน พร้อมบทสัมภาษณ์ตัวต่อตัวเมื่อไม่นานนี้ โดยเขาได้เปิดใจว่า เขาต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตของตัวเองด้วยการปลดปล่อยอารมณ์อันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นผ่านการเขียนเพลง สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีกับการแต่งเพลงเหล่านี้คือการที่เขาสามารถสื่อสารกับแฟนเพลงและปลอบประโลมผู้ฟังได้ด้วยบทเพลงของเขาเอง

“ผมคิดว่าสำหรับทุกคน อารมณ์พวกนั้นไม่ใช่อะไรที่ควรจะเก็บซ่อนเอาไว้ พวกเขาต้องพูดคุยเกี่ยวกับมันและระบายสิ่งเหล่านั้นออกมา”

ชูก้ายังเผยอีกว่า ปัญหาสุขภาพจิตของเขายังคงพัดผ่านมาบ้างเป็นบางเวลา แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ตลอด

“ผมรู้สึกสบายใจและรู้สึกดีมากในตอนนี้ แต่อารมณ์ด้านลบเหล่านั้นจะผ่านมาและผ่านไปอยู่เสมอ มันมักจะกลับเข้ามาในวงจรของผมทุกปีหรือปีครึ่ง”

นอกจากนั้นเขายังพูดถึงการแต่งเพลงของตัวเอง โดยชูก้ามักจะเริ่มจากการแต่งเมโลดี้ ต่อด้วยท่อนแรป และปิดท้ายด้วยการแต่งเนื้อร้อง ได้ฟังแบบนี้แล้วเชื่อว่าเหล่า ARMY ต่างก็ตั้งตารอคอยผลงานเดี่ยวชิ้นต่อไปของชูก้ากันอย่างใจจดใจจ่อแน่นอน

RM BTS : “เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อกลับมาอยู่รวมกันให้เร็วที่สุด และโชว์ให้คุณเห็นบางอย่างว่ามีแค่พวกเราเท่านั้นที่ทำได้”

***(บทสัมภาษณ์จากรายการข่าว KBS ‘News 9)***

– ด้วยภาพลักษณ์ของผม และการที่ผมเป็นตัวแทนของวงในการพูดอยู่บ่อย ๆ หลายคนมักจะคิดว่าผมอายุมากที่สุดในวง แต่ท่ามกลาง 7 คนนี้ ผมอยู่เป็นลำดับที่ 4 อยู่ตรงกลางของวง

– (พูดถึงการไปส่งจินเกณฑ์ทหาร) จินไม่ค่อยพูดอะไรมาก ผมคิดว่าเขาค่อนข้างมีความคิดอยู่มากมาย และเมื่อพวกเราไปถึงที่ค่ายฝึกทหาร เขาพูดแค่ว่า เขาจะไปและกลับมาอย่างดี เขาจะไปมีประสบการณ์ก่อนเป็นคนแรก และจะมาบอกให้พวกเรารู้ว่าเป็นอย่างไร ผมแค่ให้กำลังใจเขา และขอให้เขารักษาสุขภาพ ผมขอให้เขาแสดงความแข็งแกร่งที่เขาเป็นอยู่ เขาเป็นคนที่แข็งแรงเสมอมา

– มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พาพวกเรามาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทั้งในฐานะวงและเดี่ยว ผมอยากจะบอกว่า ท้ายที่สุดพวกเรากำลังก้าวไปสู่ chapter ใหม่ มันเป็นช่วงเวลาที่เชื่อมต่อระหว่างการมาและการรอคอย ผมอยู่ในประสบการณ์ของการเปิดหน้าใหม่สำหรับ BTS

– (พูดถึงการจัดไลฟ์คอนเสิร์ตใน hall เล็ก ๆ ของนัมจุน) นัมจุนบอกว่า เขานึกถึงสถานที่ซึ่งน้ำลายสามารถกระจายไปอยู่เบื้องหน้าผู้ชมได้ สามารถที่จะหยิบขวดน้ำและยื่นส่งไปให้พวกเขาได้ โดยปกติเมื่อเราจัดในสถานที่ใหญ่ ๆ จะมีรั้วมากั้น หรือมีความห่างไกลกันเพื่อความเป็นระเบียบและความปลอดภัย แต่การจัดไลฟ์ครั้งนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะได้เห็นแม้กระทั่งรูขุมขนและทุกสิ่งทุกอย่าง สำหรับบางคนที่สงสัยว่าคนอย่าง RM จะแสดงในสถานที่ 200 คนได้อย่างไร วีดีโอถูกอัพบนเว็บไซต์แล้วครับ

– (พูดถึงอาร์มี่ที่รอคอยจนกระทั่งปี 2025) มีอาร์มี่เกาหลีและต่างชาติจำนวนนับไม่ถ้วนที่เชื่อใน BTS ผมก็ยังคงเชื่อว่าพวกเขากำลังดูอยู่ตอนนี้

– เมมเบอร์ปกติไม่ค่อยชอบการสักเท่าไร แต่เป็นครั้งแรกที่พวกเราสักรอยมิตรภาพ พวกเราสักเลข 7 ไว้ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่แตกต่างกัน

– เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อกลับมาอยู่ร่วมกันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และโชว์ให้คุณเห็นบางอย่างว่ามีแค่พวกเราเท่านั้นที่ทำได้

– มีสำนวนดัง เขาบรรยายไว้ว่า “คุณผู้ซึ่งสวมใส่มงกุฎอยู่ จะต้องอดทนต่อน้ำหนักของมงกุฎนั้น” คนจำนวนมากสามารถที่จะจินตนาการออก แต่น้ำหนักมงกุฎที่ BTS สวมใส่นั้น ค่อนข้างหนักมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าและมีคุณค่ามาก ผมพยายามที่จะระลึกเสมอว่า ผมเป็นคนที่โชคดีมากและเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความรักและการชื่นชมจากผู้คนมากมาย ผมต้องการที่จะยอมรับในโชคชะตานี้ ดังนั้น…เป็นการดีกว่าที่จะแบกน้ำหนักของมงกุฎแล้วเอาแต่โศกเศร้าเสียใจและดิ้นทุรนทุราย ผมต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าผมพร้อมเผชิญหน้าในโชคชะตานี้

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Q&A BTS Pt.2

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> โหลดเกมส์