Weverse Magazine V

Weverse Magazine V แปลบทสัมภาษณ์ของวี BTS ในนิตยสารปี 2021

Weverse Magazine V : “ผมมีความปรารถนาในการทําให้สิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับตัวเองสมบูรณ์แบบสักอย่างครับ”

Weverse Magazine V ในขณะที่เขากําลังถูกสัมภาษณ์ วีเผยความในใจของตัวเองออกมาอย่างผ่อนคลาย แต่มีอยู่ช่วงนึงที่เขาพูดไปเรื่อยๆ โดยไม่พักหายใจเลย ขอให้คุณมองหาช่วงเวลานั้นจากบทสัมภาษณ์ที่อยู่ด้านล่างนี้

Weverse Magazine V บทสัมภาษณ์ Pt.1 : ถ้าผมฟังเพลงเวลาที่รู้สึกเศร้า/หดหูและคิดมาก สิ่งที่ทําให้ผมรู้สึกหงุดหงิดใจก็จะจางหายไปครับ

Weverse Magazine V

  • คุณฟังเพลงเก่า ๆ มากมายผ่านแผ่นเสียง [vinyl] นับตั้งแต่การสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับ Weverse Magazine มีผลงานดนตรีชิ้นไหนของศิลปินท่านใดที่ทําให้คุณรู้สึกตื่นเต้นบ้างไหม?

V: ผมได้กลับมาฟังเพลงของคุณ Louis Armstrong อีกครั้ง และผมก็ได้ไปเลือกซื้ออัลบั้มที่มีแจ็กเก็ตสวย ๆ ที่ มีเพลงฮิตมากมายร่วมอยู่ในนั้นมาด้วยครับ

  • คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ฟังเพลงคลาสสิกเหล่านั้น?

V: ผมรู้สึกเริ่มผ่อนคลายบ้างครับ ถ้าผมฟังเพลงเวลาที่รู้สึกเศร้า/หดหูและคิดมาก สิ่งที่ทําให้ผมรู้สึกหงุดหงิดใจก็จะจางหายไปครับ และมันทําให้ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองสงบนิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งมันยังทําให้ผมนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ในหัวของผมเองด้วย ตัวอย่างเช่น เพลงบางเพลงเมื่อฟังแล้ว มันอาจทําให้ผมนึกถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม ขณะที่เดินไปตามถนนทางเดินที่ไหนสักแห่งในตอนกลางคืน ผมคิดว่าการกําหนดบรรยากาศ [mood] ให้กับผู้ฟังเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด มูดอารมณ์คงจะแตกต่างกันไปสําหรับทุกคน แต่สําหรับผม เพลงเหล่านั้นเป็นเพลงที่สร้างมูดที่สวยงามในขณะนั้นได้ดีครับ

  • คุณบอกว่าคุณได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินรุ่นเก่า ๆ อย่าง Sammy Davis Jr. สําหรับการแสดงของคุณใน Dynamite มีศิลปินท่านใดบ้างไหมที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณสําหรับเพลง ‘Butter?

V: ก็มีคุณ Billy Joel ครับ ตอนที่ผมถ่ายมิวสิกวิดีโอ ผมจะนึกถึงภาพยนตร์มากกว่าศิลปินคนใดคนหนึ่งครับ และเมื่อผมขึ้นไปแสดงบนเวที สําหรับบางบทเพลง ผมก็จะนึกถึงรูปลักษณ์ของหนังอย่าง Reservoir Dogs ครับ สําหรับ Butter ผมได้ดูหนังแนววัยรุ่นมาหลายเรื่อง และละครเพลงก็ด้วย หลังจากนั้นผมก็ได้สุ่มดูวิดีโอ จากใน YouTube ของฉากที่ถูกตัดมาจากภาพยนตร์แนววัยรุ่นสมัยก่อน เรื่องที่คุณ Johnny Depp เล่นอ่ะครับ [ซึ่งก็คือภาพยนตร์เรื่อง Cry-Baby] ภาพที่ผมได้จากเรื่องนั้น มันช่างเข้มข้นจริง ๆ ครับ นั่นคือรูปลักษณ์ที่ผมได้นํามาปรับใช้ใน ‘Butter’

  • ‘Butter’ ให้ความรู้สึกเหมือนเหมือนเป็นมิวสิคัลวัยรุ่นสําหรับฉัน และตอนนี้ฉันก็รู้แล้วล่ะว่าทําไม

V: ผมทําให้มันเหมือนเป็นมิวสิคัลวัยรุ่นอย่างที่คุณกล่าวมาเลยครับ ตอนที่พวกเราถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลง Butter กัน ผมพยายามถ่ายพาร์ทที่อยู่ในลิฟต์อย่างมาก เพื่อให้มันมีความรู้สึกเหมือนเป็นหนังวัยรุ่นครับ แต่มีหลายเทคที่ถูกตัดต่อทุกอย่าง [ที่ถ่ายไว้] จึงไม่ได้ถูกแสดงให้เห็นทั้งหมดครับ (หัวเราะ)

บทสัมภาษณ์ Pt.2 : กลิ่นอายของความเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นใน Butter และใน Permission to Dance

Weverse Magazine V

  • ความรู้สึกแบบไหนกันที่คุณได้รับจากหนังแนววัยรุ่นเหล่านั้น ที่ทําให้คุณมองว่ามันมีเสน่ห์?

V: สําหรับผม ภาพยนตร์วัยรุ่นแสดงให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์ที่เหมาะกับวัยครับ ผมคิดว่าการผสมผสานของอารมณ์ความรู้สึก พลังงาน อารมณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และอารมณ์ที่แปลกประหลาด ที่ทุกคนจําเป็นต้องประสบในวัยนั้น มันถูกผสานได้เข้ากันอย่างลงตัวครับ หากคุณดูหนังวัยรุ่น พวกมันจะเต็มไปด้วยพลังงานและอารมณ์ที่แจ่มใส แต่เบื้องหลังนั้นกลับไม่สดใสอย่างที่คิดครับ พวกมันสว่างมากแต่ตัวสีเองก็เกือบจะเหมือนเป็น ฟิลเตอร์บางอย่างรู้สึกเหมือนว่ามีฟิลเตอร์ที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อเราถ่ายมิวสิกวิดีโอกัน ผมจะลองนึกถึงภาพยนตร์วัยรุ่นดู และถ่ายทอดมันออกมาผ่านการแสดงครับ

  • ดูเหมือนว่าความรู้สึกของภาพยนตร์วัยรุ่นนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนระหว่าง ‘Butter’ กับ ‘Permission to Dance’ นะ ดูจากตัวปกคลิป focus cam แต่ละอันที่ถูกอัปโหลดไปยังช่อง BANGTANTV บน YouTube แล้ว ดูเหมือนว่า ‘Butter’ จะแสดงให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ที่เจ๋งมาก ในขณะ ที่ ‘Permission to Dance’ ให้ความรู้สึกของความเป็นวัยรุ่นที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสําหรับน้อง ๆ หนู ๆ มากกว่า

V: กลิ่นอายของความเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นใน Butter และใน Permission to Dance แตกต่างกันครับ พวกเราได้แสดงให้เห็นถึงภาพที่สดใสที่ผู้คนมักจะนึกถึงเมื่อนึกถึงภาพยนตร์วัยรุ่นผ่านเพลง ‘Permission to Dance’ ครับ

  • คุณคิดว่าการที่เลือกหยิบความเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นมาใช้นั้น มีอิทธิพลต่อเสียงร้องของคุณ ในการทําให้มัน เป็นสไตล์ใหม่ที่คุณใช้หรือไม่? ในเพลง ‘Butter’ คุณยังคงมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ แต่ไร้เสียงร้องที่ทุ่ม ซึ่งมันได้มอบความรู้สึกที่ใหม่ออกม

V: นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อพวกเราได้รับคอนเซปต์มา พวกเราจะต้องร้องออกมาให้เข้ากับคอนเซปต์นั้น ๆ ครับ ผมคิดว่าสไตล์การร้องเพลงของผมนั้นร้องออกมาได้เข้ากับคอนเซปต์ ดังนั้นผมจึงค่อนข้างจึงพอใจครับ มันไม่มีอะไรที่ยากมากในการเปลี่ยนสไตล์ เนื่องจากว่าคุณก็แค่ต้องเปลี่ยนเทคนิคการร้องของคุณเท่านั้น ซึ่งมันต่างจากการเปลี่ยนเสียงร้องของคุณนะครับ ต้องบอกว่าแม้ว่าโน้ตใน Butter จะสูงไปสําหรับผม แต่ผมก็ยังร้องถึงนะครับ! (หัวเราะ)

  • ฉันคาดว่าในครั้งนี้ การร้องให้ถึงโน้ตที่สูงคืองานที่ถูกมอบหมายให้กับคุณในฐานะนักร้องนะ

V: ผมทํางานมาเป็นเวลานานเพื่อชดเชยจุดด้อยของตัวเองครับ ตัวอย่างเช่นผมคิดว่าเมื่อพูดถึงเรื่องตัวในที่สูง ผมตระหนักว่ามันคือจุดด้อย เพราะด้วยความที่ผมร้องท่อนที่มีเสียงทุ้มต่ําอยู่บ่อย ๆ และมักจะร้องเพลงที่ไหลไปตามท่วงทํานองอย่างราบรื่น แต่ผมก็มีปัญหาตอนที่อัดเพลง Dynamite และผมต้องร้องเพลงด้วยเสียงสูง ผมหงุดหงิดมาก [ที่ทําได้ไม่ดีสักที] (หัวเราะ) เลยซ้อมหนักมากครับ

  • หลังจากความพยายามทั้งหมดนั้น รู้สึกอย่างไรกับผลลัพธ์ที่คุณเห็นสําหรับเพลง ‘Butter?

V: ผมแค่พยายามไม่หยุดพักและพึงพอใจกับความสําเร็จครับ เหมือนกับว่าแทนที่จะได้ดื่มดํากับความรู้สึก ผมกลับรู้สึกว่าผมควรเข้านอนให้เร็ว เพื่อทําทุกอย่างที่ต้องทําในวันรุ่งขึ้นอ่ะครับ สิ่งสําคัญคือการกลับมาสู่ร่างกายที่ปกติดีเยี่ยมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผมจึงไม่มีเวลามากพอที่จะดื่มด่กับความสุขนี้มากนัก ผมแค่ทํางานหนักในหน้าที่ที่ผมมีอย่างที่เคยครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.3 : ผมแค่อยากให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ทําให้คนอื่นตระหนักว่าผมรู้สึกอย่างไร

  • ในคํากล่าวทักทายปีใหม่บน YouTube คุณบอกว่าคุณรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถแสดงการแสดงที่คุณต้องการให้อาร์มี่ดูได้ และคําปณิธานสําหรับปี 2021 ของคุณคือ “ทําตามจังหวะการก้าวเดินและแบบแผนของผมเอง” เมื่อคุณทํางานด้านดนตรี คุณคิดว่าจังหวะของคุณเอง และจังหวะที่เป็นมืออาชีพของคุณ [ในด้านการทํางาน] นั้นอยู่ในจังหวะเดียวกันรึเปล่าสําหรับปีนี้?

V: ไม่เลยครับ [จังหวะการก้าวเดินในรูปแบบมืออาชีพของผม] เร็วเร็วมากครับ (หัวเราะ) พวกเรามีหลายอย่างที่ต้องเตรียมพร้อม เพราะเราออกโปรโมตกันอยู่เสมอครับ บางครั้งมันอาจจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่ในแง่หนึ่งผมคิดว่ามันยังเป็นโอกาสที่จะทําให้ผมแข็งแกร่งขึ้นอีกนิดด้วยครับ

  • ฉันคาดว่าการที่ได้ทํางานสําหรับเพลงของตัวคุณเองเป็นอะไรที่มีความหมาย เพราะคุณสามารถเข้าไปท่องโลกของคุณเองได้ คุณได้แต่งเพลง “Blue & Grey” ขึ้นมาในช่วงเวลาที่ยากลําบาก และมันก็กลายเป็นเพลงที่ให้คุณเข้าใจผู้คนมากมายได้และในทางกลับกันด้วย เมื่อมองย้อนกลับไป คิดว่าเพลง ‘Blue & Grey’ จะถูกจดจําว่าเป็นเพลงแบบไหนกัน?

V: ผมคิดว่าด้วยเพลง ‘Blue & Grey’ ผมแค่อยากให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ทําให้คนอื่นตระหนักว่า ผมรู้สึกอย่างไรในขณะนั้นมากขึ้นหน่อยก็เท่านั้นเองครับ แน่นอนว่าทุกคนมีช่วงเวลาที่ยากลําบาก แต่ผมคิดว่าผมต้องการแบ่งปันอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นกับอาร์มอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งรวมไปถึงความเจ็บปวดที่ได้ผ่านเข้ามาในกระบวนการเติบโตของพวกเราด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผมคิดว่าผมก็แค่รู้สึกอยากทําให้มันชัดเจนครับ (หัวเราะ) ผมคิดว่ามันโอเคที่จะแสดงออกมาอย่างนั้น เพราะผมไม่สามารถใช้ความรู้สึกเหล่านั้นออกมาเป็นคําพูดได้เลย ผมแค่หวังว่าผู้คนจะเข้าใจว่าผมรู้สึกอย่างไร มันจะไม่เป็นไรเลยครับถ้าหากมันจะถูกลืมในภายหลัง

  • ในบทสัมภาษณ์ ‘BE-hind Story’ บน YouTube คุณได้พูดถึงบรรทัดแรกของเพลง Blue & Grey: “Where is my angel? คุณได้อธิบายว่า เมื่อคุณมีปัญหาใด ๆ คุณจะหลับตาลงและปรารถนาให้นางฟ้าของคุณมาหาและนั่งคิด มีไหมเวลาไหนที่คุณรู้สึกว่านางฟ้าของคุณเข้าใจความรู้สึกของคุณอย่างที่คุณเคยพูดไว้ไหม?

V: ผมได้รับคําตอบมากมายจากการทําสิ่งนั้นครับ ผมไม่ใช่คนเคร่งเรื่องศาสนา แต่เมื่อใดก็ตามที่ผมมีปัญหาบางอย่าง ผมจะหลับตาลงและคิดว่ามันถูกต้องไหม สิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับเรื่อง ๆ นี้มันถูกต้องเปล่า? พวกมันก็แค่เป็นคําถามที่มีคําตอบแค่ใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น อย่างเช่นวันนี้ชุดของผมดูดีไหม? แทนที่จะมานั่งกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรทํา หากคุณจัดการกับมันในรูปแบบของการตั้งคําถาม คุณจะได้รับการตอบรับพร้อมกับคําตอบครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.4 : ผมเขียนไดอารี่ด้วยความหวังที่ว่ามันจะช่วยในการเขียนเนื้อเพลงบ้าง และช่วยให้ผมไม่ลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปครับ

  • ฉันคาดว่ามันอาจใช้ได้เมื่อคุณกําลังมองหาแรงบันดาลใจในชีวิต แต่สําหรับบทเพลงของคุณล่ะ? ในบทสัมภาษณ์ Weverse Magazine ครั้งก่อน คุณบอกว่าคุณจะทําการจดบันทึกทุกครั้งที่รู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่าง

V: ผมเขียนไดอารี่ด้วยความหวังที่ว่ามันจะช่วยในการเขียนเนื้อเพลงบ้าง และช่วยให้ผมไม่ลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปครับ ผมทําแบบนั้นเสมอ – ผมเปิดไดอารี่ออกมาเขียนทุกครั้งที่นึกอะไรออกครับ ผมคัดลอกท่วงทํานองที่ผุดขึ้นมาในหัว เนื้อเพลง และอื่นๆ จากไดอารี่ของผมไปยังโน้ตของผมชั่วคราว และเมื่อผมกําลังพัก หรือรู้สึกอยากทํางาน ผมก็จะเปิดโน้ตแล้วพูดว่า วันนี้มาลองอันนี้ดูกันเถอะ แล้ววิ่งออกไปที่สตูดิโอครับ

  • คุณปล่องเพลง Snow Flower ของคุณที่มีฟิตกับคุณ Peakboy ในวันคริสต์มาส นั่นเป็นหนึ่งในเพลงที่คุณได้ทําการวิ่งออกไปที่สตูดิโอเพื่อลงมือทํา หลังจากที่ความรู้สึกนั้นได้เข้ามาถึงคุณรึเปล่า?

V: สําหรับเพลงนั้น ตอนที่ผมนั่งดื่มกับนักดนตรีรุ่นพี่ พวกเรากําลังพูดถึงการทําเพลงด้วยกัน แล้วพวกเราก็แบบว่า นายคิดว่าเราจะมีเวลาทําอะไรอย่างนั้นเหรอ? พวกเราจึงตัดสินใจทํามันเลยทันที เพราะทุกคนว่างกันในตอนนั้น มิกซ์เทปของผมมีความล่าช้า ดังนั้นอย่างน้อยผมก็อยากเล่นเพลงอื่นให้อาร์มีได้ฟังกัน และผมคิดว่า เนื่องจากว่าผมเมานิดหน่อย (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมควรลองเขียนอะไรซักอย่างดู ดังนั้นผมจึงลงมือทําเพลงอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงสามชั่วโมงเองมั้งครับ

  • แม้ว่าคุณจะแต่งมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่การจัดวางองค์ประกอบที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์แบบเดียวกับที่ Blue & Grey มีเลย

V: มันมีบางครั้งที่ผมจิตจดจ่อ (หัวเราะ) และสามารถทําเพลงได้ทั้งหมดในรวดเดียวเลย แต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่มีอารมณ์ [ที่จะลงมือ] ผมก็ลงเอยด้วยการทบทวนมันวนไปวนมาเรื่อย ๆ อ่ะครับ และผมเองไม่ต้องการให้การเรียบเรียงมันเด่นชัดจนเกินไป ผมจึงพยายามเปลี่ยนวิธีการบรรเลงท่วงทํานองครับ

  • ด้วยภาพที่คมชัดแบบนั้นที่เข้ามาหาคุณเกือบจะในทันใด คุณจินตนาการถึงอะไรสําหรับบทเพลงนั้น?

V: คุณอาจจะคิดว่าเพลง Snow Flower เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเกล็ดหิมะ แต่จริง ๆ แล้วผมนึกถึงหิมะและดอกไม้ที่แยกกันต่างหากนะครับ ผมเริ่มจากการหวังว่าดอกไม้จะไม่เหี่ยวเฉาและเบิกบานต่อไปในวันที่หิมะตก แต่ในความเป็นจริงเมื่อหิมะตก ดอกไม้ทั้งหมดก็จะถูกบดขยี้ โลกจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ และผมก็รู้สึกว่าดอกตุมได้กลายเป็นดอกหิมะ ผมเขียนเพลงนั้นโดยพาดพิงถึงความรู้สึกของผมหลังจากที่ได้เฝ้ามองมันเกิดขึ้นครับ

  • เมื่อคุณพยายามแสดงออกผ่านทางบทเพลง การที่จะรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ ด้วยสัญชาตญาณคงจะต้องเป็นสิ่งที่สําคัญน่าดูเลยเนอะ

V: ถ้ามันฟังดูดีความสําหรับผม: ก็อนุมัติครับ (หัวเราะ)

บทสัมภาษณ์ Pt.5 : ผมอยากให้พวกเราเป็นมากกว่าเหล่าบังทันนี้ที่อยู่อันดับ 1 ของ Billboard

รูปภาพ

  • ในทางกลับกัน ในฐานะเมมเบอร์ของ BTS คุณมีงานที่คุณต้องจัดการกับตารางงานที่แน่น และนึกถึงสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา มันทําให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? เมื่อคุณฉลองชัยชนะสําหรับ Billboard Hot 100 ผ่านทาง V LIVE และเรื่องเสื้อผ้าของพวกคุณก็ถูกพูดถึง คุณหยอกกันว่าคุณสวมใส่มันเพื่อให้รู้สึกเหมือนเป็นไอดอลเฉย ๆ

V: มันสนุกครับ มันสนุก แต่ผมบอกได้ว่ามันยากครับ การแสดงก็สนุก ผมคิดว่าไอดอลควรเปล่งประกายในแบบที่เหมาะสมกับวัยของพวกเขา และมันสําคัญที่จะต้องทําอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อแฟน ๆ อย่างอาร์มีเป็นต้นครับ ไม่เพียงแค่การแสดงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการโพสต์รูปภาพ การมีบทสนทนาบนโซเชียลมีเดีย และการจัดสรรเนื้อหาต่าง ๆ อีกด้วยครับ พวกเราเป็นศิลปินและไอดอล พวกเราจึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีความสําคัญ ความรู้สึกนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเพียงเพราะพวกเราประสบความสําเร็จกันอย่างมากหรอกครับ

  • คุณเพิ่งจัดอีเว้นท์อย่างกะทันหันบน Weverse สําหรับอาร์มี่ไปเอง

V: ผมมั่นใจว่ามีอาร์มี่มากมายที่รู้สึกเบื่อที่ไม่ได้เจอพวกเราแบบตัวต่อตัวสักที แต่เนื่องว่าสิ่งเดียวที่พวกเราจะทําเพื่อพวกเขาได้คือการไปอยู่บนเวทีและอื่น ๆ ผมเกรงว่าพวกเราจะยังทําเพื่อพวกเขาได้ไม่เพียงพออ่ะครับ และผมก็ชื่นชอบที่ [ผม] สามารถพูดคุยกับอาร์มี่ได้บ่อย ๆ จนตอนนี้ผมไล่อ่านโพสต์ของพวกเขาจนติดเป็นนิสัยไปแล้วครับ “วันนี้รู้สึกแบบนี้” “วันนี้ฉันมีสอบ” “ฉันจะย้ายบ้านวันนี้” บางทีผมก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อได้อ่านเรื่องราวของพวกเขาครับ

เมื่อผมได้อ่านเรื่องราวต่าง ๆ เช่นเรื่องราวการใช้ชีวิตของอาร์มี่หรืออาร์มีกําลังใช้ชีวิตแบบไหนกัน ผมก็อดไม่ได้ที่จะพิมพ์ตอบครับ และเพราะการตอบสนองของอาร์มี่ ผมเลยพยายามทําตัวเป็นมิตรในแบบที่ทําให้มันฟังดูสนุกมากขึ้นครับ ผมอยากให้พวกเราเป็นมากกว่าเหล่าบังทันนี้ที่อยู่อันดับ 1 ของ Billboard ผมอยากเป็นคู่หูของอาร์มี่ เป็นเพื่อนสนิทของพวกเขา เพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอเมื่อเราไม่ได้ยืนอยู่บนเวที

เมื่อผมพูดถึงการสื่อสารกับอาร์มี่ มันฟังดูเหมือนเป็นธุรกิจเลยอ่ะครับ (หัวเราะ) ผมก็แค่อยากพูดคุยกับเพื่อนสนิท – นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกครับ ผ่านมานานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจออาร์มี่เพื่อนของผม โดยปกติแล้วเวลาเพื่อนไม่ได้เจอกัน พวกเขาก็จะติดต่อกันตลอดเวลา ผมสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ กับอาร์มี่ได้ ก็ต้องขอบคุณแพลตฟอร์มอย่าง weverse เลยครับ และเนื่องจากผมสามารถรับฟังเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาได้ ผมคิดว่าผมจึงสามารถไปที่ weverse แล้วจัดอีเว้นท์แบบนั้นได้ครับ

บทสัมภาษณ์ Pt.6 : ผมก็มีอาร์มี่ ดังนั้นผมจึงอดไม่ได้ที่จะทําทุกอย่างเพื่อให้คนเหล่านั้น ยิ้มออกและทําให้พวกเขารู้สึกมีความสุขครับ

รูปภาพ

  • คุณพูดถึงอาร์มมาสองสามนาทีแบบไม่หยุดเลย ตอนแรกฉันกะจะถามคุณว่าคุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับอาร์มี่ แต่ฉันคิดว่าคุณได้ตอบคําถามนั้นไปแล้วล่ะ (หัวเราะ)

V: พวกเขาก็คือเพื่อนที่ผมไม่อยากเสียไปอ่ะครับ เพื่อนที่คอยให้กําลังใจผมในทุก ๆ ครั้งที่อยู่ใกล้ บางครั้งคุณก็เจอเพื่อนแบบนั้นในชีวิตจริง มันเป็นแบบนั้นกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ด้วยครับ และผมเองก็มีเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ผมสามารถแบ่งปันความรู้สึกของผมด้วยได้ และผมก็มีอาร์มี่ ดังนั้นผมจึงอดไม่ได้ที่จะทําทุกอย่างเพื่อให้คนเหล่านั้น ยิ้มออกและทําให้พวกเขารู้สึกมีความสุขครับ

  • งั้นมีเพลงไหนที่คุณเคยฟังที่อยากให้อาร์มี่ฟังดูบ้างไหม? เพลงที่แบ่งปันความรู้สึกของคุณ

V: อืม ช่วงนี้ No. 1 Party Anthem ของคุณ Arctic Monkeys ครับ เมื่อผมได้ยินเพลงนั้น … ผมถึงกับรู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย (emotional) ทันทีเลยครับ ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยฟังเพลงร็อคสักเท่าไหร่ แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของตัววงด้วยเพลงนั้นทันทีที่ฟัง ผมรู้สึกขนลุกอย่างแท้จริง รู้สึกถึงอารมณ์และ ความรู้สึกทุกอย่างมันถึงจุดที่พอได้ยินเพลงนั้น ผมก็คิดว่าตัวเองอยากจะใช้ชีวิตอย่างดีจริง ๆ ครับ

  • เพลงนี้คงมีความหมายกับคุณมากจริงๆ

V: อันที่จริงแล้ว ผมไม่รู้ว่าเพลงนั้นมันอะไรยังไงหรอกนะครับ ผมไม่รู้เนื้อเพลงด้วยซ้ําครับ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเมโลดี้และการแสดงของวงต้องการสื่ออะไรมาถึงผมอ่ะครับ

  • คุณรู้สึกไหมว่านั่นคืออารมณ์ความรู้สึกที่คุณต้องการจะถ่ายทอดออกไปสู่ผู้คนในฐานะศิลปิน? แบบว่าคุณไม่จําเป็นต้องอธิบายเมสเสจใด ๆ ของคุณอย่างละเอียดเลย [คนก็สามารถเข้าใจได้แล้ว]

V: ไม่รู้สิครับ ผมแค่ต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ดี และเป็นคนที่ยอมรับสิ่งไม่ดีให้ได้ ดังนั้นผมจึงมีความปรารถนา ในการลองทําให้สิ่งที่เจ้งเกี่ยวกับตัวเองให้สมบูรณ์แบบสักอย่างครับ

  • งั้นตอนนี้คุณคิดว่าคุณเข้าใกล้การเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์อะไรที่เจ๋ง ๆ ให้สมบูรณ์แบบขนาดไหนแล้ว?

V: ผมว่า 2% ครับ [เปอร์เซ็นต์] มันจะขึ้นในสักวันหนึ่งในภายหลังครับ (หัวเราะ)

บทความเกี่ยวกับ BTS อื่นๆ >>>>> Weverse Magazine JK

เว็บไซต์อื่นๆน่าสนใจ >>>>> เกมออนไลน์

>>>>> UFABET