Weverse Magazine Jin

Weverse Magazine Jin แปลบทสัมภาษณ์ของจิน BTS ในนิตยสารปี 2021

Weverse Magazine Jin : “ผมหวังเพียงแค่ให้คนที่ชื่นชอบผมมีความสุขก็เท่านั้นครับ”

Weverse Magazine Jin

เมื่อคุณพยายามพูดอย่างตรงไปตรงมากับใครสักคน มันไม่ง่ายเสมอไปที่จะทําตัวเป็นมิตรและนึกถึงผู้อื่นใน เวลาเดียวกัน [แต่] จินคือทั้งหมดนั้น

“Butter’ ยังคงครองที่ 1 Billboard Hot 100 ต่อไป รู้สึกอย่างไรบ้าง?

Jin: ผมยังคงไม่รู้ซึ้งถึงกระแสการตอบรับว่ามันเป็นยังไง เพราะตัวผมเองก็สามารถไป-กลับได้แค่ที่ทํางานเท่านั้น เนื่องจากว่างานประกาศรางวัลทั้งหมดถูกจัดขึ้นทางออนไลน์ พวกเราจึงไม่สามารถไปรับรางวัลใด ๆ หรือไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตนเองหรืออะไรก็ตามได้เลย และตัวผมเองก็ไม่ได้มีการใช้อินเทอร์เน็ตบ่อย ๆ ด้วย ดังนั้นผมจึงรู้สึกกดดันน้อยลง และสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาการโปรโมทได้ดีขึ้นหน่อย แค่เราทําได้ดีในระหว่างนี้ ผมก็ดีใจแล้วครับ

Weverse Magazine Jin บทสัมภาษณ์ Pt.1 : ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมทําได้ดีกว่าตอนนั้นครับ

Weverse Magazine Jin

  • ในบทสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับทาง weverse Magazine คุณได้พูดถึงความกดดันที่คุณรู้สึกหลังจากที่ Dynamite ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 แต่ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถก้าวผ่านมันมาได้แล้ว ระดับนึง

Jin: คุณสามารถพูดได้ว่าผมทําให้สมองโปร่งหรือว่าผมก้าวผ่านอะไรมาแล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมทําได้ดีกว่าตอนนั้นครับ ตอนนี้ผมก็ทํากิจวัตรประจําวันตามปกติ ด้วยความที่ตัวเองก็คุ้นชินกับชีวิตที่ต้องเดินทาง แม้ว่าบางครั้งตารางงานของผมจะไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่ก็ตามครับ เมื่อผมจําเป็นต้องทํางานต่อไปโดยที่ไม่มีวันหยุดเลย บางครั้งผมก็เหนื่อยมากนะครับ เพราะมันมีภารกิจของตัวเองที่ผมต้องทําหลังเลิกงาน ก่อนที่จะเข้านอน แต่ตอนนี้หลังจากที่อยู่กับกิจวัตร/วงจรนี้ไปสักพัก ผมก็สุขภาพดีขึ้นและผมเองก็ได้นอนมากขึ้นหน่อยด้วยครับ

  • ก่อนที่ Butter’ ถูกปล่อยออกมา คุณได้ปล่อยเพลงเดี่ยว ‘Abyss ออกมาก่อน คุณพูดเกี่ยวกับปัญหาทางจิตใจ ที่คุณเผยผ่านเนื้อเพลงและสิ่งที่คุณเขียนเกี่ยวกับตัวเพลงอย่างเต็มใจ การปล่อย Abyss ส่งผลต่อคุณอย่างไรบ้าง?

Jin: ผมรู้สึกโล่งอกครับ ผมต้องการให้แฟน ๆ วาดภาพตัวผมในแบบที่ผมมีความสุข และผมไม่ต้องการให้พวก เขามารู้ว่าผมรู้สึกแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันจําเป็นแล้วล่ะที่จะต้องพูดถึงสิ่งที่อยู่ภายในตัวผม นี่ก็สองสามปีแล้ว ที่ผมได้แสดงมันออกมาผ่านบทเพลง หรือได้อธิบายเกี่ยวกับมัน ผมเลยรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.2 : ผมไม่เคยมีโอกาสได้เจอ/รู้จักกับตัวเองเลย

Weverse Magazine Jin

  • มีเนื้อเพลงส่วนหนึ่งที่ร้องว่า อยากรู้จักคุณมากกว่านี้ในวันนี้” ซึ่งคาบเกี่ยวกับประโยคที่ว่า ผมกลั้นหายใจและเข้าสู่มหาสมุทรของตัวเอง เพื่อสร้างบทเพลงที่เหมือนกับว่าคุณกําลังพบปะกับตัวตนข้างในตัวคุณอย่างงั้นเลย

Jin: แม้ว่าผมจะไม่รู้จักตัวเองดีพอ แถมตอนนั้นผมก็รู้สึกหดหูใจด้วย และนั่นคือวิธีที่ผมเลือกที่จะเผชิญจุดนั้นของตัวเองครับ ผมไม่เคยมีโอกาสได้เจอ/รู้จักกับตัวเองเลย ผมแค่รู้สึกเหมือนกําลังจมอยู่ในมหาสมุทรของตัวเอง แล้วกลับมาเดินเล่นที่ชายหาดอ่ะครับ

  • มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบ แต่แค่การพยายามเจาะลึกลงไปในที่ที่มีคําตอบนั้น ก็ดูเหมือนจะส่งผลดีต่อคุณแล้วนะ

Jin: ผมกําลังพยายามอยู่ครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าการทําแบบนั้นมันเหมาะกับตัวผม แต่ถ้าหากมันไม่ได้ช่วยอะไร ผมก็จะลองวิธีอื่นๆ ต่อไปครับ ถ้าผมกําลังตกอยู่ในช่วงที่ยากลําบาก ผมก็สามารถขอเวลาหยุดจากค่ายเพื่อไปทําอย่างอื่นได้ ผมรู้สึกว่าแค่การได้ทําเช่นนั้น มันก็สามารถช่วยตัวผมได้นิดนึงแล้วนะครับ

  • สไตล์การร้องเพลงของคุณในเพลงนั้น เกี่ยวข้องกับข้อความที่คุณต้องการจะสื่อหรือไม่? คุณพยายามเปิดเผยปัญหาที่คุณมีอย่างตรงไปตรงมา และแก้ปัญหาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และตัวบทเพลงก็ได้เผยถึงอารมณ์ความรู้สึก ของคุณอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกับเนื้อเพลงเลย

Jin: ผมควบคุมทิศทางและการเรียบเรียงเพลงโดยรวมร่วมกับคุณ Kye Bumz00 หนึ่งในโปรดิวเซอร์ และทางคุณ Pdogg ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์อีกท่านหนึ่งก็มากำกับอีกทีตอนที่ผมเข้าอัดเสียงครับ พวกเราตัดสินใจกันว่าผมจะใช้สัญชาตญาณของตัวเอง และไม่พยายามทําให้มันฟังดูเริ่ดหรูหรืออะไรก็ตาม สําหรับเนื้อเพลงก็เช่นกันครับ ผมชื่นชอบเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างสงบนิ่ง ตรงไปตรงมา ทั้งตอนที่ตัวผมร้อง และตอนฟังเลยครับ

  • แล้ว ‘Butter’ ล่ะ? แม้ว่ามันจะตรงไปตรงมาเหมือนกับ ‘Abyss ความรู้สึกที่ถูกแสดงออกมานั้น ดูน่าสนุกสนานกว่า

Jin: จริง ๆ แล้ว บางครั้งผมก็คิดนะครับว่ามันจะดีขนาดไหนถ้าหากผมได้ร้องเพลงแบบนี้อย่างเดียว – ยกเว้น ท่อนคอรัส (หัวเราะ) คือว่า ทุก ๆ เพลงที่เราร้องนั้น มันจะต้องมีการใช้เสียงสูง ถ้าหากคุณเอาท่อนคอรัสของ เพลงนี้ออกผมคิดว่า ไม่ว่าท่าเต้นจะหนักแค่ไหน ผมก็สามารถร้องเพลงนี้แบบไลฟ์คนเดียวได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.3 : มันทําให้ผมมีความสุขที่ได้อวดใบหน้าที่หล่อเหลาของผมได้เท่าที่ใจอยาก

Weverse Magazine Jin

  • คุณร้องเพลง ‘Butter’ โดยใช้ระดับเสียงที่สูงและเบา คุณต้องใช้ความคิดเกี่ยวกับวิธีการแสดงออกในส่วนนั้นไว้มากแน่เลย

Jin: ผมรู้สึกกดดันเพราะโน้ตในคอรัสนั้นสูงเป็นพิเศษครับ ผมเลยใส่พลังทั้งหมดลงไปในการร้อง แต่จริง ๆ แล้ว ผมกลับลงเอยด้วยการใช้พลังมากเกินไปในโวคอลของผม ผมจึงคิดว่าตัวผมควรจะต้องผ่อนคลายและทําใจ ให้สบาย [กว่านี้] ครับ ตอนที่พวกเราทําการแสดงครั้งแรก ผมได้ลืมเรื่องนั้นไปหมดเลย และใส่พลังเข้าไปที่เสียงร้องของตัวเอง ผมรู้สึกประหม่าสําหรับการแสดงทุกครั้งนะครับ

แต่บางอันก็ทําให้ผมรู้สึกกังวลเป็นพิเศษ ผมจะรู้สึกแบบนี้ในทุก ๆ ครั้งที่แสดงข้างในผมจะแบบ เอาล่ะ-ซอกจิน นายบอกว่าจะทําตัวสบาย ๆ ไง จําได้มั้ย? อย่างไรก็ตาม มันก็ยังดีที่ผมได้โชว์อะไรมากมายใน Butter ครับ คุณทราบใช่ไหมล่ะครับว่าผมหล่อ? (หัวเราะ) มันทําให้ผมมีความสุขที่ได้อวดใบหน้าที่หล่อเหลาของผมได้เท่าที่ใจอยาก และยังสามารถแสดงให้คุณเห็นถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสามารถทําได้ด้วย ผมต้องการแสดงทั้งหมดนี้ในการแสดงให้เร็วที่สุดเลยล่ะครับ

  • “Butter’ เริ่มต้นขึ้นด้วยการที่คุณทําท่าทางด้วยมือของคุณในขณะที่มองเข้าไปในกล้องอย่างร่าเริง ฉัน จินตนาการว่าคุณคงจะสนุกกับการเตรียมตัวสําหรับการแสดงเป็นอย่างมากแน่เลย

Jin: แต่การฝึกซ้อมเป็นภาระจริง ๆ นะครับ โดยปกติแล้ว เมื่อพวกเราซ้อมกัน ผมจะเป็นคนที่เรียนรู้ท่าเต้นช้า ผมเลยไม่ค่อยเก่งอ่ะครับ และตอนที่ผมซ้อมกับผู้กํากับการแสดง คุณครูชนซองดึก ตอนแรกเขาก็กังวลมาก มันยาก – เขาจะทํามันได้ไหมนะ? เขารู้สึกกังวลมากจนกระทั่งถึงวันที่พวกเราขึ้นแสดงกันครั้งแรกเลยครับ แต่เมื่อเขาได้เห็นผมอีกครั้ง

หลังจากที่แสดง ‘Butter เป็นเวลาสองสามสัปดาห์ เขาก็ได้มาพูดกับผมว่า “ว้าว นี่ซอกจินนี่ ผู้ชายที่ได้รับกระแสการตอบรับอย่างร้อนแรงเหรอเนี่ย? (หัวเราะ) เขาชมว่าผมเต้นได้สุดยอดมาก ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้เห็นกระแสตอบรับอะไร ผมเลยถามเขาไปว่าเขาล้อผมเล่นรึเปล่า แต่เขาตอบกลับมาว่า เปล่านะ ทุกคน บอกว่านายเต้นเก่งมาก ถ้านั้นเป็นเรื่องจริง ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณเขาเลยครับ (หัวเราะ)

  • ในวิดีโอ ‘ARMY Corner Store ที่ถูกอัปโหลดไปยัง YouTube สําหรับ FESTA 2021 เพื่อเฉลิมฉลอง ครบรอบ 8 ปีของการเดบิวต์ คุณกล่าวไว้ว่าคุณพยายามอย่างมากในการติดตามเพลงและการเต้นให้ทัน คุณพึงพอใจกับผลที่ได้รับจาก ‘Butter ไหม? ฉันรู้สึกว่าเพลงนี้สนุกขึ้นเพราะคาแรคเตอร์ที่คุณสร้างขึ้นตลอดระยะเวลานี้เลยนะ

Jin: อืมก็ เพลงที่ผมรู้สึกพึงพอใจกับตัวเองมากที่สุดก็คือเพลง ‘Butter นี่แหละครับ มันเป็นเพราะว่าผมมุ่งมั่น ฝึกฝนกับทักษะเหล่านี้มาเป็นเวลานาน และ Butter’ เป็นเพลงล่าสุดของพวกเราครับ เมื่อเวลาผ่านไป พวกเราได้กลับมาพร้อมกับเพลงที่มากขึ้น และถ้าผมพัฒนามากขึ้น เพลงโปรดของผมก็คงจะเป็นเพลงใหม่ล่าสุดครับ จากนั้น [จากที่เพลงใหม่ตามมา] ‘Butter ก็อาจจะไม่ถูกใจผมอีกต่อไป แต่มันน่าพอใจที่สุดในตอนนี้ครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.4 : ผมยังมีความสุข เมื่อโฮบี้มาบอกว่าการเต้นของผมพัฒนาขึ้นด้วยครับ

  • ในแง่ไหนบ้างที่คุณได้พัฒนายิ่งขึ้น ?

Jin: ตอนที่ผมเพิ่งเริ่มทํางานนี้ใหม่ ๆ ผมจะฝึกซ้อมตามคําสั่งของสตีฟ และจนมาถึงตอนนี้ ในกรณีของการเต้น ผมก็ยังคงพยายามอย่างหนักที่จะทําตาม เพียงแต่ว่าจะใช้เวลาในการปรับตัวน้อยกว่าเมื่อก่อนครับ เมื่อผมได้ทบทวนหลังการซ้อม ผมสามารถเห็นได้ว่ามันเป็นอย่างไร และสิ่งที่ผมควรทําคืออะไร ผมใช้เวลาในการ ปรับตัวเองให้เข้ากับจังหวะน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย และผมคิดว่าผมสามารถขัดเกลามันให้ดีขึ้นได้อีกเล็กน้อยด้วยครับ แถมผมยังมีความสุข เมื่อโฮบั้มาบอกว่าการเต้นของผมพัฒนาขึ้นด้วยครับ

  • การแสดงสําหรับ Permission to Dance เป็นอย่างไรบ้าง?

Jin: ผมชื่นชอบเพลงนี้มากนะครับ แต่เมื่อเราแสดงมัน ผมหวังว่าผมจะมีเวลาในการเตรียมตัวมากกว่านี้ พวกเราคัมแบ็คกันในเดือนพฤษภาคมด้วยเพลง ‘Butter และได้ขึ้นคอนเสิร์ตแฟนมีตติ้งในเดือนมิถุนายน ดังนั้นพวกเราจึงเตรียมพร้อมสําหรับเพลง Permission to Dance ในเวลาเดียวกันกับที่พวกเราถ่ายทําการแสดงต่างๆ ของ Butter เลยครับ

พวกเราไม่ได้ต้องทําอะไรอย่างอื่นก่อนมาทํา Butter ดังนั้นพวกเราจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะฝึกซ้อมมัน แต่สําหรับ Permission to Dance พวกเราต้องซ้อม และเตรียมพร้อมสําหรับงาน แฟนมีตติ้งไปพร้อม ๆ กัน ตารางเวลาจึงแน่นเสมอ แต่ผมคิดว่าที่จริงแล้วผมน่าจะทําได้ดีกว่านี้อีก ถ้าหากผมมีเวลาเพิ่มอีกนิดครับ ผมหวังว่าผมจะมีเวลามากขึ้นเพื่อพยายามกับมันอีกสักหน่อยอ่ะครับ

  • ยิ่งคุณใช้เวลาฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น และคุณก็จะยิ่งมีความทะเยอทะยานมากขึ้น เท่านั้นด้วย

Jin: ผมหน่ะ เป็นคนที่จําเนื้อเพลงได้ไม่ค่อยเก่งหรอกครับ เช่นว่า ผมคิดว่าเมมเบอร์คนอื่น ๆ บางคนสามารถ ตามทันได้อย่างรวดเร็ว แต่สําหรับผมมันไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นถ้าหากพวกเราทําเพลงใหม่หรือเพลงพิเศษ สําหรับในงานแฟนมีตติ้งกัน ผมจําเป็นจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นครับ พอเพลงใหม่ออกมา ผมก็ต้องใช้เวลาซ้อมอย่างน้อย 4-5 วันถึงจะคุ้นชินกับมันครับ

  • คุณได้แสดงการแรบในเพลง ‘Daechwita สําหรับ BTS 2021 MUSTER SOWOOZOO แต่การที่จะได้ เห็นคุณแรป เป็นอะไรที่หาดูได้ยากจริง ๆ ฉันจินตนาการได้เลยว่ากระบวนการที่คุณต้องข้ามผ่านในการ ฝึกซ้อมนั้นเข้มปั้นขนาดไหน

Jin: มันยากมากเลยล่ะครับ ผมต้องแสดงทั้งเพลง Daechwital และ Chicken Noodle Soup แต่เซ็ตลิสต์ถูกเคาะก่อนขึ้นคอนเสิร์ตประมาณเดือนเดียวเองครับ ระหว่างนั้น ผมจะกลับบ้านหลังเลิกงาน มาเปิดเพลง Daechwita เพื่อซ้อมสัก 15 นาที ต่อด้วย Chicken Noodle Soup แล้วเข้านอนทันทีครับ เมื่อวันรุ่งขึ้นมาถึง ผมจะตื่นไปทํางาน กลับมาที่บ้าน แล้วซ้อม Daechwita ต่ออีก 15 นาที ต่อด้วย Chicken Noodle Soup ผมทำซ้ำอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานมาก ผมเป็นคนที่จําเนื้อร้องไม่ค่อยเก่งเลย เลยต้องใช้เวลานานหน่อยครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.5 : ผมคิดว่าผมมีความสามารถ ในด้านอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนสิ่งที่ผมยังขาดไปได้ครับ

รูปภาพ

  • นั่นเป็นระยะเวลาที่เยอะมากในการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ความสมดุลระหว่างชีวิตการทํางานและชีวิตส่วนตัว (Work-life balance) ของคุณก็คงมีความสําคัญเช่นกัน มันเป็นการยากที่จะฝึกซ้อมเกินเวลาที่กําหนดใน ทุก ๆ วันโดยปราศจากเวลาในการพักผ่อนนะ

Jin: ใช่เลยครับ อย่างที่ผมพูดไป ทักษะในการท่องจําเนื้อเพลงของผมยังขาดอยู่ แต่ผมคิดว่าผมมีความสามารถ ในด้านอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนสิ่งที่ผมยังขาดไปได้ครับ อันที่จริงแล้ว ผมสนุกกับการท่องจําสิ่งต่าง ๆ แบบนั้นไปเรื่อย ๆ นะครับ พรสวรรค์ของผมคือความสามารถในการสนุกกับการฝึกซ้อม ๆ ดังนั้นหากผมทําสําเร็จก่อนเวลาที่กําหนด ผมก็ยกย่อง/ชมเชยตัวเองแล้วล่ะครับ (หัวเราะ) การซ้อมเป็นอะไรที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน ผมเลยตัดสินใจปฏิบัติกับมันให้เหมือนเป็นกับโครงการใหญ่โครงการหนึ่งครับ วิธีที่ผมทําคือ เมื่อผมบอกว่าถึงเวลาพัก มันก็คือเวลาพักผ่อน และผมเองก็พักผ่อนอย่างเต็มที่เท่าที่ต้องการเลยครับ

  • ดูเหมือนว่าคุณได้พูดถึงความสําคัญของเวลาที่ใช้นอกเวลาทํางานใน ‘ARMY Corner Store เมื่อคุณกล่าว ว่าหน่วยวัดความพึงพอใจของคุณคือถึงระดับที่คุณสามารถใช้เวลาของคุณในวัน ๆ นึงอย่างไร้จุดหมายได้เลย ในฐานะที่เป็นเมมเบอร์ของ BTS คุณคงไม่มีเวลามากมากขนาดนั้น มากพอที่คุณจะได้ใช้มันมากเท่าที่ต้องการแน่เลย

Jin: ทุกวันนี้คนเกาหลีที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกันกับผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพัฒนาตัวเองครับ คุณจําเป็นต้องพัฒนาคุณสมบัติของตัวคุณ เรียนรู้สิ่งต่างๆ แม้แต่งานอดิเรกของคุณ ผู้คนยังบอกเลยครับว่าต้องเป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถทําให้เกิดผลได้ หลังจากที่ได้รับการสั่งสอนแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก ผมก็คิดว่า ผมควรจะต้องทําตามคําสอนเหล่านั้น

ผมรู้สึกราวกับว่าผมต้องทําอะไรบางอย่างที่มีประสิทธิผล ถึงแม้ว่าผมจะพยายามหยุดพักก็ตามอ่ะครับ แต่ถ้าหากผมไม่ทําอะไรเลย และเอาแต่นอนกลิ้งอยู่บนเตียง หรือทํากิจกรรมที่ไม่ก่อผลและไม่จําเป็น ผมกลับรู้สึกพึงพอใจอย่างแท้จริงนะครับ จากนอนเป็นตื่น ตื่นมาก็กิน กินเสร็จก็กลับไป นอนอีกครั้ง ตื่นจากนอนปุ๊บ อยากดูทีวี ก็ไปดูเลย หากทีวีไม่มีอะไรสนุก ๆ ดูก็จะเล่นเกม และมองดูไปที่นาฬิกา ถ้าดึกแล้วก็นอน ผมคิดว่าทุกคนต้องการวันแบบนี้กันบ้างครับ

  • ช่วงเวลาแบบนั้นคงจะต้องมีความสําคัญมากขึ้นเมื่อคุณกําลังยุ่งอยู่กับการเป็นเมมเบอร์ของ BTS แน่เลย เพราะคุณมีเวลาไม่มากพอที่จะใช้มันไปในรูปแบบนั้น

Jin: ในเวลาที่ผมไม่ได้ทํางาน สิ่งที่ผมอยากทําจริง ๆ คือสิ่งที่ผมทําแล้วมันสนุกสําหรับผมครับ ในกรณีนั้นผู้คนอาจสงสัยว่าทําไมคุณถึงทําสิ่งที่มันไม่ได้มีส่วนช่วยทําให้ชีวิตคุณดีขึ้นเลย แต่ผมกลับคิดว่าช่วงเวลาแบบนั้น สําคัญสําหรับทุกคนนะครับ สังคมมักแสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่เสมอ และนั่นก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน แต่เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง ผมคิดว่าเราต้องใช้เวลาเพื่อค้นหาความมั่นคงในจิตใจของเราด้วย แม้ว่าจะดูไร้ประโยชน์ในสายตาผู้อื่นก็ตามครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.6 : แต่ในทางกลับกัน ผมไม่มั่นใจในตัวเองเลยครับ

รูปภาพ

  • พูดถึงเรื่องนั้น คุณได้โพสต์ภาพที่ตัวเองกําลังทานข้าวกับบังชีฮยอก ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ ลงใน Weverse มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากที่คนสองคน ที่มีอิทธิพล และมีภารกิจที่ต้องทํามากมาย สามารถมาใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน

Jin: ผู้คนในออฟฟิศอาจรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เข้าถึงไม่ได้เลย แต่ผมไม่ได้มีความคิดต่อเขาแบบนั้นเลยครับ (หัวเราะ) ตอนที่สวนกัน ผมขอให้เขาแวะมาดื่มด้วยกัน และจู่ๆ เขาก็พูดว่า โอเค นายว่างเมื่อไหร่ล่ะ?” แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว ผมจะเจอกับเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้นผมจึงพูดไปว่า “อืม…ตอนนี้ผมยุ่ง ๆ อ่ะครับ วันนี้ก็โดนจองไปหมดแล้วด้วย วันนี้ก็เช่นกันค่ะครับ (หัวเราะ)

“งั้นก็ให้เวลามาคร่าว ๆ ก็ได้ แล้วเดี๋ยวฉันค่อยหาเวลาว่างไปตอนที่นายเสร็จแล้วละกัน” พวกเราคุยกันไปแบบนั้น แล้ววันรุ่งขึ้นเขาก็มาหาผม เพื่อเข้ามาทานอาหารเย็น หลังจากที่ผมทํางานเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็บอกว่าเขาจะทําอาหารให้ผมทาน และซื้อไวน์มาด้วยอ่ะครับ อย่างไรก็ตาม มันเป็นมื้ออาหารที่ดีเลยล่ะครับ

  • ตอนก่อนเดบิวต์ คุณคงไม่สามารถรู้สึกสบายใจกับเขาได้ขนาดนั้น (หัวเราะ) แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไป ทุกคนก็ต่างประสบความสําเร็จกันหมดเช่นกัน

Jin: คุณสามารถพูดได้ว่าตอนนั้น ตอนที่ผมยังเป็นเด็กฝึก ผมอยู่ในตําแหน่งที่ตัวเองกําลังมองหางานอยู่ครับ ตอนนั้นผมคิดว่าผู้ที่ได้รับเลือกดูเท่มาก แต่ในทางกลับกัน ผมไม่มั่นใจในตัวเองเลยครับ ผมไม่คิดว่าอะไรแบบนี้มันจะเกิดขึ้นจริงๆ แต่ผมคิดว่าถ้าหากตอนนั้น ผมเข้าไปพูดคุยกับคนที่หางานทําได้แล้ว พวกเขาคงจะเย็นชาใส่ผมทํานองนั้น ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจครับ

  • ฉันคิดว่าคุณได้แสดงให้เห็นว่าคุณมีความมั่นใจกับเรื่องตลกที่คุณเล่าในรายการ You Quiz on the Block ทางช่อง tvN เกี่ยวกับพี่ชายของคุณที่ช่วงนี้มักจะเรียกคุณว่า คุณชอกจิน หรือตอนที่คุณพูดถึงบรรยากาศเมื่อ ญาติผู้ใหญ่ให้เงินคุณในวันปีใหม่ของเกาหลีผ่านทาง V Live และที่บอกว่าคุณสามารถยอมรับใครก็ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะรับมือกับคุณอย่างไร

Jin: ใช่ครับ ถ้าผมไม่ประพฤติไปอย่างนั้น คนอื่น ๆ ก็คงจะลําบากใจ คนที่ผมรู้จักจะพูดกันเล่น ๆ ว่า “ซุปเปอร์สตาร์มาแล้ว” ถ้าผมพูดกลับไปว่า “ซุปตาร์? คุณกําลังพูดถึงอะไรอยู่อ่ะครับ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ” และมองไปที่พวกเขาด้วยท่าทางที่จริงจัง พวกเขาก็คงไม่รู้ว่าครั้งหน้า พวกเขาจะต้องเรียกผมด้วยชื่ออะไร หรือจะ พูดคุยกันเรื่องอะไรอ่ะครับ

จริง ๆ แล้ว ถ้าคนที่เจอผมเป็นครั้งแรกหรือเจอผมไม่บ่อยนัก ก็จะตอบไปแบบให้มันฟังดูเกินจริงไว้ก่อน พวกเขาอาจคิดว่ามันสนุกก็ได้ครับ ผมมั่นใจว่าหากผมได้พบกับบุคคลที่มีชื่อเสียงจริง ๆ นั่น ก็คงเป็นวิธีที่ผมจะตอบสนองเหมือนกัน ดังนั้นถ้ามีใครพูดว่า อ้าว ซุปเปอร์สตาร์มาแล้ว ผมก็จะตอบว่า “ซุปเปอร์สตาร์มาแล้วครับ!” กลับไปเหมือนกันครับ ตราบใดที่ผมไม่ตอบกลับไปอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นเรื่องขํา ๆ บรรยากาศตรงนั้นก็ผ่อนคลายมากขึ้นแล้วครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.7 : ผมหวังว่าแฟน ๆ ของพวกเราจะไม่สูญเสียเสียงหัวเราะของพวกเขาไปนะครับ 

รูปภาพ

  • ตอนนี้ที่คุณเป็นซุปเปอร์สตาร์จริง ๆ แล้ว – ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องขํา ๆ มีอะไรที่คุณอยากจะบอกจินคนเดิม ที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองบ้างไหม ถ้าคุณสามารถพบเจอกับเขาได้?

Jin: ผมไม่รู้ว่าจะบอกอะไรเขาเลยครับ ผมอยากจะบอกให้เขาอย่าท้อแท้ มั่นคงเข้าไว้ครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าหากผมไปบอกให้ตัวผมในอดีตให้คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มากจนเกินไป หลังซ้อมเขาอาจจะรู้สึกเหนื่อยแล้วตัดสินใจยอมแพ้ก็ได้ครับ ผมคิดว่าแค่บอกให้เขาทํางานอย่างหนักก็เพียงพอแล้วครับ

  • จนถึงตอนนี้ คุณค้นหาความทะเยอทะยานในการทํางานหนักต่อไปจากที่ไหนกัน?

JIN: แน่นอนว่าจากปฏิกิริยาการตอบรับของอาร์มี่ครับ ผมจะบอกว่าผมพยายามให้หนักขึ้นและพยายามทําให้ดีโดยที่ไม่ทําให้ตัวเองเหนื่อย เพื่อที่ผมจะได้เห็นผู้คนใน Twitter หรือ weverse ชื่นชมว่าผมพัฒนาขึ้นหรือว่าที่ผมทํามันออกมาได้เป็นอย่างดีครับ และช่วงนี้ พวกเราต้องทําการแสดงผ่านการถ่ายทํา และเราถ่ายทํากันไว้ล่วงหน้า เพื่อสนองเรื่องของคุณภาพ

ด้วยเหตุนี้ พวกเราเลยมักจะอัดการแสดงเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่เพลงจะถูกปล่อยออกเป็นเวลานานครับ ซึ่งหมายความว่าพวกเราต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเราสําหรับการอัด การออกสู่สาธารณะด้วยรูปลักษณ์ใหม่ของตัวเอง จึงเป็นอะไรที่ยากจนกว่าจะมีการปล่อยเนื้อหาอย่างเป็นทางการ ไม่งั้นมันอาจมีการสปอยล์ได้ครับ นั่นทําให้ผมมีความกระตือรือร้นมากขึ้นที่จะแสดงส่วนที่ดีที่สุดของตัวเองผ่านการแสดงของเราครับ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน ผมจะสามารถเห็นปฏิกิริยาของแฟน ๆ ของเราได้ทันที ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถเห็นผมที่ทํางานหนักเช่นนี้ได้ครับ

  • อยากบอกอะไรกับอาร์มี่บ้าง?

Jin: ผมหวังว่าแฟน ๆ ของพวกเราจะไม่สูญเสียเสียงหัวเราะของพวกเขาไปนะครับ ผมพูดอะไรที่ฟังดูหวานเลี่ยนไม่ค่อยเก่ง มันไม่ใช่นิสัยของผม ผมจะรู้สึกเป็นอายและเลี่ยน/จักจี้เมื่อผมพูดอะไรแบบนั้นออกไป และผมก็ไม่สามารถเอาจริงเอาจังได้ ดังนั้นผมจึงพยายามทําให้มันน้อยที่สุด แต่แฟน ๆ เฝ้าดูเราเป็นงานอดิเรก คุณก็ทราบใช่ไหมล่ะครับ?

งานอดิเรกคือการทําให้ตัวเองมีความสุข และสามารถหัวเราะได้ ดังนั้นผมจึงอยากดูมีความสุขเพื่อพวกเขา ไม่ใช่ดูเหนื่อยครับ ผมพยายามที่จะโพสต์อะไรตลก ๆ หรือทิ้งคําตอบฮาๆ ไว้บน Weverse เพื่อให้พวกเขามีความสุขมากขึ้น ผมแค่หวังว่าทุกคนที่ชื่นชอบผม จะมีความสุขก็เท่านั้น และผมไม่ต้องการให้พวกเขา เห็นสิ่งที่เลวร้าย นั่นคือความรู้สึกที่ผมมีต่องานของผมครับ

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Weverse Magazine SUGA

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> คาสิโนออนไลน์